เปิดชื่อ"สมุนไพรโบราณ" แพทย์จีนผสม"ยาฝรั่ง"รักษาโคโรนาไวรัส
โดยทีมข่าวรายงานพิเศษ หนังสือพิมพ์คมชัดลึก
กว่า 100 ประเทศทั่วโลกพบเชื้อโคโรนาไวรัสพันธุ์ใหม่ ก่อโรคโควิด-19 แล้ว ผู้ป่วยเพิ่มขึ้นกว่า 1.2 แสนคน เสียชีวิตไปกว่า 4 พันราย แม้จะพยายามใช้ยาฝรั่งทดลองรักษา แต่ยังไม่ได้ผลมากนัก ทำให้กลุ่มแพทย์แผนจีนเปิดตำราโบราณปรับ “สูตรยาสมุนไพร” แล้วขอทดลองใช้กับผู้ป่วย ปรากฎว่าได้ผลดีเกินคาด...ล่าสุดสูตรสมุนไพรจีนโบราณที่แพทย์ให้สัมภาษณ์ ถูกนำมาจัดชุดวางขายทางออนไลน์อย่างแพร่หลาย
ช่วงแรกที่คณะแพทย์กรุงปักกิ่งทดลองใช้ “กลุ่มยาต้านไวรัสเอดส์” มาดัดแปลงรักษาคนป่วยเชื้อโคโรน่าไวรัสนั้น สรุปเบื้องต้นว่าได้ผลดีในระดับหนึ่ง แต่การกลายพันธุ์อย่างรวดเร็วของเซลล์ไวรัสร้ายนี้ ทำให้นักวิทยาศาสตร์บางกลุ่มไม่แน่ใจว่ายาต้านไวรัสเอดส์จะได้ผลจริงหรือไม่ ทำให้กระทรวงสาธารณสุขของจีนเสนอให้ใช้ “ทีซีเอ็ม” (Traditional Chinese medicine : TCM) หรือ การแพทย์แผนจีน เข้ามาช่วยรักษาด้วย เนื่องจากยาจีนโบราณนั้นมีประสิทธิภาพในการรักษาเชื้อโรคต่าง ๆ มาหลายพันปี
มีการเปิดเผยชื่อของชุดยาต้ม "Qingfei Paidutang" ซึ่งนำไปทดลองใช้รักษาผู้ป่วย 700 ราย ผลออกมาว่า 130 คน มีอาการหายขาด ผู้ป่วยที่เหลือส่วนใหญ่อาการดีขึ้นและหยุดไอหลังจากได้รับยาต่อเนื่องเป็นเวลา 6 วัน
เนื่องจากการแพทย์แผนจีนใช้หลักคิดเรื่องความสมดุลของ “ความร้อน ความเย็น ความชื้น” ในร่างกาย วิธีการรักษาด้วยสมุนไพรจึงช่วยให้อวัยวะต่าง ๆ กลับคืนมาสู่สภาพปกติไม่ร้อนหรือเย็นจนเกินไป โดยเฉพาะพยายามให้พืชที่ช่วยเสริมภูมิคุ้มกันให้ร่างกาย
หนึ่งในสาเหตุที่ผู้ป่วยติดเชื้อโคโรนาไวรัสของจีน เสียชีวิตพุ่งไปถึง 3 พันกว่ารายภายในเวลาไม่ถึง 2 เดือน เนื่องจาก “วิกฤติขาดแคลนเครื่องช่วยหายใจ” คณะแพทย์ประจำโรงพยาบาลในปักกิ่งหลายแห่งยืนยันว่าการรักษาที่ดีคือ ต้องเร่งเสริมภูมิคุ้มกันผู้ป่วยให้คืนสภาพอย่างรวดเร็ว ดังนั้นการใช้ “ยาฝรั่ง“ ผสม “ยาจีน” น่าจะได้ผลมากกว่าใช้ตัวเดียว
มีรายงานว่าผู้ป่วยจีนไม่ต่ำกว่า 6 หมื่นราย หรือร้อยละ 85 ได้รับการรักษาด้วยสมุนไพรจีนโบราณควบคู่ไปกับวิธีการของแพทย์สมัยใหม่เรียบร้อยแล้ว
