ข่าว

พื้นที่เกษตรหยุดเผาลดฝุ่น

พื้นที่เกษตรหยุดเผาลดฝุ่น

05 ก.พ. 2563

เดินหน้าโครงการหยุดเผาในพื้นที่เกษตร เพื่อบรรเทาผลกระทบจากฝุ่นละออง PM 2.5 พร้อมส่งเสริมการนำเศษวัชพืชและเศษวัสดุทางการเกษตรมาทำให้เกิดมูลค่า ควบคู่กับการทำเกษตรยั่งยืนแบบ "วนเกษตร" เพิ่มพื้นที่สีเขียว

 

5 กุมภาพันธ์ 2563 นายอนันต์ สุวรรณรัตน์ ปลัดกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ประธานคณะทำงานป้องกันและเฝ้าระวังการเผาเศษซากพืชหรือวัชพืช และเศษวัสดุทำงกำรเกษตรในพื้นที่การเกษตร 

 

 

กล่าวว่า นายเฉลิมชัย ศรีอ่อน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ย้ำให้เร่งดำเนินมาตรการเชิงรุกป้องกัน ระงับ ยับยั้ง และลดการเผาในพื้นที่เกษตรอย่างเข้มข้นที่สุดเนื่องจากห่วงใยสุขภาพของประชาชน ตลอดจนรัฐบาลกำหนดเป็นวาระแห่งชาติ

 

จึงได้ขยายขอบเขตการส่งเสริมไถกลบเผาตอซังก่อนเข้าสู่ฤดูกาลเพาะปลูกใหม่จากเดิมกำหนดเป้าหมายไว้ 70,000 ไร่ในภาคเหนือเป็นทั้งประเทศ ตลอดจนผลิตปุ๋ยหมักสูตรพระราชทาน 3,645 ตันแจกจ่ายให้เกษตรกรนำไปใช้ซึ่งดำเนินการโดยกรมพัฒนาที่ดิน อีกทั้งจะนำข้อมูลการเกิดจุดความร้อน (Hot spot) ในพื้นที่เกษตรย้อนหลัง 5 ปีมาซ้อนทับกับข้อมูลทะเบียนเกษตรกรที่ปลูกพืชเศรษฐกิจ 3 ชนิด

 

ทั้งนี้ได้แก่ ข้าว ข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ และอ้อยโรงงานซึ่งมีการเผาในแปลงมากที่สุด แล้วให้กรมส่งเสริมการเกษตรจัดชุดปฏิบัติการประจำพื้นที่เสี่ยง ซึ่งแนวทางการทำงานนั้นจะประสานกับกองอำนวยการป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย รวมทั้งให้เกษตรอำเภอร่วมกับหน่วยงานในสังกัดกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ในพื้นที่จัดชุดปฏิบัติกา ออกตรวจ ป้องปราม ระงับ ยับยั้ง และแจ้งเหตุการณ์เผาในพื้นที่การเกษตร โดยมีเครือข่ายเกษตรกรของศูนย์เรียนรู้การเพิ่มประสิทธิภาพการผลิตสินค้าการเกษตร (ศพก.) ตำบลเป็นหน่วยงานเฝ้าระวัง 

 

นอกจากนี้ยังขยายการสร้างเครือข่ายเกษตรกรปลอดการเผาจาก 210 แห่งเป็น 226 แห่งในจังหวัดที่ประสบปัญหารุนแรงประกอบด้วย ภาคเหนือ 10 จังหวัดได้แก่ น่าน เชียงราย ตาก ลำปาง พะเยา แพร่ เชียงใหม่ ลำพูน แม่ฮ่องสอน และอุตรดิตถ์

 

