ข่าว

 "บิ๊กตู่" อารมณ์ดีบอก "สภา" เป็นคนเบิร์ดๆ

"บิ๊กตู่" อารมณ์ดีบอก "สภา" เป็นคนเบิร์ดๆ

26 ก.พ. 2563

"บิ๊กตู่" อารมณ์ดี บอก "สภา" เป็นคน เบิร์ดๆ ยันไป "โคราช" หลังเกิดเหตุการณ์ ไม่ได้ครึกครื้น เยี่ยมคนเจ็บด้วยความเสียใจ ชี้ ไทย แค่ทางผ่าน ไม่ใช่แหล่งผลิต เตือน ใครเอี่ยวระวังตัวด้วย

 

 


          เมื่อวันที่ 26 ก.พ. 2563 - เวลา 20.00 น. พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรมว.กลาโหม ลุกขึ้นชี้แจงการถูกอภิปรายว่า มีการกล่าวหาตนจำนวนมากขอให้เป็นไปตามระเบียบ หน่วยงานและกฎหมาย ซึ่งขั้นตอนการตรวจสอบ ผลออกมาอย่างไรยินดีน้อมรับ ทั้งเรื่องส่วนตัว พฤติกรรมหรือการพูดจาต่างๆ ยอมรับว่าบางครั้งมีการกดดันมากพอสมควร โดยเฉพาะในสื่อโซเชียลซึ่งตนก็อดทน “และวันนี้ผมก็อดทนมาเกือบ 3 วันแล้ว แต่ความจริงผมทนได้มาโดยตลอด ยิ้มแย้ม แจ่มใสมาโดยตลอดและนี่คือบุคลิกของผมจริงๆ ถ้าไม่มีใครมายั่วยุมากนัก ผมก็เป็นคนเบิร์ดๆอย่างนี้

 

อ่านข่าวเกี่ยวข้อง

"นภาพร" เหน็บ "บิ๊กตู่" ซีอีโอเด็กเส้น

จองคิว ลากยาวซักฟอก "บิ๊กตู่" ถึงพรุ่งนี้

"สงคราม" เล่นแรงซัด "บิ๊กตู่" กลางสภา เป็น "เห็บหมา-ปลวก"

 

          พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวชี้แจงถึงเหตุการณ์คนร้ายราดยิงที่ จ.นครราชสีมา ว่า หลายคนสงสัยว่าตนลงพื้นที่ไปแล้วไปยกนิ้วทำไม ซึ่งต้องเข้าใจว่าสถานการณ์ในวันนั้นเกิดขึ้นในตอนบ่าย ซึ่งเป็นวันหยุดราชการและตอนเย็นตนมีภารกิจจึงไม่สามารถลงไปในพื้นที่ได้  แต่ก็ได้สั่งการในช่วงค่ำมอบหมายให้ รมช.กลาโหม ผบ.ทบ. และ ผบ.ตร. พร้อมหน่วยปราบปรามพิเศษลงไปในพื้นที่ เพื่อเตรียมปฏิบัติการในขั้นที่สอง ช่วงแรกถือเป็นขั้นที่หนึ่ง โดยมีเจ้าหน้าที่ในพื้นที่เป็นผู้ดำเนินการ ทุกอย่างเป็นไปตามขั้นตอนของกฎหมาย และเมื่อสถานการณ์ในขั้นที่สองเกิดความรุนแรงขึ้น และการกระทำเช่นนี้ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อนในประเทศไทย ขณะนี้อยู่ระหว่างการสอบสวนความผิดถูกโดยมีพยานในขณะนี้ถึง 209 ปาก 209 คดี อยู่ระหว่างการสอบสวนกันอยู่ว่ามีความบกพร่องที่ไหน และอย่างไร สิ่งใดที่กองทัพบกต้องน้อมรับก็น้อมรับ และหามาตรการแก้ไขปัญหาไม่ให้เกิดขึ้นอีกให้ได้ ซึ่งมาตรการต่างๆได้มีการทำความพร้อมไว้ทั้งหมด

 

