ธีรศิลป์ แดงดา สวมเบอร์ 23 ชิมิสุ เอส-พัลส์
กลับไปลุยเจลีก อีกครั้ง
“กิเลนผยอง” เอสซีจี เมืองทอง ยูไนเต็ด เปิดแถลงข่าวปล่อยตัว “เจ้ามุ้ย” ธีรศิลป์ แดงดา กองหน้าตัวเก่งวัย 31 ปี ย้ายไปร่วมทีม ชิมิสุ เอส-พัลส์ ในศึกเจลีก ญี่ปุ่น ฤดูกาล 2020 อย่างเป็นทางการ ณ สนามเอสซีจี สเตเดี้ยม เมื่อวันที่ 5 ก.พ. โดยมีตัวแทนของทั้งสองสโมสร ได้แก่ วิลักษณ์ โหลทอง ประธานสโมสร เอสซีจี เมืองทองฯ, รณฤทธิ์ ซื่อวาจา ผู้อำนวยการ “กิเลนผยอง” และ มร. คิโยชิ โอคูมะ ผู้จัดการทั่วไปสโมสร ชิมิสุ เอส-พัลส์ เข้าร่วมงาน
“บิ๊กเป้” รณฤทธิ์ กล่าวว่า “ดีลนี้ ถือเป็นความภาคภูมิใจ กับการผจญภัยครั้งใหม่ของนักเตะคู่บารมีของสโมสร รวมถึงเป็นผู้เล่นที่เก่งที่สุดที่เราเคยมีมา เรามีความปลาบปลื้มที่มีทีมชั้นนำให้ความสนใจผู้เล่นของเรา แน่นอนว่าอย่างที่ทุกคนทราบที่ผ่านมา สโมสรมีนโยบายที่จะผลักดัน และส่งเสริมนักเตะให้ก้าวสู่ระดับลีกที่มีมาตรฐานสูงกว่า ต้องขอบคุณสโมสร ชิมิสุ เอส-พัลส์ ที่ให้ความเชื่อมั่นในตัว ธีรศิลป์ ก็ขออวยพรให้เขาประสบความสำเร็จในอาชีพของเขา รวมถึงสร้างชื่อเสียงให้ประเทศไทยต่อไป”
ธีรศิลป์ นักเตะป้ายแดงของ ชิมิสุ เอส-พัลส์ ได้เสื้อเบอร์ 23 และการย้ายตัวครั้งนี้ ค่าตัวที่ไม่เป็นที่เปิดเผย โดย มร. โอคูมะ เผยถึงรายละเอียดว่าเป็นสัญญาซื้อขาย 2 ปี และหลังจากนี้ “มุ้ยซัง” จะบินไปเปิดตัวกับสื่อญี่ปุ่นอีกรอบ ก่อนร่วมลุยฤดูกาลใหม่ของศึกเจลีก 2020 ต่อไป
สำหรับ ธีรศิลป์ แดงดา ได้เดินทางไปเจรจาสัญญากับชิมิสุ เอส-พัลส์ ที่ประเทศญี่ปุ่น ก่อนหน้านี้แล้ว พร้อมทั้งได้ร่วมฝึกซ้อมกับเพื่อนร่วมทีมแล้วด้วย โดยได้ลงเล่นเกมอุ่นเครื่องเป็นประเดิมไปแล้วเมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา โดยเจ้าตัวยอมรับว่า ต้องทำงานหนักในการกลับไปเล่นเจลีกรอบสอง พร้อมขอบคุณทั้งต้นสังกัดใหม่ รวมถึงอดีตต้นสังกัดอย่าง เอสซีจี เมืองทองฯ ด้วย
“นี่จะเป็นการเดินทางอีกครั้งของผม ผมคงต้องพยายามอย่างมาก ทำงานหนัก ปรับตัวให้เร็ว เข้าใจแท็กติก และสื่อสารกับเพื่อนๆ ขอบคุณ ชิมิสุ ที่มองเห็นบางอย่างในตัวผม ให้ผมกลับไปเล่นในลีกที่ดีที่สุดในเอเชีย และขอบคุณเมืองทองฯ ที่ให้โอกาสผมได้ไปผจญภัยต่างแดนอีกครั้ง ไปคราวนี้ หวังว่า จะมีความสำเร็จเกิดขึ้นกับผมอีกครั้ง” ธีรศิลป์ กล่าว
ดาวยิง “ช้างศึก” วัย 31 ปีเป็นศูนย์หน้าเบอร์หนึ่งของทีมชาติไทย และมีประสบการณ์เคยผ่านการเล่นในต่างประเทศมาแล้ว ทั้ง แมนฯ ซิตี้ ที่อังกฤษ (ปี 2007-08), กราสฮ็อปเปอร์ ซูริค ในสวิตเซอร์แลนด์ (ปี 2008), อัลเมเรีย ที่สเปน (ปี 2014-15) และ ซานเฟรชเช่ ฮิโรชิม่า ที่เจ้าตัวมีส่วนช่วยให้ทีมจบซีซั่นในฐานะรองแชมป์เจลีกปี 2018 ด้วยผลงาน 6 ประตูจาก 32 เกม จนเป็นที่ประทับใจของ ชิมิสุ เอส-พัลส์ กระทั่งเป็นที่มาของดีลใหญ่ล่าสุด