พ่อลั่นไม่ให้อภัยลูกคลั่งยา ทำร้ายแม่ เผยทำมาแล้ว4ครั้ง
พ่อลั่นไม่ให้อภัยลูกคลั่งยา ทำร้ายแม่ เผยทำมาแล้ว4ครั้ง
จากกรณีเหตุการณ์คดีสะเทือนใจนางเราะปิฉะ ใบแหล้ อายุ 65ปี แม่วัยชราถูกนายสมชาย สันเตะหรือชื่อเล่นว่า”บังเลาะ” ลูกชายแท้ๆวัย 35 ปี ซึ่งเสพยาเสพติดจนติดขั้นรุนแรงได้เมายาคลุ้มคลั่งอาละวาดทะเลาะกับแม่ ก่อนจะยกรถจักรยานสองล้อถีบขนาดเล็กของเด็กยกฟาดศีรษะนางรอปีฉะ ผู้เป็นแม่จนหัวแตกเลือดอาบแผลยาว 8 ซม.หลบหนีหายไป ที่บ้านเลขที่ 129/2 หมู่ 7 ต.ท่าศาลา อ.ท่าศาลา จ.นครศรีธรรมราชเมื่อค่ำวันที่26มค.ที่ผ่านมา หลังเกิดเหตุทางญาติ ๆ ได้แจ้งเจ้ามูลนิธิประชาร่วมใจ อ.ท่าศาลา รีบมาช่วยเหลือปฐมพยาบาลห้ามเลือดและรีบนำส่ง รพ.ท่าศาลา เพื่อให้แพทย์รักษานอน รพ.จนอาการพ้นขีดอันตรายแล้ว เจ้าหน้าที่ตำรวจได้ระดมกำลังติดตามจับกุมตัวนายสมชาย หรือ “บังเลาะ” ตลอดทั้งคืนที่ผ่านมา (26 ม.ค.)แต่ไร้วี่แวว ตามที่เสนอข่าวไปแล้วนั้น
28 ม.ค. ผู้สื่อข่าวรายงานว่าเมื่อวานนี้ (27 ม.ค.) ได้เดินทางไปยังบ้านเกิดเหตุเลขที่ 129/2 หมู่7 ต.ท่าศาลา อ.ทาศาลา จ.นครศรีธรรมราช พบว่าเป็นบ้านปูนชั้นเดียว พบนายอะสาร สันเตะ อายุ 65 ปี บิดาของนายสมชาย หรือ“บังเลาะ” ได้นำผู้สื่อข่าวชี้จุดที่เกิดเหตุและร่องรอยที่เกิดเหตุและรถจักรยานสองล้อเด็กที่ยังจอดในบ้าน สำหรับนางเราะปิฉะ เมียรักของตนอาการปลอดภัยแล้วแต่แพทย์ยังให้นอนพักรักษาตัวและรอดูอาการที่ รพ.ท่าศาลาอีกระยะหนึ่ง นายอะสาร กล่าว
นายอะสาร สันเตะ เปิดเผยว่า ครอบครัวตนพร้อมบรรดาญาติ ๆและเพื่อนบ้านใกล้เคียงต่างเอือมระอากับนายสมชาย หรือ “บังเลาะ” นอกนอกคอกของตนคนนี้เป็นอย่างมาก ตนมีลูกทั้งหมด 8 คน ซึ่งนายสมชาย หรือ “บังเลาะ” ลูกทรพีรายนี้เป็นคนที่ 2 ติดยาเสพติดงอมแงมจะเสพยาบ้าเป็นประจำทุกวันและทุกครั้งเมื่อเมายาก็จะอาละวาดทำร้ายแม่และคนในครอบครัวเป็นประจำ เคยถูกจับกุมไปบำบัดหลายครั้งแล้วก็ยังไม่หาย เมื่อออกมาบ้านจะกลับมาเสพยาอีกงานการก็ไม่ยอมทำเป็นหลักแหล่ง และมักจะเข้ามาขโมยข้าวของในบ้านแม้กระทั่งไก่ที่เลี้ยงไว้ไปขายจนหมดเพื่อนำเงินไปซื้อยาบ้ามาเสพวันหนึ่งหลายเม็ดประมาณ 2-5 เม็ด หลังเมายาบ้าก็จะกลับมาอาละวาดทำร้ายแม่และคนในบ้านเป็นประจำเพื่อจะขอเงินไปซื้อยาบ้ามาเสพ ในรอบ 2 เดือนที่ผ่านมา อาละวาดทำร้ายแม่มาแล้ว 4 ครั้ง จนล่าสุดมาก่อเหตุหนักหน่อยใช้รถจักรยานสองล้อเด็กฟาดทุบหัวแม่จนแตกเลือดอาบ และมักจะหลบหนีไปบ้านอดีตแม่ยาย แต่ครอบครัวของอดีตแม่ยายก็เอือมระอา และหวาดกลัวนายสมชาย เช่นกัน จนตนและญาติไม่รู้จะทำยังไงดีกับลูกสุดชั่วรายนี้
