ล่าคนร้ายใช้ปืนลุยเดี่ยวปล้นธนาคารย่านประชาอุทิศ
ล่าคนร้ายใช้ปืนลุยเดี่ยวชิงทรัพย์ธนาคารกรุงเทพโลตัสประชาอุทิศได้ไปเกือบ 8 แสน
เมื่อเวลา 13.45 น. วันที่ 22 ม.ค. 2563 ร.ต.อ.บุญยิ่ง กลิ่นสมเชื้อ รองสวป.สน.ทุ่งครุ รับแจ้งเหตุชิงทรัพย์ธนาคารกรุงเทพ สาขาเทสโก้โลตัสประชาอุทิศ เลขที่ 825 ถนนประชาอุทิศ ซอย 58/2แขวงและเขตทุ่งครุ กทม.จึงรุดไปตรวจสอบพร้อม พล.ต.ท.ภัคพงศ์ พงษ์เภตรา ผบช.น. พล.ต.ต.สัมฤทธิ์ ตงเต๊า ผบก.น.8 พ.ต.อ.มานพ สุคนธ์ธนพัฒน์ รอง ผบก.น.8 พ.ต.อ.สุรเวช การวัฒนาศิริกุล ผกก.สน.ทุ่งครุ เจ้าหน้าที่กองพิสูจน์หลักฐาน เจ้าหน้าที่ กก.สส.บก.น.8 และเจ้าหน้าที่ บก.สส.บช.น.
ที่เกิดเหตุเป็นห้างสรรพสินค้าเทสโก้โลตัส ลักษณะเป็นอาคารชั้นเดียว บนพื้นที่ ประมาณ 10 ไร่ จากการตรวจสอบธนาคารกรุงเทพซึ่งอยู่ด้านหน้าห้าง และติดลานจอดรถ พบว่าเจ้าหน้าที่รปภ.และตำรวจสายตรวจได้ทำการกั้นพื้นที่และกันผู้ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องเข้าไปด้านใน จากการสอบถาม นายประวิทย์ ละม่อนมารดา อายุ 66 ปี พนักงานขับรถแกร๊ปไบค์ ผู้เห็นเหตุการณ์เล่าด้วยอาการตระหนกว่า “ก่อนเกิดเหตุนั่งอยู่ฝั่งตรงข้ามประตูทางเข้าด้านหน้าธนาคารใกล้ร้านสุกี้เอ็มเค รอรับออเดอร์ลูกค้าติดต่อมาสั่งอาหาร พบคนร้ายเป็นชายสูงประมาณ 160-170เซนติเมตร สวมหมวกนิรภัยแบบครี่งใบสีชมพู มีโม่งปิดศีรษะและใบหน้า ใส่เสื้อแจคเก็ตสีดำ นุ่งกางเกงยีนส์สีน้ำเงิน รองเท้าผ้าใบสีเทา ใส่ถุงมือสีดำ และสะพายเป้สีดำ เดินมาจากลานจอดรถด้านข้าง” “จากนั้นคนร้ายเดินเข้าประตูธนาคารปรี่ไปหาเจ้าหน้าที่ รปภ.ของธนาคารโดยคนร้ายชักอาวุธปืนลูกโม่ ไม่ทราบขนาด สีดำ จี้ที่เอวรปภ.เพื่อชิงทรัพย์ปืนลูกโม่ ขนาด .38 ออกจากเอวของ รปภ. ไปอีก 1 กระบอกแล้วคนร้ายเดินเข้าไปที่เคาน์เตอร์ 3 ใช้ปืนจี้พนักงานหญิงประจำเคาน์เตอร์เพื่อให้หยิบเงินสดใส่เป้สีดำไม่ทราบจำนวน แล้วคนร้ายก็รีบวิ่งออกจากธนาคารมุ่งหน้าไปที่ลานจอดรถด้านข้าง ก่อนขี่ จยย.แบบผู้หญิงตนไม่มั่นใจว่า ยี่ห้อยามาฮ่า รุ่นฟีโน่ หรือ ยี่ห้อฮอนด้ารุ่นสกู๊ปปี้ไอ สีดำไม่ติดแผ่นป้ายทะเบียน หลบหนีไปทางถนนประชาอุทิศขาเข้า โดยจังหวะนั้นตนใช้โทรศัพท์มือถือถ่ายภาพคนร้ายเอาไว้ตั้งแต่วิ่งออกจากธนาคาร”นายประวิทย์ กล่าว
