ข่าว

แจงปมเด้ง วิระชัย แค่ย้ายชั่วคราว ช่วงรอผลผลสอบชี้ชัด

แจงปมเด้ง วิระชัย แค่ย้ายชั่วคราว ช่วงรอผลผลสอบชี้ชัด

25 ม.ค. 2563

"วิษณุ" แจงปมเด้ง "วิระชัย" แค่ย้ายชั่วคราว ช่วงรอผลผลสอบชี้ชัด เพื่อสตช.สะดวกสอบสวน ส่วนกรณี "บิ๊กโจ๊ก" แค่คำสั่งเตือน-ปราม ยังไม่มีลงโทษ

 

 

                 25 ม.ค.2563- “วิษณุ” แจงปมเด้ง “วิระชัย” แค่ย้ายชั่วคราว ช่วงรอผลผลสอบชี้ชัด เพื่อสตช.สะดวกสอบสวน ส่วนกรณี "บิ๊กโจ๊ก" แค่คำสั่งเตือน-ปราม ยังไม่มีลงโทษ เหตุเรื่องร้องเรียนยังไม่ชัด ยกอดีตเคยมีคำสั่งเตือนลักษณะนี้ 
  

 

 

  

              เมื่อเวลา 15.20 น.ที่เซ็นทรัลพลาซา เวสต์เกต นายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีคำสั่งสำนักงานตำรวจแห่งชาติให้พล.ต.อ.ชัยวัฒน์ เกตุวรชัย รองผบ.ตร.ไปปฏิบัติราชการที่ศูนย์ปฏิบัติการสำนักงานตำรวจแห่งชาติ(ศปก.)ว่า คำสั่งในส่วนของพล.ต.อ.ชัยวัฒน์ เป็นเรื่องภายในของสตช.เป็นการใช้อำนาจของผบ.ตร. เรื่องของความเหมาะสม

 

 

              โดยไม่ได้มีการสอบสวนอะไร ส่วนของพล.ต.อ.วิระชัย ทรงเมตตา รองผบ.ตร.เป็นคำสั่งสำนักนายกรัฐมนตรี ที่ให้ไปปฏิบัติราชการสำนักนายกรัฐมนตรี เป็นการมาช่วยราชการที่สำนักนายกรัฐมนตรีเป็นการชั่วคราว โดยมีระยะเวลาไม่นาน เพื่อให้สะดวกต่อการสอบสวนที่มีอยู่ขณะนี้ เว้นแต่จะมีคำสั่งเปลี่ยนแปลงเป็นอย่างอื่น ตรงนี้เป็นการอาศัยพ.ร.บ. ระเบียบบริหารราชการ จึงเป็นอำนาจของนายกฯพิจารณาไม่ต้องเข้าคณะรัฐมนตรี (ครม.)และไม่ต้องโปรดเกล้าฯ และยังไม่พ้นจากตำแหน่ง ถือว่าเป็นการมาแค่ตัวแต่ยังรับเงินเดือนที่สังกัดเดิม โดยพล.ต.อ.วิระชัย รับทราบคำสั่งแล้ว

         

 

              นายวิษณุ กล่าวว่า ส่วนคำสั่งนายกรัฐมนตรีกำชับให้ พล.ต.ท.สุรเชษฐ์ หักพาล ที่ปรึกษาพิเศษประจำสำนักนายกรัฐมนตรี รักษาจรรยาและวินัยข้าราชการนั้น เป็นการเตือนและปรามไว้ก่อน เนื่องจากมีเรื่องร้องเรียนแต่ยังไม่ชัดเจนมากพอ และถ้ามีการร้องเรียนที่ชัดเจนเป็นหน้าที่ปลัดสำนักนายกรัฐมนตรีสอบสวน ดังนั้นคำสั่งจึงเป็นการเตือนและปราบไว้ก่อนเท่านั้น ไม่ได้มีการลงโทษอะไร และเจ้าตัวรับทราบแล้ว ซึ่งต้องระวังอย่าทำผิดวินัย การที่คำสั่งต้องระบุอะไรหลายอย่างเพราะมีเรื่องร้องเรียนที่เข้าข่ายจึงต้องเตือนให้รู้ตัว

          

 

               นายวิษณุ กล่าวว่ ทั้งนี้ มีคำถามอีกว่าทำไมถึงไม่เตือนที่เจ้าตัว ทำไมต้องออกเป็นคำสั่ง เพราะเป็นเรื่องที่จำเป็น เนื่องจากเป็นการใช้อำนาจที่อ้างตามกฏหมายและต้องการส่งสัญญาณไปถึงหลายคนเพื่อให้รับทราบเอาไว้ ซึ่งที่ผ่านมาก็เคยมีการเตือนในลักษณะนี้ แต่เป็นระดับอธิบดี ปลัดเตือน จึงไม่ได้รับความสนใจอะไร ไม่เหมือนกรณีนี้เหมือนที่นายกฯเป็นผู้บังคับบัญชาจึงต้องลงมาเซ็นเอง สำหรับการปฎิบัติหน้าที่ของพล.ต.ท.สุรเชษฐ์ ไม่มีรถและเงินเดือนประจำตำแหน่ง ไม่มีสิทธิอะไร เมื่อมาอยู่ตรงนี้ปลัดสำนักนายกรัฐมนตรีได้มอบหมายงาน โดยจะลดการมอบหมายลงไประยะหนึ่ง ส่วนจะคืนงานกลับให้หรือไม่ค่อยพิจารณาว่ากันอีกที