ไวรัสโคโรนาพันธุ์ใหม่คร่าผู้ป่วยรายแรกนอกอู่ฮั่น | คมชัดลึก

 

 

               24 ม.ค.2563-มีรายงานผู้เสียชีวิตรายแรกจากไวรัสอู่ฮั่นนอกมณฑลหูเป่ยแล้วเมื่อวาน โดยผู้เสียชีวิตวัย 80 ปีรายนี้ อยู่ที่มณฑลเหอเป่ย ใกล้กับปักกิ่ง เขาป่วยหลังจากที่ไปเยี่ยมญาติที่เมืองอู่ฮั่น ในมณฑลหูเป่ยนานถึง 2 เดือน ขณะคนที่เคยสัมผัสใกล้ชิดกับเขา หลังจากที่กลับมาบ้าน 76 คนถูกกักกันโรค แต่จนถึงปัจจุบัน ยังไม่มีใครที่แสดงว่ามีอาการไข้แต่อย่างใด

 

 

             การเสียชีวิตรายนี้ถือเป็นการเสียชีวิตจากไวรัสอู่ฮั่นรายที่ 18 โดย 17 รายก่อนหน้านี้ ล้วนแล้วแต่อยู่ในมณฑลหูเป่ย ที่เป็นศูนย์กลางของการระบาดในครั้งนี้ทั้งสิ้น ผู้เสียชีวิตรายที่ 18 เสียชีวิตเมื่อวันพุธ แต่ผลการพิสูจน์เพิ่งจะยืนยันเมื่อวาน 
  

             ขณะที่จนถึงปัจจุบัน มีเมืองต่าง ๆ ประกาศปิดเมืองเพื่อสกัดการระบาดของไวรัสแล้วรวม 8 เมืองด้วยกัน โดยทั้งหมดอยู่ในมณฑลหูเป่ย โดยประกอบไปด้วยเมืองอู่ฮั่น , หวงกัง , เอ้อโจว , เซียนเถา , เฉียนเจียง , ชื่อเจียง , ลี่ฉวน และ ชื่อปี้

 

             ในส่วนของเที่ยวบิน รถไฟ รถโดยสารและเรือข้ามฟากที่เชื่อมโยงเมืองอู่ฮั่นกับเมืองอื่น ๆ ในมณฑลหูเป่ย ถูกระงับทั้งหมด ทางการอู่ฮั่น ยังสั่งระงับการดำเนินการของบริษัทท่องเที่ยวในท้องถิ่นทั้งหมด และให้โรงเรียนทุกแห่งเลื่อนการเปิดเทอมภาคฤดูใบไม้ผลิออกไปด้วย ขณะที่กระะทรวงการคลังจีน ก็ประกาศจัดสรรงบประมาณ 1 พันล้านหยวน หรือประมาณ 4 พัน 400 ล้านบาท ให้ทางการหูเป่ยนำมาใช้เพื่อการหยุดการ ระบาดของไวรัส

 

 

 

              เกือบทั้งหมดอยู่ในอู่ฮั่น เมืองเอกมณฑลหูเป่ย มีรายเดียวเสียชีวิตต่างเมืองในมณฑล  ยอดผู้ติดเชื้อพุ่งพรวดเป็น 830 คน นอกจากนี้ยังมีผู้ต้องสงสัยติดเชื้ออีก 1,072 คน

     

 

             โดยผู้ติดเชื้อกระจัดกระจายอยู่ใน 25 เขตปกครองของจีน และอีก 4 เทศบาลเมือง กับ 2 เขตปกครองพิเศษอย่างมาเก๊าและฮ่องกง รวมถึงอีก 6 ประเทศอื่น ๆ  โดยล่าสุดสิงคโปร์ และเวียดนามก็พบผู้ติดเชื้อรายแรกด้วยเช่นกัน  โดยที่ไทยพบผู้ติดเชื้อ 4 คน ฮ่องกง , มาเก๊า และเวียดนามพบแห่งละ 2 คน ที่ไต้หวัน สิงคโปร์ เกาหลีใต้ สหรัฐ และญี่ปุ่น พบแห่งละ 1 คน

 

 

             ขณะเดียวกัน หลังการประชุมหารือมานาน 2 วัน ทางองค์การอนามัยโลก หรือ WHO ตัดสินใจยังไม่ประกาศภาวะฉุกเฉินระดับโลกเพื่อรับมือกับการระบาดของไวรัสอู่ฮั่น โดยมองว่าไวรัสตัวนี้ยังไม่ได้ก่อให้เกิดภาวะฉุกเฉินต่อระบบสาธารณสุขระหว่างประเทศ

 

 

             ผู้อำนวยการ WHO นายแพทย์เทดรอส  เกเบรเยซุส บอกในการแถลงข่าวว่า นี่เป็นสถานการณ์ฉุกเฉินของจีน แต่มันยังไม่ได้เป็นสถานการณ์ฉุกเฉินระดับโลก เขาบอกด้วยว่า นอกเขตแดนของจีน ยังไม่พบการติดต่อจากคนสู่คน แต่ก็ไม่ได้หมายความว่ามันจะไม่เกิดขึ้น 

 

 

             ด้าน ดิดิเยร์ อุสซิน หัวหน้าคณะกรรมการฉุกเฉินของ WHO บอกว่า ที่ผลการประชุมสรุปออกมาเช่นนี้ ก็เป็นเพราะจำนวนการติดเชื้อนอกประเทศจีนที่มีอยู่จำกัด แต่คณะกรรมการที่มีเสียงสนับสนุนและไม่สนับสนุนการประกาศภาวะฉุกเฉินแบบ 50 - 50 สามารถกลับมาประชุมกันใหม่เพื่อทบทวนการตัดสินใจได้ทุกเมื่อ หากเห็นว่าจำเป็น

 

 

             เชื่อกันว่า ไวรัสที่มีชื่อจริงว่า 2019-nCoV เข้าสู่ร่างกายมนุษย์เป็นครั้แรกที่ตลาดขายอาหารทะเลและเนื้อสัตว์ในเมืองอู่ฮั่น ซึ่งเป็นศูนย์กลางการขนส่งของจีน ประกอบกับช่วงนี้เป็นช่วงตรุษจีนที่ผู้คนเดินทางกันมากมาย จึงสร้างความวิตกเรื่องการแพร่กระ จายของเชื้อไปทั่วประเทศ แต่อัตราการเสียชีวิตจากไวรัสตัวนี้ต่ำกว่าโรค SARS และ Mers ที่ระบาดช่วงทศวรรษที่ 2000 และ กลางทศวรรรษที่ 2010 และมีสาเหตุมา
จากโคโรนาไวรัสกลุ่มเดียวกับไวรัสอู่ฮั่นอยู่มาก จีนบอกว่าเหยื่อของไวรัสอู่ฮั่นโดยหลัก คือมากกว่าครึ่ง เป็นผู้ที่สูงอายุมาก ๆ คืออยู่ในวัย 80 ปี ซึ่งเป็นผู้มีปัญหาทางด้านสุข ภาพย่ำแย่อยู่ก่อนแล้ว

 

โต๊ะต่างประเทศ NationTV