โดยเพิ่มขึ้นอีก 26 จังหวัดที่มีสถิติการเผาสูงได้แก่ กาญจนบุรี กาฬสินธุ์ ขอนแก่น ชัยภูมิ นครนายก นครพนม นครราชสีมา นครสวรรค์ บุรีรัมย์ ปราจีนบุรี พิจิตร เพชรบูรณ์ ร้อยเอ็ด ลพบุรี สกลนคร อุดรธานี กำแพงเพชร พระนครศรีอยุธยา พิษณุโลก มหาสารคาม ยโสธร ศรีษะเกษ สุโขทัย สุพรรณบุรี สุรินทร์ และอุบลราชธานี

 

 

ส่วนปัญหาฝุ่นละออง PM 2. 5  ในเขตชุมชนเมืองซึ่งได้รับผลกระทบจากการเผาในพื้นที่เกษตรจะดำเนินโครงการ 6 จังหวัดประกอบด้วย กรุงเทพมหานคร จังนครปฐม นนทบุรี ปทุมธานี สมุทรสาคร และสมุทรปราการ พร้อมกันนี้จัดกิจกรรมรณรงค์หยุดการเผาในพื้นที่เกษตรอย่างเด็ดขาดในจังหวัดเชียงราย เชียงใหม่ น่าน และนครปฐมเพื่อเป็นต้นแบบ

 

ทั้งนี้จะสนับสนุนการทำเกษตรยั่งยืนแบบ “วนเกษตร” ในพื้นที่เขตปฏิรูปที่ดินเพื่อนำร่อง 45,000 ไร่ โดยส่งเสริมการปลูกไม้ยืนต้น ไม้ป่า ไม้หายาก หรือไม้ประจำถิ่น ตลอดจนถ่ายทอดความรู้เกี่ยวกับการนำเศษซากพืชและวัชพืชมาเพิ่มมูลค่าเช่น อัดฟางทำอาหารสัตว์ ใช้เป็นวัตถุดิบในการผลิตพลังงานชีวมวล โดยเกษตรกรมาเรียนรู้ได้ที่ศพก. ทุกแห่งทั่วประเทศ

 

อีกมาตรการหนึ่งคือ การปฏิบัติการฝนหลวงเพื่อลดความหนาแน่นของหมอกควันและฝุ่นละอองจากการเผาและไฟป่าซึ่งกรมฝนหลวงและการบินเกษตรได้เลื่อนแผนปฏิบัติการประจำปีเร็วขึ้น จากเดิมกำหนดไว้ในวันที่ 17 กุมภาพันธ์ 2563 เป็นวันที่ 3 กุมภาพันธ์ 2563 รวม 6 หน่วยได้แก่ พิษณุโลก นครสวรรค์ ระยอง บุรีรัมย์ ขอนแก่น และสุราษฎร์ธานี

 

นอกจากนั้นสั่งการให้หน่วยงานในสังกัดกระทรวงเกษตรและสหกรณ์บูรณาการกับส่วนราชการอื่นได้แก่ กระทรวงมหาดไทย กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย กระทรวงอุตสาหกรรม เป็นต้น พร้อมกันนี้ได้ให้กรมพัฒนาที่ดิน กรมส่งเสริมการเกษตร และกรมการข้าวจัดทำข้อมูลเพื่อป้องกันและเฝ้าระวังการเผาเศษซากพืชและวัชพืช และเศษวัสดุทางการเกษตรในพื้นที่เสี่ยงซึ่งปลูกข้าว ข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ และอ้อยโรงงานกันมาก โดยเฉพาะอ้อยโรงงานนั้น เกษตรกรจะเผาเพื่อให้ตัดง่ายก่อนส่งโรงหีบทำน้ำตาล จึงประสานกับสำนักงานคณะกรรมการอ้อยและน้ำตาทรายในการป้องกันและเฝ้าระวังเป็นพิเศษ พร้อมทั้งพิจารณามาตรการสร้างแรงจูงใจด้านต่างๆ เพื่อลดการเผาเศษซากพืชหรือวัชพืช และเศษวัสดุทางการเกษตรทั้งในระยะสั้นและระยะยาวต่อไป