สธ.เผยไทย"โควิด-19"ยอดสะสม37คน-จีนยอดเสียชีวิตลด
สธ.เผย โควิด-19 ยอดสะสม37 คน จีนยอดเสียชีวิตลดลง ส่วนเกาหลีใต้เรียกสมาชิกลัทธิชินชอนจิ กว่า 2 แสนคนตรวจเชื้อ หลังพุ่งเกือบ 900 ราย ตาย 9 ส่วนอิตาลีติดเชื้อเพิ่มเป็น 229 คน"การบินไทย"ลดเงินผู้บริหาร25%
เมื่อวันที่ 25 กุมภาพันธ์ นพ.สุขุม กาญจนพิมาย ปลัดกระทรวงสาธารณสุข(สธ.) แถลงถึงสถานการณ์โรคติดเชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ 2019 หรือโควิด-19 ว่า ได้รับรายงานผลการตรวจทางห้องปฏิบัติการทั้ง 2 แห่ง กรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ได้ผลยืนยันพบผู้ป่วยเพิ่ม 2 ราย รายที่ 1 เป็นหญิงไทย อายุ 31 ปี อาชีพแม่บ้าน รักษาตัวอยู่ที่รพ.ราชวิถี แพทย์ตรวจพบปอดอักเสบที่หาสาเหตุไม่ได้ ซักประวัติพบสมาชิกในครอบครัวเดินทางกลับจากจีน รายที่ 2 เป็นชายไทย อายุ 29 ปี อาชีพทำงานสัมผัสใกล้ชิดนักท่องเที่ยวชาวจีน มาด้วยอาการไข้ ไอ รับรักษาอยู่ที่สถาบันบำราศนราดูร
อ่านข่าว-โควิด-19ไม่ได้เริ่มจากตลาดอู่ฮั่น-แพร่คนสู่คนเร็วกว่าที่คิด
อ่านข่าว-อัพเดทสถานการณ์ 'ไวรัสโคโรน่า' (Covid-19)26ก.พ.
โดยได้สอบสวนและเก็บตัวอย่างจากผู้สัมผัสใกล้ชิดผู้ป่วยทั้ง 2 รายเพื่อส่งตรวจต่อไป อย่างไรก็ตาม แพทย์อนุญาตให้ผู้ติดเชื้อกลับบ้านได้เพิ่มอีก 1 ราย ที่ จ.กระบี่ เป็นนักท่องเที่ยวหญิงชาวจีน อายุ 32 ปี ซึ่งเดินทางเข้าไทยก่อนที่จีนจะปิดสนามบินอู่ฮั่น ทำให้ปัจจุบันมีผู้ป่วยยืนยันรวม 37 คน กลับบ้านได้ 22 คน คิดเป็นร้อยละ 60 ผู้ป่วยยืนยันรักษาตัวอยู่ที่โรงพยาบาล 15 คน
ทั้งนี้ การพบผู้ป่วยยืนยันเพิ่มขึ้นเป็นผลมาจากการที่ สธ.ปรับนิยามการเฝ้าระวังคัดกรองตั้งแต่วันที่ 18 กุมภาพันธ์ โดยขยายพื้นที่ครอบคลุมประเทศเสี่ยงใหม่ ได้แก่ ญี่ปุ่น เกาหลีใต้ สิงคโปร์ จีน รวมทั้งฮ่องกง มาเก๊า ไต้หวัน และ 8 จังหวัดของไทย คือ กรุงเทพฯ เชียงใหม่ เชียงราย สมุทรปราการ กระบี่ ภูเก็ต ชลบุรี ประจวบคีรีขันธ์ และคัดกรองผู้เดินทางจากทุกด่าน ทั้งนี้ขอให้ประชาชนเลี่ยงหรือเลื่อนการเดินทางไปยังพื้นที่ที่มีการระบาด หากเลี่ยงไม่ได้ขอให้ปฏิบัติตัวตามคำแนะนำคือหลีกเลี่ยงที่มีคนหนาแน่น สวมหน้ากากอนามัย หมั่นล้างมือ และเมื่อกลับมาให้แยกตัวเองออกจากสมาชิกในครอบครัว สังเกตอาการตัวเอง 14 วัน