         “และวันที่ผมลงพื้นที่ไปในวันรุ่งขึ้น ยืนยันว่าผมไม่ได้ไปครึกครื้นอย่างที่มีบางคนคัดตัดตอนออกมา ที่ผมเดินทางไปตอนเช้า ซึ่งขณะนั้นไม่รู้ว่าสถานการณ์จะคลี่คลายไปอย่างไร และไม่ใช่ว่าผมไปเพื่อเอาหน้า เพราะในวันดังกล่าวได้มอบหมายให้ผบ.ตร. ผู้บัญชาการเหตุการณ์ ผบ.พื้นที่มีที่ปรึกษาและมีการใช้กำลังตามลำดับ แต่ช่วงเช้าวันนั้นผมทราบว่าจะมีการปฏิบัติการ ผมจำเป็นต้องเดินทางไปควบคุม เพราะผมเป็นผู้รับผิดชอบในขั้นที่สาม ถ้าสถานการณ์ถึงขั้นหนักที่สุด คือ การประกาศพ.ร.ก.ฉุกเฉิน การใช้กำลัง ของศูนย์บัญชาการการก่อการร้ายสากล ซึ่งผมได้เตรียมกำลังเหล่านี้ไว้ทั้งหมดเรียบร้อยแล้ว แต่เมื่อเฮลิคอปเตอร์ขึ้นไปประมาณ 20 นาทีก็ได้รับรายงานว่า การปฏิบัติการเรียบร้อยตามแผนที่ได้ขออนุมัติก่อนหน้านี้ สถานการณ์ก็จบแค่นั้น

 

         เมื่อผมไปถึงได้เข้าคลี่คลายสถานการณ์ ซึ่งมี 2 เหตุการณ์ที่เกิดขึ้น คือ การขึ้นไปเยี่ยมเยียนด้วยความเศร้าโศกเสียใจกับครอบครัวที่สูญเสียได้รับความบาดเจ็บ ผมเศร้า ผมเสียใจ แต่เมื่อเดินลงมาข้างล่างก็เป็นอีกสถานการณ์ เมื่อมีประชาชนจำนวนมากมาต้อนรับ โบกมือให้กำลังใจให้ผมสู้และแก้ปัญหาให้กับชาวโคราช ผมก็ตอบสนองเขา แต่ปรากฏว่าเอามาพาดหัวข่าวว่าผมไม่เศร้า แสดงกิริยาไม่เหมาะสม และสถานการณ์ที่เกิดขึ้นถือเป็นเรื่องที่น่าเสียใจ แต่ทุกอย่างได้ดำเนินการอย่างสมศักดิ์ศรี ไม่มีใครอยากให้เกิดขึ้น ซึ่งรัฐบาลพยายามทำอย่างเต็มที่ ขอร้องอย่าใช้ประเด็นนี้มาเป็นประโยชน์ในเรื่องอื่นๆ” พล.อ.ประยุทธ์ กล่าว

 

          พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวถึงการแก้ปัญหายาเสพติดของรัฐบาลที่ฝ่ายค้านระบุว่าสามารถซื้อได้ง่าย ยืนยันว่าประเทศไม่ได้เป็นประเทศฐานการผลิต เป็นเพียงแค่ทางผ่านไปยังประเทศปลายทาง ยืนยันว่าได้ร่วมมือกับประเทศเพื่อนบ้าน 5 ประเทศมีการหารือ มีการทำลายโรงงานซึ่งเป็นข้อมูลลับจะพูดในรายละเอียดไม่ได้ แต่ยืนยันว่ามีการพูดคุยกันในระดับผู้นำรัฐบาล และผู้นำทหาร แต่ยอมรับว่าราคายาเสพติด ยาบ้ามีการขึ้นลง เพราะใช้เครื่องจักรมาผลิตวันละเป็นล้านเม็ด ผลการจับกุมจึงมีมากขึ้น แต่รัฐบาลดำเนินการทั้งการป้องกันและปราบปราม อย่างต่อเนื่อง และกำลังเร่งดำเนินการสืบหานายทุนเพื่อลงโทษและยึดทรัพย์ ขอแจ้งเตือนไว้เลยว่าใครที่เกี่ยวข้องขอให้ระวังตัวไว้ด้วย ซึ่งวันนี้ประชาชนร้อยละ 95 พอใจการทำงานของรัฐบาล แต่ถ้ายังมีขอให้แจ้งเข้ามาพร้อมที่จะจับกุมดำเนินคดีและที่น่ากลัวคือ ตั้งต้นในการผลิตเปลี่ยนจากดอกฝิ่นมาเป็นสารเคมีตั้งต้นรูปแบบใหม่ เช่น โซเดียมไซยาไนด์ กรดไฮโดรคลอริก ทำให้ยาเสพติดมีราคาถูกและรุกลามในภูมิภาคเรามากขึ้น.