"อนุสรณ์"ไล่ทุบบิ๊กตู่ต่อ ถ้าประชาชนไม่ไว้วางใจไปต่อไม่ได้
"อนุสรณ์"ไล่ทุบบิ๊กตู่ต่อได้รับความไว้ใจแบบบริหารจัดการแบบพิเศษ เตือนถ้าประชาชนไม่ไว้วางใจไปต่อไม่ได้ เอาเวลาฉลองผ่านซักฟอก แก้วิกฤต
1 มีนาคม 2563 นายอนุสรณ์ เอี่ยมสะอาด โฆษกพรรคเพื่อไทย กล่าวถึง สถานการณ์การเมืองหลังการอภิปรายไม่ไว้วางใจรัฐบาล ว่า แม้ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม และ 5 รัฐมนตรี จะได้รับความไว้วางใจจากที่ประชุมสภาผู้แทนราษฎร ด้วยวิธีบริหารจัดการแบบพิเศษ
อ่านข่าว ประชาธิปัตย์นัดประชุมใหญ่ 7 มีนาคม
โพลชี้ดัชนีการเมืองลดต่ำ จี้แก้ปัญหาโควิด-19-เศรษฐกิจ
ผลสำรวจน่าห่วงคนไทยสุดเครียดหลายปัญหารุมเร้า
แต่จำนวนมือที่รับรองในสภา ก็ไปต่อไม่ได้ ถ้ากระแสสังคม เสียงและมือนอกสภา คะแนนเสียงจากประชาชน ไม่ไว้วางใจรัฐบาล สารพัดคำถามไม่ไว้วางใจที่ถูกนำมาอภิปรายในสภาทั้งหมด รัฐบาลตอบไม่ได้ ตอบไม่ครบ ตอบไม่ตรงคำถาม เน้นอ่านตามโพยที่ข้าราชการประจำเขียนฝากมาให้ กระแสสังคมไม่มีทางยอมรับได้ ซึ่งจะส่งผลกระทบต่อเสถียรภาพของรัฐบาลแน่นอน วิกฤติศรัทธาที่กระทบต่อการบริหารงานของรัฐบาลอย่างน้อย 5 ด้าน ที่พิสูจน์ฝีมือรัฐบาลว่า ไม่มีความสามารถในการแก้ไขปัญหาได้ คือ
1.สถานการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19
2.การแสดงพลังของนิสิต นักศึกษา ประชาชน คนรุ่นใหม่ ที่ขยายวงออกไปเป็นไฟลามทุ่ง
3.วิกฤติการเมือง ที่ปล่อยให้มีการใช้สารพัดวิธี ในการดูดส.ส.ย้ายพรรค เปลี่ยนข้าง ย้ายขั้ว แบบไร้ธรรมาภิบาล ฝืนเจตนารมณ์ของประชาชนที่เลือกมา
4.ปัญหาวิกฤติเศรษฐกิจ ส่งออกพัง ท่องเที่ยวทรุด หนี้ครัวเรือนสูง กำลังซื้อหด ความเหลื่อมล้ำพุ่ง คนว่างงานสูง ตลาดหุ้นพัง สินค้าเกษตรราคาตกต่ำ
5.ปัญหาวิกฤติสภาวะแวดล้อม ปัญหาฝุ่นพิษ PM2.5 ปัญหาภัยแล้ง
“พล.อ.ประยุทธ์ เอาเวลาที่จะไปเฉลิมฉลอง ในโอกาสที่มือพวกเดียวกันเองในสภา ช่วยให้รอดชีวิตจากอภิปรายไม่ไว้วางใจรัฐบาล มาแก้ไขปัญหาวิกฤติชาติด้านต่าง ๆ ให้ประเทศชาติและประชาชนดีกว่า” นายอนุสรณ์ กล่าว