โดยเฉพาะ สมุนไพรที่ชื่อว่า “เทียนฮวาเฟิ่น” 天花粉 (Trichosanthes kirilowii) เป็นยาสมุนไพรแตงกวาจีน ถูกนำมาเป็นตัวหลักในการรักษาผู้ป่วยไวรัสโคโรน่า เพราะสรรพคุณพิเศษ ช่วยรักษาอาการไอที่เกิดจากปอดทำงานผิดปกติ อาการเจ็บคอหรือคอบวม และยังช่วยเพิ่มน้ำหล่อเลี้ยงให้กับร่างกาย ออกฤทธิ์ต้านจุลินทรีย์หรือเชื้อโรคต่าง ๆ รวมถึงการเพิ่มปริมาณไหลเวียนหลอดเลือดหัวใจให้ดีขึ้นได้ด้วย
สำนักข่าวซินหัวของจีนรายงานว่า คณะนักวิจัยสถาบันวิทยาศาสตร์การแพทย์ทหาร (AMMS) และสถาบันไวรัสวิทยาอู่ฮั่น (WIV) สังกัดสถาบันบัณฑิตวิทยาศาสตร์จีน (CAS) ช่วยกันคัดเลือกยาสมุนไพรจีนที่มีฤทธิ์กำจัดเชื้อไวรัสต่าง ๆ มาใช้แล้วกว่า 30 รายการ โดยใช้ ควบคู่กับยาฝรั่งเช่น อินดินาเวียร์ (Indinavir) ซาควินาเวียร์ (Saquinavir) โลพินาเวียร์ (Lopinavir)ฯลฯ
จากนั้นไม่นานในเวบไซด์ขายสินค้าออนไลน์หลายแห่งของจีน นำสูตรสมุนไพรโบราณมาวางจำหน่าย พร้อมโฆษณาสรรพคุณว่าป้องกันรักษา covid -19 มีใบรับรองความปลอดภัย Good Manufacturing Practice (GMP) จากองค์การยาของรัฐบาล มีหลายขนานให้เลือก เช่น ชุดยาที่วางขายราคา 1,675 บาท ประกอบด้วยสมุนไพรจีน 6 ชนิดได้แก่
陈皮 ฉิ่งผ้วย หรือ “เปลือกผลส้มจีน” มีสรรพคุณช่วย “ลมปราณไหลเวียน” ละลายเสมหะ ขจัดความชื้น ทำให้พลังชี่ของปอดและม้ามไหลเวียนสะดวก มีงานวิจัยในสัตว์ทดลอง พบว่าเปลือกผลส้มจีนนี้ออกฤทธิ์ช่วย “ขยายหลอดลม” ในกระต่าย และมีฤทธิ์แก้อาการหอบในหนูตะเภาและแมว เมื่อทดลองฉีดผิวส้มจีนเข้าใต้ผิวหนังของสัตว์ติดต่อกันนาน 6 วัน พบว่าช่วยบรรเทาอาการแผลในกระเพาะอาหาร
金银花 กิมหงึ่งฮวย หรือ “ดอกสายน้ำผึ้ง” ตำรายาจีนเชื่อว่ามีฤทธิ์เย็นต่อปอดและกระเพาะอาหาร ใช้ขับพิษร้อนถอนพิษไข้ แก้อาการร้อนในกระหายน้ำ โดยเฉพาะในผู้ป่วยไข้หวัดใหญ่ รักษาโรคผิวหนังและแก้ลำไส้อักเสบ ท้องเสีย ใช้เป็นยาขับปัสสาวะ
芦根 โหล่วกิง “รากหญ้าแขม” ใช้รากแห้งมาต้มกินเพื่อแก้อาการหลอดลมอักเสบ รักษาอาการไอและขับเสมหะ บรรเทาอาการร้อนใน กระหายนํ้า เพิ่มความชุ่มชื้นให้ปอดและกระเพาะอาหาร ระงับคลื่นไส้ อาเจียน