ด้าน พล.ต.ท.ภัคพงศ์ กล่าวว่า“หลังเกิดเหตุได้ประสานกองพิสูจน์หลักฐานเข้ามาเก็บลายนิ้วมือแฝงเป็นที่เรียบร้อยขณะเดียวกันคนร้ายได้ทำซองอาวุธปืนตกไว้ จำนวน 1 ชิ้น เจ้าหน้าที่จึงเก็บรวบรวมไว้เป็นหลักฐาน ขณะนี้ยังไม่สามารถรวบรวมหลักฐานใดๆ ได้มากเท่าที่ควรเนื่องจากคนร้ายเตรียมการมาดี แต่งกายมิดชิด และมีอาวุธปืนข่มขู่พยานส่วนยอดเงินที่ถูกชิงทรัพย์ไปยังอยู่ระหว่างการตรวจนับของเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องซึ่งตนขอฝากประชาสัมพันธ์ไปถึงบรรดาผู้ประกอบการร้านทอง ร้านสะดวกซื้อและเจ้าหน้าที่ธนาคาร หากเกิดเหตุการณ์ในทำนองนี้ขึ้นขออย่าขัดขืนต่อสู้คนร้ายหากเผชิญเหตุจริงๆ ขอให้ตั้งสติจดจำรูปพรรณสัณฐาน และยานพาหนะรวมถึงอาวุธของคนร้ายให้ได้มากที่สุด สำหรับคนร้ายรายนี้ตนมั่นใจว่าจะสามารถจับได้แน่นอน”ผู้สื่อข่าวรายงานฝ่ายสืบสวน บก.สส.บช.น.ได้ทำการตรวจสอบกล้องวงจรปิดในละแวกที่เกิดเหตุโดยรอบ พบว่าประมาณ 09.30 น.วันเดียวกันนี้มีชายต้องสงสัยรูปพรรณสัณฐานใกล้เคียงกับคนร้าย มาป้วนเปี้ยนในห้างสรรพสินค้า โดยเฉพาะเคาน์เตอร์ประชาสัมพันธ์ซึ่งใกล้เคียงทางเข้าออกธนาคารฝั่งด้านในห้างประมาณ 10 เมตร ใช้เวลาวนเวียนไปมาอยู่หลายรอบ จนพนักงานที่อยู่ในบริเวณดังกล่าวจดจำได้ จึงแจ้งข้อมูลให้ฝ่ายสืบสวนเก็บบันทึกรายละเอียดเอาไว้ส่วนเส้นทางการเดินทางของคนร้ายเชื่อว่า มาจากถนนประชาอุทิศ ซอย 62และระหว่างก่อเหตุเข้าไปในธนาคารเพื่อปลดปืน รปภ. ทางด้านรปภ.ก็ไม่ได้ขัดขืนต่อสู้ เมื่อก่อเหตุสำเร็จคนร้ายได้เงินไปประมาณเจ็ดแสนกว่าบาท ไม่ได้ใช้เส้นทางเดิม โดยเปลี่ยนเป็นมุ่งหน้าหลบหนีไปทางถนนประชาอุทิศฝั่งขาเข้าแทน ซึ่งหลังจากเจ้าหน้าที่จะติดตามตัวมาดำเนินคดีต่อไป.
ภาพถ่าย/รายงาน ชุติเดช ม่วงใจรักษ์ ผู้สื่อข่าวคมชัดลึก