ครม.ตั้ง "อุศณา พีรานนท์" - "ศศิน เฉลิมลาภ" | คมชัดลึก

 

               ครม.ตั้ง "อุศณา พีรานนท์" เป็นอธิบดีกรมอาเซียน ด้าน "ศศิน เฉลิมลาภ" นั่งกก.ผู้ทรงคุณวุฒิ กระทรวงทรัพย์ฯ 2 ชุด เห็นชอบ "อรนุช ศรีนนท์" นั่ง  รองปลัด สปน.

อ่านข่าว ครม.ไฟเขียวตั้ง "อ.ปริญญา" นั่งบอร์ด สวรส.

 

               เมื่อเวลา 16.00 น.วันที่ 17 มีนาคม 2563 ที่ทำเนียบรัฐบาล น.ส.ไตรศุลี ไตรสรณกุล รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี แถลงผลการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ว่า

 

               ครม.มีมติเห็นชอบตามที่กระทรวงการต่างประเทศเสนอแต่งตั้งข้าราชการพลเรือนสามัญ สังกัดกระทรวงการต่างประเทศ ให้ดำรงตำแหน่งประเภทบริหารระดับสูง จำนวน 2 ราย 1.น.ส.อุศณา พีรานนท์ รองอธิบดีกรมอาเซียน ให้ดำรงตำแหน่ง อธิบดีกรมอาเซียน 2.ร.อ.ชัชวรรณ สาครสินธุ์ รองอธิบดีกรมอเมริกาและแปซิฟิกใต้ ให้ดำรงตำแหน่ง เอกอัครราชทูตประจำกระทรวง สำนักงานปลัดกระทรวง ทั้งนี้ ตั้งแต่วันที่ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมแต่งตั้งเป็นต้นไป เพื่อทดแทนตำแหน่งที่ว่าง 

               ครม.มีมติอนุมัติตามที่สำนักข่าวกรองแห่งชาติเสนอแต่งตั้งข้าราชการพลเรือนสามัญ สังกัดสำนักข่าวกรองแห่งชาติ สำนักนายกรัฐมนตรี ให้ดำรงตำแหน่งประเภทบริหารระดับสูง จำนวน 2 ราย 1.นายสาโรจย์ ธรรมรักษ์ ที่ปรึกษาด้านการพัฒนาระบบงานการข่าว (นักการข่าวทรงคุณวุฒิ) กลุ่มงานที่ปรึกษา ดำรงตำแหน่ง รองผู้อำนวยการสำนักข่าวกรองแห่งชาติ

 

               2. นายปิยะ คงขำ ที่ปรึกษาด้านการดำเนินงานข่าวกรองในต่างประเทศ (นักการข่าวทรงคุณวุฒิ) กลุ่มงานที่ปรึกษา ดำรงตำแหน่ง รองผู้อำนวยการสำนักข่าวกรองแห่งชาติ ทั้งนี้ ตั้งแต่วันที่ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมแต่งตั้งเป็นต้นไป เพื่อทดแทนตำแหน่งที่ว่าง

 

               ครม.มีมติอนุมัติตามที่สำนักนายกรัฐมนตรีเสนอแต่งตั้ง น.ส.อรนุช ศรีนนท์ ผู้ตรวจราชการสำนักนายกรัฐมนตรี (ผู้ตรวจราชการกระทรวง) สำนักงานปลัดสำนักนายกรัฐมนตรี สำนักนายกรัฐมนตรี ให้ดำรงตำแหน่งรองปลัดสำนักนายกรัฐมนตรี (นักบริหารระดับสูง) สำนักงานปลัดสำนักนายกรัฐมนตรี สำนักนายกรัฐมนตรี ตั้งแต่วันที่ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมแต่งตั้งเป็นต้นไป

 

               ครม.มีมติเห็นชอบตามที่สำนักเลขาธิการนายกรัฐมนตรีเสนอแต่งตั้ง นายประพนธ์ ตั้งศรีเกียรติกุล เป็นกรรมการผู้ช่วยรัฐมนตรี โดยให้มีผลตั้งแต่วันที่นายกรัฐมนตรีลงนามในประกาศแต่งตั้งและมอบหมายให้เป็นผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี

 

               ครม.มีมติอนุมัติตามที่กระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรมเสนอแต่งตั้งกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิในคณะกรรมการพัฒนาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งชาติเพิ่มเติม จำนวน 2 คน 1. นายอนันต์ แก้วกำเนิด ที่ปรึกษาสำนักงบประมาณ เป็นผู้ทรงคุณวุฒิจากหน่วยงานของรัฐที่เกี่ยวข้อง

 

               2. นายวิบูลย์ ฤกษ์ศิระทัย ผู้ว่าการการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย เป็นผู้ทรงคุณวุฒิซึ่งมิใช่ข้าราชการ ทั้งนี้ ตั้งแต่วันที่ 17 มีนาคม 2563 เป็นต้นไป และให้ผู้ได้รับแต่งตั้งเป็นกรรมการเพิ่มเติมอยู่ในตำแหน่งเท่ากับวาระที่เหลืออยู่ของกรรมการซึ่งได้แต่งตั้งไว้แล้ว

 

               ครม.มีมติอนุมัติตามที่กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมเสนอแต่งตั้งกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิในคณะกรรมการสงวนและคุ้มครองสัตว์ป่า ดังนี้ 1. ศ.กมลชัย รัตนสกาววงศ์ ผู้ทรงคุณวุฒิด้านกฎหมาย 2. พล.ต.ต.วิวัฒน์ ชัยสังฆะ ผู้ทรงคุณวุฒิด้านกฎหมาย 3. นายชาย นครชัย ผู้ทรงคุณวุฒิด้านขนบธรรมเนียมประเพณี วัฒนธรรม และวิถีชุมชน 4. รศ.ปานเทพ รัตนากร ผู้ทรงคุณวุฒิด้านสัตว์ป่า (ผู้แทนจากภาคประชาสังคม)

 

               5. นายศศิน เฉลิมลาภ ผู้ทรงคุณวุฒิด้านอนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม (ผู้แทนจากภาคประชาสังคม) 6. นายอนรรฆ พัฒนวิบูลย์ ผู้ทรงคุณวุฒิด้านสัตว์ป่า (ผู้แทนจากภาคประชาสังคม) และ 7. นายธิติ กนกทวีฐากร ผู้ทรงคุณวุฒิด้านกฎหมาย (ผู้แทนจากภาคประชาสังคม) ทั้งนี้ ตั้งแต่วันที่ 17 มีนาคม 2563 เป็นต้นไป

 

               ครม.มีมติอนุมัติตามที่กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมเสนอแต่งตั้งกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิในคณะกรรมการอุทยานแห่งชาติ ดังนี้ 1. พล.ต.ต.วิวัฒน์ ชัยสังฆะ ผู้ทรงคุณวุฒิด้านกฎหมาย 2. น.ส.ฐาปนีย์ เกียรติไพบูลย์ ผู้ทรงคุณวุฒิด้านการท่องเที่ยวและนันทนาการ 3. นายทรงธรรม สุขสว่าง ผู้ทรงคุณวุฒิด้านการอนุรักษ์ทรัพยากรป่าไม้และสัตว์ป่า 4. นายกมลชัย รัตนสกาววงศ์ ผู้ทรงคุณวุฒิด้านกฎหมาย (ผู้แทนภาคเอกชน)

 

               5. นายสุรพล เศวตเศรนี ผู้ทรงคุณวุฒิด้านการท่องเที่ยวและนันทนาการ (ผู้แทนภาคเอกชน) 6. นายศศิน เฉลิมลาภ ผู้ทรงคุณวุฒิด้านการอนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม (ผู้แทนภาคเอกชน) 7. นายอนรรฆ พัฒนวิบูลย์ ผู้ทรงคุณวุฒิด้านการอนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม (ผู้แทนภาคเอกชน) ทั้งนี้ ตั้งแต่วันที่ 17 มีนาคม 2563 เป็นต้นไป