“หลังเกิดเหตุตนไม่รู้จะทำอย่างไรเลยโทรศัพท์ตามลูก ๆ ที่ไปมีครอบครัวอยู่ในกรุงเทพ สตูล และจังหวัดต่าง ๆ พากันเดินทางกลับมาบ้าน บางส่วนมาถึง และช่วงตี 4ที่ผ่านมา และนายสมชายหรือเลาะ ที่หลังก่อเหตุหลบหนีไปนอนบ้านอดีตแม่ยายได้ย้อนกลับมายังแอบเข้าไปนอนในบ้านอีกเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น เมื่อพี่ ๆ น้อง ๆ มาถึงนายสมชาย หรือ “บังเลาะ” ก็อาละวาดทำร้ายคนในบ้านอีก แต่ถูกพี่ ๆ น้อง ๆ คว้ามีดพร้า ขวาน จอบ เป็นอาวุธป้องกันตัวและกรูกันเข้าไปต่อสู้กับนายสมชาย หรือ “บังเลาะ” พร้อมประกาศอย่างโกรธแค้นว่าแม้จะเป็นพี่น้องสายโลหิตเดียวกัน แต่เมื่อทำร้ายพ่อแม่อย่างโหดร้ายทารุณเช่นนี้ก็เอาไว้ไม่ได้ พี่ ๆ น้อง ๆ จำใจต้องฆ่าทิ้งให้รู้แล้วรู้รอดไปเลย มีชีวิตอยู่ต่อไปก็เป็นอันตรายกับพ่อแม่ ญาติ ๆ และชาวบ้านคนอื่น ๆ นายสมชาย หรือ “บังเลาะ” เห็นท่าไม่ได้จึงวิ่งหลบหนีออกจากบ้าน ตนและลูก ๆ จึงโทรศัพท์แจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจมาติดตามจับกุมตัวนายสมชย หรือ “บังเลาะ”ลูกชั่วคนนี้ไปดำเนินคดีตามกฎหมาย"
“ มันเป็นอันธพาล ไม่รู้สำนึกใด ๆ เลย ตนและภรรยาที่เป็นพ่อแม่บังเกิดเกล้าพยายามว่ากล่าวตักเตือนเรื่องการเสพยาเสพติด แต่มันประกาศก้องไม่ต้องมาพูดมาตักเตือนมันเรื่องการเสพยาเสพติด มันบอกว่าไม่ต้องมาเสือก กับแม่บังเกิดเกล้ามันเรียกไอ้สัตว์ ได้หน้าหมา ในขณะที่กับตนมันเรียกไอ้วัว ไอ้ควาย ตนไม่รู้จะพูดหรือทำอย่างไรกับลูกชั่วคนนี้และตนจะไม่อภัยให้อีกแล้ว จนกว่าวันหนึ่งจะกลับตัวกลับใจมาเป็นคนที่มีสำนึก คิดดี ทำดีอย่างแม้จจริง นั่นแหละผมจึงจะอภัยให้มัน” นายอะสาร กล่าวในที่สุด
ต่อมา พ.ต.อ.อนันต์ หริกจันทร์ ผกก.สภ.ท่าศาลา จ.นครศรีธรรมราช พร้อมด้วย พ.ต.ท.เกษมสิทธิ์ จำปาทอง รอง ผกก.(สอบสวน)และพ.ต.ท.เมธี พาชื่นใจ สว.(สอบสวน) พร้อมด้วยด.ต.สุทธิศักดิ์ พิทักษ์ทองคำ หัวหน้าสายตรวจป้อมตำรวจสี่แยกหน้าทับ ได้นำกำลังตำรวจลงพื้นที่ติดตามจับกุมตัวนายสมชาย หรือ “บังเลาะ” โดยมีลูก ๆ ของนายอะสาร สันเตะ และญาติ ๆ ร่วมกันออกชวยเหลือตำรวจติดตามจับกุมตัวลูกทรพีรายนี้อย่างกระชันชิด
