เฟดหั่นดอกเบี้ยเหลือ 0% อัด QE 7 แสนล้านสู้โควิด-19
ธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) ลดดอกเบี้ยเหลือ 0% อัด QE 7 แสนล้านสู้โควิด-19 ในการประชุมฉุกเฉิน ก่อนวาระปกติที่จะมีขึ้นสัปดาห์นี้
16 มีนาคม 2563 ในการประชุมฉุกเฉินวานนี้ (15 มี.ค. ตามเวลาท้องถิ่น) ธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) มีมติปรับลดอัตราดอกเบี้ยนโยบาย (federal funds rate) ลงอีก 1.00% จากระดับ 1.00-1.25% มาอยู่ที่ระดับ 0.00-0.25% พร้อมทั้งประกาศซื้อพันธบัตรตามมาตรการผ่อนคลายเชิงปริมาณ (QE) วงเงิน 7 แสนล้านดอลลาร์สหรัฐฯ หรือประมาณ 21.7 ล้านล้านบาท
ทั้งนี้เพื่อลดผลกระทบจากการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ “โควิด-19” ที่มีต่อเศรษฐกิจสหรัฐอเมริกา
แถลงการณ์ของเฟดระบุว่า จะตรึงอัตราดอกเบี้ยที่ระดับดังกล่าวไปจนกว่าเฟดมีความเชื่อมั่นว่าเศรษฐกิจสหรัฐฯจะสามารถผ่านพ้นวิกฤตการณ์ที่เกิดขึ้นอยู่ในเวลานี้ เพื่อบรรลุเป้าหมายในการทำให้การจ้างงานเต็มศักยภาพ และรักษาเสถียรภาพของราคา
ขณะเดียวกัน เฟดยังได้ปรับลดอัตราดอกเบี้ยเงินกู้ฉุกเฉินสำหรับธนาคารพาณิชย์ลง 1.25% สู่ระดับ 0.25% และขยายอายุเงินกู้เป็นเวลา 90 วัน นอกจากนี้ ยังปรับลดอัตราการกันสำรองของธนาคารลงสู่ระดับ 0% อีกด้วย พร้อมกันนี้ เฟดยังได้ประกาศความร่วมมือกับธนาคารกลางระดับโลก เช่น ธนาคารกลางยุโรป (อีซีบี) ธนาคารกลางอังกฤษ ธนาคารกลางแคนาดา ธนาคารกลางญี่ปุ่น และธนาคารกลางสวิส ในการเพิ่มสภาพคล่องของดอลลาร์ทั่วโลกผ่านทางข้อตกลงสว็อประหว่างธนาคารกลางดังกล่าว
ความเคลื่อนไหวของเฟดในครั้งนี้ ถือเป็นมาตรการครั้ง “ใหญ่ที่สุด” ภายในวันเดียวที่เฟดเคยดำเนินการมา และเป็นการประชุมฉุกเฉินที่เกิดขึ้นก่อนที่คณะกรรมการกำหนดนโยบายการเงิน (เอฟโอเอ็มซี) ของเฟดมีกำหนดจัดการประชุมวาระปกติในวันที่ 17-18 มี.ค. ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ได้ออกมาแสดงความชื่นชมการตัดสินใจขอองเฟดในครั้งนี้ โดยระบุว่า “นี่คือข่าวที่ดีมากๆ เป็นสิ่งที่ดีเยี่ยมสำหรับประเทศชาติของเรา”