ผู้สื่อข่าวถามว่า จะมีการปรับเกณฑ์นิยามในการเฝ้าระวังผู้ป่วยในส่วนของคนไทยเพิ่มขึ้นหรือไม่ นพ.ทวี โชติพิทยสุนนท์ ผู้ทรงคุณวุฒิในคณะกรรมการโรคติดต่อแห่งชาติ กล่าวว่า จะมีการปรับเกณฑ์เพิ่มเติมโดยพยายามให้คนไข้ที่มีโอกาสป่วยเข้ามาในระบบมากขึ้น ซึ่งปัจจุบันจะครอบคลุมผู้ที่มีอาการป่วยเป็นหวัด ไข้ ไอ เจ็บคอ มีน้ำมูก หอบเหนื่อย มีประวัติเดินทางกลับจากประเทศเสี่ยงและทำงานสัมพันธ์กับนักท่องเที่ยวต่างชาติ มีอาการปอดอักเสบไม่ทราบสาเหตุ ก็ยังมีการเพิ่มในส่วนของคนที่มีประวัติคนในครอบครัวเดินทางไปประเทศที่เสี่ยงด้วย อย่างไรก็ตามขอย้ำให้คนไทยที่เข้าเกณฑ์การเฝ้าระวังดังกล่าวเข้ารับการตรวจรักษาและแจ้งประวัติต่อเจ้าหน้าที่ตามความเป็นจริง อย่าปกปิด เพราะถ้าแจ้งความจริง เจ้าหน้าที่จะจัดการเรื่องต่างๆ ได้
"หากหลีกเลี่ยงได้ควรหลีกเลี่ยงการเดินทางไปในประเทศเสี่ยง หรือหากกลับมาแล้วควรพยายามแยกตัวเองอยู่ที่บ้าน และคนไทยทุกคนเมื่อป่วยด้วยโรคทางเดินหายใจไม่ว่าจะมีอาการมากหรือน้อยจะต้องใส่หน้ากากอนามัยทุกคนและหากเข้าเกณฑ์ข้างต้นขอให้มารับการตรวจที่สถานพยาบาล”นพ.ทวีกล่าว
ด้านกระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม ได้ออกประกาศเรื่องมาตรการและการเฝ้าระวังการระบาดโดยพบการติดเชื้อในหลายประเทศทั่วโลกกว่า 34 ประเทศ และมีการแพร่กระจายจากคนสู่คนภายในหลายประเทศแล้ว จึงให้บุคลากรในสังกัดหลีกเลี่ยงเดินทางไปยังประเทศที่มีความเสี่ยง หากพบติดเชื้อให้เข้าตรวจคัดกรองโรค และเพิ่มการดูแลสุขอนามัยด้านสถานที่ ให้หลีกเลี่ยงกิจกรรมการเรียนการสอน การประชุม การสัมมนาใดๆ ที่มีการเชิญบุคลากรจากประเทศที่มีความเสี่ยง และให้หลีกเลี่ยงกิจกรรมที่มีการชุมนุมนักศึกษา หรือบุคลากรในสังกัดกระทรวงเป็นจำนวนมาก
สำนักข่าวต่างประเทศรายงาน สถานการณ์เกาหลีใต้ ยอดผู้เสียชีวิตเพิ่มขึ้นเป็น 8 ราย และผู้ติดเชื้อถึง 833 คน นับเป็นประเทศที่มีจำนวนผู้ติดเชื้อมากที่สุดนอกจีนแผ่นดินใหญ่ โดยเมืองแทกู ประชากรราว 2.4 ล้านคน และเมืองชองโด ใกล้กับเมืองแทกู ที่เป็นศูนย์กลางระบาดหลังพบผู้ติดเชื้อในเมืองจำนวนมาก ส่วนใหญ่มีความเชื่อมโยงกับโบสถ์ของลัทธิชินชอนจิที่ก่อนหน้านี้มีผู้ป่วยติดเชื้อหญิง อายุ 61 ปี เข้าไปร่วมกิจกรรมและแพร่เชื้อไปสู่สมาชิกอีกเกือบ 1,000 คน ทั้งนี้เกาหลีใต้ใช้มาตรการกักบริเวณสมาชิกของโบสถ์ชินชอนจิในเมืองแทกูแล้วเกือบ 10,000 คนให้อยู่ภายในบ้านและสถานที่จัดเตรียมไว้และสั่งให้ทั้ง 2 เมืองเป็นพื้นที่บริหารจัดการพิเศษด้านสาธารณสุข
มีรายงานว่าเกาหลีใต้เตรียมตรวจสอบสมาชิกลัทธิชินชอนจิ กว่า 2 แสนคน หลังจากสมาชิกรายหนึ่งได้หลบหนีการตรวจสอบและแพร่กระจายเชื้อไวรัสไปในวงกว้าง นอกจากนี้เกาหลีใต้ยังมีคำสั่งกักกันเจ้าหน้าที่กองทัพจำนวน 7,700 นาย หลังพบทหารติดเชื้อจำนวน 11 นายด้วย และในวันนี้ (25ก.พ.) ศูนย์ควบคุมและป้องกันโรคแห่งเกาหลีเปิดเผยว่ามีผู้ติดเชื้อเพิ่ม 60 ราย รวมยอดติดเชื้อ 893 คน โดย 16 รายอยู่ที่เมืองแทกูซึ่งเป็นที่ตั้งของโบสถ์ลัทธิดังกล่าว นอกจากนี้ยังมีผู้เสียชีวิตเพิ่มรายที่ 9 ซึ่งเป็นผู้ป่วยในโรงพยาบาลทางตอนเหนือของจังหวัดคย็องซัง