จนพบว่าหลบหนีไปซ่อนตัวบ้านอดีตแม่ยาย ในขณะที่คนในครอยครัวของอดีตแม่บายก็หวาดหลัวพากันหลบหนีออกจากบ้าน เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงเขาจับกุมจับกุมตัวนายสมชาย หรือ “บังเลาะ”ลูกทรพีเอาไว้ได้โดยละม่อม ในขระที่นายอะสาร พ่อนายสมชาย หรือ “บังเลาะ และญาติ ๆ ยืนยันให้เจ้าหน้าที่ตำรวจควบคุมตัวไปดำเนินคดีตามกฎหมายจนถึงที่สุด พร้อมวิงวอนขอร้องอย่าให้ตำรวจปล่อยออกมาอีก ขอให้นำตัวไปบำบัดอาการติดยาเสพติดอย่างจริงจังต่อเนื่องให้หายขาดเสียที
ด้าน พ.ต.อ.อนันต์ หริกจันทร์ ผกก.สภ.ท่าศาลา เปิดเผยว่า ในเบื้องต้นทางตำรวจจะได้ดำเนินคดีนายสมชายในข้อหาทำร้ายร่างกายบุพการีและเสพยาเสพติด ตามประวัติแม้จะเคยบำบัดรักษายาเสพติดใน รพ.มาแล้วก็ตาม แต่เมื่อบำบัดแต่ยังไม่เลิกเสพยาก็กลับมาเหมอนเดิมอีก เมื่อเสพยาจะคลุ้มคลั่งและยังอาละวาดหนักกว่าเดิมอีก ดังนั้นนอกจากจะดำเนินคดีตามกฎหมายแล้ว จะต้องหามาตรการในการเจ้ารับการบำบัดยาเสพติดยาเสพติดอย่างจริงจังต่อเนื่องเพื่อให้เข็ดหลาบและหายจากอาหารติดยาต่อไป
ผู้สื่อข่าวรายงานว่าหลังจากโดนจับกุมทางพี่ ๆ น้อง ได้เข้าไปชี้หน้าสอบถามนายสมชาย หรือบังเลาะ”ด้วยความไม่พอใจว่า “มึงทำร้ายแม่ทำไม นายสมชาย ถึงกับนั่งก้มหน้า และกล่าวว่าแค่ผลักแม่เบา แม่ล้มไปโดนรถจักรยานเอง พร้อมยอมรับว่าเสพยาบ้าวันละ 2 เม็ดไม่ใช่ 4-5 เม็ดเหมือนที่นายอะสาร พ่อบอกนักข่าว เมื่อตำรวจเค้นสอบถามถึงแหล่งที่ไปซื้อยาบ้านายสมชาย หรือ”บังเลาะ” อ้างไม่ไม่ต้องซื้อมีเพื่อนมาให้ฟรีๆ ในขณะที่เพื่อนบ้านในละแวกใกล้เคียง ให้ข้อมูลกับตำรวจว่า นายสมชาย หรือ “บังเลาะ”ทาสยานรกรายนี้นับเป็นภัยสังคมเป็นอย่างมาก เมื่อเมายาจะคุ้มคลั่งอาละวาด ชาวบ้านพากันหวาดกลัวหวาดผวา แม้แต่พ่อแม่มนก็ยังทุบตีทำร้ายอย่างโหดร้ายป่าเถื่อน จึงเกรงว่าจะอาละวาดทำร้ายชาวบ้านข้งเคียงไปด้วย โดยเฉพาะมีเพื่อนบ้านที่พิการติดเตียงอยู่หลายคน จึงอยากให้ตำรวจดำเนินคดีสถานหนักอย่าแค่จับไปแล้วดำเนินคดีติดคุก 1-3 เดือนก็พ้นโทษออกมาและมีพฤติกรรมเมือนเดิมอีก.
ภาพ/คลิป /ยุทธนะ เตมะศิริ /กู้ภัยประชาร่วมใจเขตอ.ท่าศาลา จ.นครศรีธรรมราช
ยุทธนะ เตมะศิริ นครศรีธรรมราช