黃芪 ปักคี้ เป็น “พืชล้มลุกตระกูลถั่ว” ตำราแพทย์แผนจีนจัดลำดับยาปักคี้ให้มีสรรพคุณเช่นเดียวกับ “โสม” ช่วยเพิ่มกำลังบำรุงผู้มีร่างกายอ่อนแอ ไม่มีเรี่ยวแรง อ่อนเพลีย แก้อาการอักเสบ และช่วยเสริมระบบและกระตุ้นการทำงานของเซลล์ภูมิคุ้มกันร่างกาย ช่วยลดการสูญเสียโปรตีนที่ออกมาพร้อมปัสสาวะ เนื่องจาก “ไต” ทำงานผิดปกติ
桑叶 ซังเยี่ย หรือ “ใบหม่อน” ใช้ใบตากแห้งต้มกิน บรรเทาเจ็บคอ แก้ร้อนในกระหายน้ำ ทำให้เนื้อเยื่อชุ่มชื้น ช่วยระงับอาการทางประสาทบางประเภท ที่สำคัญคือมีฤทธิ์ต้านอนุมูลอิสระ ช่วยรักษาโรคระบบทางเดินหายใจ โรคความดันโลหิตสูง หรือผู้ป่วยที่แขนขาอ่อนแรงหรือหมดความรู้สึก หมอจีนนิยมใช้ เปลือกราก กิ่งอ่อน ใบ ผล ทำเป็นยาบำรุง แก้โรคเกี่ยวกับทรวงอก ไอ หืด วัณโรคปอด
苍术 ชวนเกียง หรือ “เหง้าโกฐหัวบัว” ตำราแพทย์แผนจีนใช้ช่วยการไหลเวียนของชี่และรักษาอาการปวดจากเลือดคั่ง ทำให้ลดการตีบตันของเส้นเลือด อาการปวดศรีษะ ส่วนตำรายาไทยนั้น มักนำเหง้าโกฐหัวบัว มาช่วยผู้ป่วยริดสีดวงทวาร แก้โรคโลหิตจาง แก้ปวดประจำเดือน รวมถึงโรคที่เกี่ยวกับระบบไหลเวียนโลหิตผิดปกติ บำรุงเลือด
หากพิจารณาจากสรรพคุณของสมุนไพรข้างต้น ส่วนใหญ่เกี่ยวข้องกับการเพิ่มระบบภูมิคุ้มกันของร่างกาย และเพิ่มความชุ่มชื้นให้ระบบทางเดินหายใจ โดยเฉพาะ “ปอด” ทั้งนี้รายชื่อเหล่านี้ประเทศไทยก็มีปลูกและนำมาใช้เป็นยารักษาโรคตามแพทย์แผนไทยเช่นกัน
ล่าสุด พื้นที่อู่ฮั่นได้นำ “ศูนย์เภสัชกรรมเคลื่อนที่อัจฉริยะ” สำหรับปรุงยาแผนจีน มาเปิดให้บริการในโรงพยาบาลชั่วคราวหลายแห่ง เน้นให้ยาผู้ป่วยติดเชื้อโควิด -19 ที่มีอาการไม่หนัก ศูนย์ฯได้ติดตั้งเครื่องคอมพิวเตอร์สั่งปรุงยาสมุนไพรจีนอัตโนมัติ และบรรจุเป็นผงระดับเข้มข้นแบบแกรนูล (granule) ผู้ป่วยแค่นำไปเทผสมกับน้ำก็ดื่มได้ทันที
รัฐบาลไทยควรศึกษาเตรียมความพร้อมไว้ เพราะบรรพบุรุษไทยก็มีบันทึก “ตำรายาสมุนไพร” ไว้หลายขนาน รีบสั่งการให้ผู้เชี่ยวชาญแพทย์แผนโบราณไทยเริ่มเสาะแสวงสมุนไพรไว้ให้พอเพียง
หากเป็นจริงตามที่คาดการณ์ว่า “ไม่เกิน 2 - 3 เดือน” เชื้อไวรัสโคโรนาอาจแพร่ระบาดเป็นระดับ 3 ทั่วไทย ถึงเวลานั้นการหวังพึ่งพาสั่งซื้อ “ยาฝรั่ง” “ยาญี่ปุ่น”อย่างเดียวอาจไม่ทันการณ์