ผู้เชี่ยวชาญ"ไวรัสโคโรน่า"จำลองกราฟ 3 สี เมื่อมีผู้ป่วยเพิ่ม
ผู้เชี่ยวชาญ"ไวรัสโคโรน่า"จำลองกราฟ 3 สี เมื่อมีผู้ป่วยเพิ่ม หน่วยงานจะรองรับไหวมั้ย
ศ.นพ.ยง ภู่วรรณ ผู้เชียวชาญทางด้านไวรัสวิทยาคลินิก ภาควิชากุมารเวชศาสตร์ คณะแพทยศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย โพสต์ข้อความถึงกราฟจำลอง 3 สี ที่เผยให้เห็นถึงรูปแบบในการป้องกันการระบาดไวรัสโคโรน่า และผลกระทบที่จะเกิดขึ้น
การเตรียมพร้อม ในการลดความสูญเสีย เมื่อมีการระบาดของโรค ตามรูปของกราฟ โดยธรรมชาติ การระบาดของโรค เมื่อมีผู้ติดเชื้อจำนวนมาก จนมีภูมิต้านทานกลุ่มเกิดขึ้นมากพอ โรคก็จะหยุดระบาดถ้าปล่อยให้เป็นไปตามธรรมชาติ โดยไม่ได้ทำอะไรเลย การระบาดของโรคจะเกิดขึ้นอย่างรวดเร็ว
ตามภาพจำลองเส้นกราฟสีแดง ถ้าไม่ทำอะไรเลย การระบาดจะมีผู้ป่วยจำนวนมาก อาจใช้เวลาประมาณ 6 เดือน เมื่อมีผู้ป่วยติดเชื้อและมีภูมิต้านทานเกิดขึ้น เป็นจำนวนมาก โรคก็จะหยุดเอง
ปัญหาจึงอยู่ว่า เมื่อมีผู้ป่วยจำนวนมาก จะเกินความสามารถที่ บุคลากรทางการแพทย์และระบบสาธารณสุขจะรองรับได้ การดูแลจะไม่ทั่วถึง ไม่มีเตียงรับผู้ป่วย เกิดโกลาหลวุ่นวาย และยังความสูญเสียจำนวนมาก
แต่ถ้าเรามีมาตรการในการดูแล ควบคุม พยายามหยุดยั้งการระบาดของโรค ด้วยมาตรการระดับหนึ่งประชาชนทุกคนช่วยกัน ให้การระบาดของโรคลดลง และระยะเวลาจะยาวนานขึ้น เป็นแบบเส้นสีขาว แต่ในบางครั้งหรือบางระยะ เวลาการสาธารณสุขจะไม่สามารถรองรับได้ เป็นครั้งคราว
สิ่งที่เราอยากให้เห็น และให้เป็น คือแบบเส้นสีเหลือง ในการใช้มาตรการทุกสิ่งอย่าง เข้มงวด จริงจัง ที่ขัดขวางการระบาดของโรค ให้มีจำนวนผู้ติดโรคน้อยที่สุด การระบาดของโรค จะยาวนานขึ้น จนกว่าจะเกิดภูมิคุ้มกันกลุ่ม อาจจะมากกว่า 1 ปี แต่มาตรการการดูแลผู้ป่วย และระบบสาธารณสุขจะทำได้ดีขึ้นการสูญเสียจะน้อยที่สุด เป็นการกระจายผู้ป่วยให้เกิดขึ้นทีละน้อย จนกว่าจะได้ภูมิคุ้มกันกลุ่มมากเพียงพอ หรือมีวัคซีนมาช่วยเสริมภูมิต้านทานกลุ่มให้เร็วขึ้น โรคก็จะหยุดระบาด และกลายเป็นโรคประจำถิ่น
เรามาช่วยกันใช้มาตรการทุกอย่างในการป้องกัน ไม่ให้เกิดการระบาดใหญ่อย่างรวดเร็ว แบบในเมืองอู่ฮั่นที่ตั้งตัวไม่ทัน ถึงต้องสร้างโรงพยาบาลสนาม เพื่อให้ระบบการสาธารณสุขของเรารองรับได้ และไม่อยากเห็นผู้ป่วยเป็นจำนวนมากเกิดขึ้นพร้อมกันนอกจากทางราชการหรือผู้เกี่ยวข้องทำงานอย่างหนักกันแล้วเราทุกคนจะต้องช่วยกันดูแลป้องกัน ดูแลตนเองด้วย
