ธุรกิจย่านข้าวสาร ขานรับนโยบายหยุด 14 วัน
นายกสมาคมผู้ประกอบการถนนข้าวสาร พร้อมให้ความร่วมมือรัฐบาลสั่งหยุด 14 วัน จี้ขอความชัดเจนออกมาตรการช่วยผู้ประกอบการ โอดโควิด-19 กระทบหนัก นักท่องเที่ยวหาย 70 เปอร์เซ็นต์
จากมติคณะรัฐมนตรี ในมาตรการป้องกันโรคโควิด-19 แพร่ระบาด ด้วยกำหนดให้พื้นที่เสี่ยงบางส่วนของกรุงเทพฯและปริมณฑล หยุดดำเนินกิจกรรมเป็นเวลา 14 วัน โดยจะมีผลทันทีตั้งแต่วันพรุ่งนี้ (18 มีนาคม 2563) ไปจนถึงวันที่ 31 มี.ค.2563
อ่านข่าว "เอสเอฟ ซีเนม่า" ปิด 22 สาขา ในกรุงเทพฯและปริมณฑล 14 วัน
คืบหน้าล่าสุดวันนี้ 17 มีนาคม 2563 นายสง่า เรืองวัฒนกุล นายกสมาคมผู้ประกอบการถนนข้าวสาร เปิดเผยว่า ผู้ประกอบการถนนข้าวสารพร้อมสนองนโยบายของภาครัฐ พร้อมให้ความร่วมมือ แต่อยากขอให้ภาครัฐช่วยชี้แจงมาตรการที่ประกาศออกมาให้ชัดเจนด้วยว่า จะดำเนินการอย่างไรบ้าง แล้วจะช่วยเหลือผู้ประกอบการอย่างไรที่จะปิด 14 วัน หรือมีแนวโน้มชัดเจนแล้วหรือไม่ หากปิด 14 วันแล้ว สถานการณ์การแพร่เชื้อโควิด-19 จะหมดไป ไม่เกิดขึ้นอีกใช่หรือไม่ และมีแนวทางในการป้องกันอย่างไร
นายกสมาคมผู้ประกอบการถนนข้าวสาร เผยต่อว่า ทั้งนี้จะหยุด 14 วัน หรือ 1 เดือน ผู้ประกอบการก็พร้อมให้ความร่วมมือ แต่อยากให้มีมาตรการออกมาให้ชัดเจนว่าจะทำอย่างไร แล้วจะช่วยผู้ประกอบการได้อย่างไรบ้าง
นายกสมาคมฯ กล่าวถึงความมั่นใจจากภาครัฐ เนื่องจากผู้ประกอบการต้องวางแผนงาน หากยังมีการแพร่ระบาดต่อ จะมีการยับยั้งอย่างไร เพราะผู้ประกอบการต้องแบกรับภาระ ค่าเช่า เงินเดือน ฯลฯ ถ้าหยุด 14 วัน ผู้ประกอบการยังคงแบกรับภาระนี้ได้ แต่หากต้องหยุดนานกว่านั้น ทางรัฐจะมีมาตรการช่วยเหลืออย่างไร
สำหรับการนวดแผนโบราณในพื้นที่ถนนข้าวสาร ผู้ประกอบการในพื้นที่ ได้แยกเตียงแต่ละเตียงให้ห่างกัน และหมั่นล้างมือ และสวมใส่หน้ากากป้องกันอยู่ตลอดเวลา สถานการณ์ที่ผ่านมาทำให้นักท่องเที่ยวหายไป 70 เปอร์เซ็นต์ หมอนวดหายไปกว่าครึ่ง เพราะไม่มีเงินค่าเช่าห้อง จนต้องกลับไปภูมิลำเนาเพราะไม่มีค่าใช้จ่าย
นอกจากนี้ ผู้ประกอบการในพื้นที่ได้มีการระมัดระวัง ป้องกันไม่ให้มีการแพร่เชื้อโควิด-19 โดยเมื่อวันจันทร์ที่ 16 มีนาคมที่ผ่านมา บนถนนข้าวสารได้มีการบิ๊กคลีนนิ่งเดย์ รวมถึงได้รับความร่วมมือจากผู้ประกอบการในพื้นที่ในการตั้งจุดคัดกรองก่อนเข้ามาในพื้นที่ถนนข้าวสารอีกด้วย
นายกสมาคมผู้ประกอบการถนนข้าวสาร เผยอีกว่า เดือนที่แล้วจำนวนนักท่องเที่ยวชาวเอเชียหายไปหมด ผู้ที่เข้ามาท่องเที่ยวถนนข้าวสารส่วนใหญ่เป็นชาวยุโรป ก็หายไปกว่า 70 เปอร์เซ็นต์ จึงคาดว่าในไตรมาส 2 และ 3 จากเดิมที่อยู่ในช่วง Low Season อยู่แล้วจะอยู่ในระดับ super low คือวิกฤติหนักกว่าเดิม