ด้านอิตาลีพบผู้ติดเชื้อเพิ่มเป็น 229 คน ในจำนวนนี้เสียชีวิตแล้ว 7 คน ญี่ปุ่นติดเชื้อ 159 คน เสียชีวิต 3 คน สิงคโปร์ 89 คน ฮ่องกง 74 คน มีผู้เสียชีวิต 2 คน ส่วนอิหร่านเพิ่มขึ้น 21 คน เป็น 64 คน มีผู้เสียชีวิตยืนยันที่ 12 ราย สหรัฐพบผู้ป่วยอีก 18 คน เป็น 53 คน และยังมีผู้ติดเชื้อในประเทศอื่นอีกหลายประเทศ ด้านยอดผู้ป่วยติดเชื้อทั่วโลกคาดว่ามีจำนวน 80,076 ราย
ขณะที่คณะกรรมการสุขภาพแห่งชาติของจีน รายงานว่า วานนี้(24ก.พ.) จีนมีผู้เสียชีวิต 71 ราย ซึ่งเป็นความสูญเสียที่น้อยที่สุดในรอบ 2 สัปดาห์ และทำให้จำนวนผู้เสียชีวิตมีจำนวน 2,663 ราย ส่วนผู้ป่วยรายใหม่ 508 คน รวมเพิ่มเป็น 77,658 คน และออกจากโรงพยาบาลได้แล้ว 2,589 คน รวมผู้หายป่วย 27,323 คน โดยหลายมณฑลไม่มีรายงานผู้ป่วยใหม่มาเป็นเวลาหลายวันแล้ว
ด้านองค์การอนามัยโลก(WHO) ระบุว่าสถานการณ์ระบาดในจีนผ่านช่วงเวลาสูงสุดไปแล้ว แต่พบอัตราผู้ติดเชื้อในประเทศอื่นๆ เพิ่มขึ้นทั้งใน อิหร่าน อิตาลี และเกาหลีใต้ เป็นเรื่องที่น่ากังวลอย่างยิ่ง รวมถึงหลายประเทศในภูมิภาคตะวันออกกลางและเอเชียใต้ซึ่งพบผู้ป่วยมากขึ้น ทั้งนี้ นายทีโดรส อัดฮานอม กีบรีเยซุส ผู้อำนวยการองค์การอนามัยโลก ระบุว่า การระบาดจากจีนไปยังประเทศอื่นๆ ยังเป็นแค่การระบาดธรรมดายังไม่ถึงขั้นระบาดกระจายทั่วไป
การบินไทยพร้อมใจลดเงินเดือนผู้บริหาร
นายสุเมธ ดำรงชัยธรรม กรรมการผู้อำนวยการใหญ่ บริษัท การบินไทย จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า จากสถานการณ์การแพร่ระบาดของไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ 2019 หรือ โควิด-19 มีผลกระทบต่ออุตสาหกรรมการบิน ทำให้มีปริมาณการเดินทางของผู้โดยสารลดลง ทั้งนี้ฝ่ายบริหารจึงได้ร่วมกันกำหนดแผนการรับมือกับภาวะวิกฤตดังกล่าว โดยได้วิเคราะห์ผลกระทบในทุกสถานการณ์อย่างรอบคอบ ตั้งแต่ผลกระทบระดับน้อยจนถึงมากที่สุด โดยเริ่มจากการปรับลดค่าใช้จ่ายหลักๆ ที่เกิดจากการปฏิบัติการบิน นอกจากนี้ยังปรับลดและชะลอการลงทุนที่ไม่จำเป็น การปรับลดแรงงานให้สอดคล้องกับปริมาณงาน เป็นต้น
ทั้งนี้ มาตรการเหล่านี้บริษัทได้ดำเนินการไปแล้วและเพื่อเป็นการแสดงความเสียสละของผู้บริหารระดับกรรมการผู้อำนวยการใหญ่ รองกรรมการผู้อำนวยการใหญ่ และผู้อำนวยการใหญ่ ได้สมัครใจปรับลดเงินเดือนลง 15-25% และปรับลดค่าพาหนะลง 20-30% เป็นระยะเวลา 6 เดือน โดยเริ่มตั้งแต่วันที่ 1 มีนาคมนี้ เป็นต้นไป อย่างไรก็ตาม ในขณะนี้บริษัทยังไม่มีมาตรการใดๆ ที่ส่งผลกระทบต่อพนักงาน
.........