การระบาดอย่างรวดเร็วของโรคปอดบวมอู่ฮั่น โคโรนาไวรัสสายพันธุ์ใหม่ 2019
โรคนี้ระบาดได้อย่างรวดเร็วและมีผู้ป่วยจำนวนมาก (รวม 6000 คนแล้ว) รวดเร็วกว่า SARS หลายเท่า โรค SARS เริ่มเกิดขึ้นในเดือนพฤศจิกายน กว่าจะไปเริ่มระบาดจริงๆในเดือนกุมภาพันธ์ และระบาดมากในมีนาคม เมษายน 2003 ก็ไม่เร็วเท่าโรคปอดบวมอู่ฮั่น
สาเหตุที่เชื่อว่าโรคนี้จะระบาด เกิดขึ้นได้ในประเทศไทย ด้วยเหตุผลดังต่อไปนี้
1 การระบาดในประเทศจีนเกิดขึ้นอย่างรวดเร็ว การที่รู้ว่า มีผู้ป่วยปอดบวมพร้อมกัน 41 คน ในขณะนั้นการระบาดเป็นการรับช่วง จากผู้ป่วยส่งต่อกันมาถึงระดับที่ 4 หมายถึง ผู้ป่วยคนแรกไม่น่าจะมาจากตลาดขายของสด ในช่วงเวลาขณะนั้น มีผู้ป่วยจำนวนหนึ่งไม่ได้สัมผัสตลาดนี้เลย
2 ความรุนแรงของโรคนี้น้อย เมื่อเปรียบเทียบกับ SARS และ MERS อัตราตายของโรคนี้ ถ้าดูจำนวนเปอร์เซ็นต์จะมีแนวโน้มลดลงเรื่อยๆ เชื่อว่าน่าจะน้อยกว่า 1% หรืออาจจะอยู่ที่ 1 ในพัน จากผู้ป่วยที่เป็นนอกประเทศจีน กว่า 100 คนไม่มีผู้ใดเสียชีวิตเลย เพราะการวินิจฉัยจะทำได้ดีและรวดเร็วขึ้น และยอดผู้ป่วยที่แท้จริงจะมีมากกว่าผู้ป่วยที่รายงานมาก ตัวเลขอัตราการตาย ก็จะค่อยๆลดลงเหมือนการระบาดของไข้หวัดใหญ่ ในปี 2009
3 การนับจำนวนผู้ป่วยและผู้เสียชีวิต จะเพิ่มขึ้น และเชื่อว่า อีก 1-2 เดือนต่อไป ก็จะไม่มีการนับแล้วเช่นเดียวกับการระบาดไข้หวัดใหญ่เมื่อ 10 ปีก่อน พอไปถึงระยะหนึ่งก็เลิกนับจำนวน
4 เมื่อโรคมีความรุนแรงน้อย จึงมีผู้ป่วยจำนวนมากที่ไม่ได้รับการวินิจฉัย และยังแพร่กระจายโรคได้ มีการเดินทาง จึงทำให้เกิดการแพร่กระจายของโรคได้อย่างรวดเร็ว
5 ขณะนี้ มีผู้ป่วยที่ไม่ได้ไปสัมผัสในประเทศจีน เกิดขึ้นในหลายประเทศเช่น เวียตนาม ญี่ปุ่นและเยอรมัน ดังนั้นก็จะพบได้อีกในหลายประเทศต่อไป
6 ความรุนแรงเหมือนไข้หวัดใหญ่ การระบาดจึงเหมือนไข้หวัดใหญ่ ที่พร้อมจะกระจายข้ามทวีป และกระจายไปทั่วโลก อย่างเช่นไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่ 2009 ซึ่งใช้เวลาไม่ถึง 6 เดือนก็กระจายไปทั่วโลก
CR.Yong Poovorawan , Xinhuanews