'หมอโอ๊ค-โอปอล์' ร้องปอท. ถูกแอบอ้างขายอาหารเสริม
"หมอโอ๊ค-โอปอล์" ร้องปอท. ถูกแอบอ้างขายอาหารเสริม
"หมอโอ๊ค - โอปอล์" ร้องทุกข์กับตำรวจปอท. เพื่อเอาผิดเพจขายอาหารเสริมและยาลดน้ำหนัก แอบนำภาพไปใช้โฆษณา สร้างความน่าเชื่อถือ ด้านตำรวจพบมีเว็บไซต์เปิดให้บริการถึง 15 เว็บไซต์ โดยเป็นเว็บไซต์จากประเทศรัสเซีย
วันที่ 27 ธันวาคม 2562- ที่กองบังคับการปราบปรามการกระทำผิดเกี่ยวกับอาชญากรรมทางเทคโนโลยี นายแพทย์สมิทธิ์ อารยะสกุล หรือ "หมอโอ๊ค" และ นางปณิสรา อารยะสกุล หรือ "โอปอล์" ภรรยา นำหลักฐานภาพเพจเฟซบุ๊กที่มีคนนำภาพไปปลอมบัญชีแอบอ้าง เพื่อสร้างความน่าเชื่อถือในการขายอาหารเสริมไม่ได้มาตรฐาน เข้าแจ้งความต่อ พันตำรวจเอก ศิริวัฒน์ ดีพอ รองผู้บังคับการกองบังคับการปราบปรามการกระทำผิดเกี่ยวกับอาชญากรรมทางเทคโนโลยีและโฆษก บก.ปอท. เพื่อขอให้ตรวจสอบและดำเนินคดีกับผู้ที่แอบอ้างนำภาพไปหลอกลวงผู้อื่น
นายแพทย์สมิทธิ์ และ นางปณิสรา กล่าวว่า เมื่อวันที่ 12 ธันวาคมที่ผ่านมา มีคนไปพบว่ามีภาพของพวกตน ปรากฎโฆษณาขายสินค้าทางช่องทางต่างๆ ในโซเชียลมีเดียทั้งในเพจเฟสบุ๊ค, อินสตาแกรม และเว็ปไซต์ ต่างๆ โดยแอบอ้างว่าหมอโอ๊คเป็นนักวิจัยผู้คิดค้นผลิตภัณฑ์อาหารเสริมและลดน้ำหนัก ใช้ภาพแอบอ้างเป็นหมอโอ๊ค คอยตอบคำถามกับคนที่สนใจซื้อสินค้า และให้ความรู้ทางสุขภาพ เพื่อให้ดูเหมือนเป็นสินค้าของตนเองและมีตัวจริงมาตอบ
นายแพทย์สมิทธิ์ กล่าวอีกว่า หลังจากทราบเรื่อง ก็รีบแจ้งรายงานไปทางเฟซบุ๊กว่าเป็นบัญชีปลอม แต่ปรากฎว่าไม่กี่วันต่อมา ก็มีบัญชีใหม่กลับมาหลอกลวงขายสินค้าแบบเดิมอีก ซึ่งจากการตรวจสอบพบมีเว็บไซต์แบบนี้มากถึง 15 เพจ ที่เปิดให้บริการ และปลายทางของแต่ละเว็บไซต์จะเชื่อมต่อให้ไปสั่งซื้อสินค้าจากต่างประเทศ เชื่อว่ากลุ่มขบวนการขายสินค้าเหล่านี้ทำเป็นขบวนการ ทั้งนี้หากใครที่หลงเชื่อซื้อสินค้าเหล่านี้ไปแล้ว ก็แนะนำให้เข้าแจ้งความกับตำรวจในท้องที่ ให้ดำเนินคดีเอาผิดให้ถึงที่สุด
ด้าน พันตำรวจเอก ศิริวัฒน์ บอกว่า กรณีดังกล่าวไม่เพียงเข้าข่ายเป็นความผิดตาม พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ชัดเจน ยังเข้าข่ายเป็นความผิดฐานฉ้อโกงประชาชนด้วย หลังจากนี้ก็จะรับเรื่องไว้ดำเนินการสืบสวน เพื่อติดตามจับกุมผู้กระทำผิดมาดำเนินคดีตามกฎหมาย
ผู้สื่อข่าวรายงานเพิ่มเติมว่า เจ้าหน้าที่ตำรวจ บก.ปอท.ได้ตรวจสอบพบว่าเว็บไซด์ที่ใช้รูปหมอโอ๊คเป็นพรีเซ็นเตอร์ลดความอ้วน และเพิ่มขนาดอวัยวะเพศชาย เป็นเว็ปที่มาจากประเทศรัสเซีย ทำให้ยากต่อการตรวจสอบ จะได้ทำการเสนอ กระทรวง ดีอีเอส.ปิดกั้นต่อไป