ข่าว

"อนุทิน" ถอนหายใจหลังเจอถาม "ประกาศเคอร์ฟิว" ห้ามออกจากบ้าน

"อนุทิน" ถอนหายใจหลังเจอถาม "ประกาศเคอร์ฟิว" ห้ามออกจากบ้าน

22 มี.ค. 2563

"อนุทิน" รายงาน "นายกฯ" หลัง ถก ร่วมแพทย์ ชี้ กม. สู้ความร่วมมือ ไม่ออกจากบ้าน ไม่ได้ ถอนหายใจ หลังเจอถาม "ประกาศเคอร์ฟิว" แจง "สธ." ไร้อำนาจ

 

 


          เมื่อวันที่ 22 มี.ค. 2563 - ที่ทำเนียบรัฐบาล นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และรมว.สาธารณสุข ให้สัมภาษณ์ภายหลังเข้าร่วมหารือกับนายกรัฐมนตรีถึงสถานการณ์โควิด-19 ว่า ตนมารายงานสถานการณ์หลังจากมีการประชุมชุดใหญ่ร่วมกับคณบดีแพทย์ศาสตร์ ขณะนี้พบว่าผู้ป่วยโควิด-19 ส่วนใหญ่อยู่ในกรุงเทพฯ ขณะที่โรงพยาบาลของกระทรวงสาธารณสุขมี 3-4 แห่ง โดยโรงพยาบาลส่วนใหญ่ ขึ้นอยู่กับคณะแพทย์ศาสตร์ มหาวิทยาลัยต่างๆ เช่น รามาธิบดี ศิริราช ฯลฯ

 

อ่านข่าวเกี่ยวข้อง

รบ.ต้องกล้า "หมอระวี" จี้ลดราคาน้ำมัน-แก๊ส ด่วน 3 บาทต่อลิตร

(คลิป)ยังไม่หมดกฎเกณฑ์รับโควิด "นายกฯ"ชูกำปั้น ลั่นสู้ ๆ

เปิด 5 ยุทธวิธีหยุดเชื้อมรณะ

 

 

          ดังนั้น ต้องเชิญคณบดีจากโรงพยาบาลเหล่านี้มาหารือกันว่าจะร่วมทำงานกันอย่างไร และขณะนี้ขาดอะไร และต้องการให้กระทรวงสาธารณสุขสนับสนุนด้านใดเพิ่มเติม เพราะขณะนี้กระทรวงสาธารณสุข (สธ.) เป็นคนคุมสต๊อกทั้งยา และเวชภัณฑ์ ไปจนถึงชุดถุงมือ และหน้ากากให้แพทย์ เพราะเราต้องใช้องค์การเภสัชกรรมเป็นผู้ซื้อ ซึ่งของส่วนใหญ่เราซื้อมาจากประเทศจีน จึงง่ายหากให้หน่วยงานรัฐบาลเป็นผู้ติดต่อ ดังนั้น จึงนำรายละเอียดมารายงานนายกฯ ว่าการประชุมระหว่างกระทรวงสาธารณสุข และแพทย์เป็นไปด้วยดี มีการแบ่งให้กรมการแพทย์เป็นศูนย์กลางในการประสานงานกับคณะแพทย์ทุกโรงพยาบาล และคณะแพทย์ศาสตร์ทุกคณะในกทม. เพื่อรับผู้ป่วย รวมถึงส่งยาและเวชภัณฑ์ต่างๆ

 

          เมื่อถามว่า ตัวเลขที่เพิ่มขึ้น นายกฯ ได้แสดงความกังวลหรือมีการเสนอให้มีการใช้มาตรการที่เข้มข้นกว่านี้อีกหรือไม่ นายอนุทิน กล่าวว่า ขณะนี้มาตราการต่างๆก็ใช้เต็มที่แล้ว เหลืออย่างเดียว ต่อให้เป็นกฎหมายออกมาอย่างไรก็สู้ความร่วมมือไม่ได้ ทุกคนต้องให้ความร่วมมือในการอยู่บ้าน หรือการเว้นระยะห่างทางสังคม งดการสังสรรค์ แค่เพียง 2-3 สัปดาห์ ​ซึ่งองค์การอนามันโลก หรือ WHO ได้ย้ำเรื่องนี้ให้ประชาชนได้ยินทุกวันว่าให้แยกตัว และดูแลตัวเองให้ดี เป็นวิธีที่จะป้องกันเชื้อโควิด-19 ได้ดีกว่าทุกมาตรการ

 

          เมื่อถามว่า ในช่วงประกาศให้งดออกจากบ้านนี้ ปรากฏว่ามีประชาชนเดินทางกลับต่างจังหวัดเนื่องจากสถานประกอบการต่างๆ ปิดด้วย นายอนุทิน กล่าวว่า ถ้าเราเข้าใจว่าทำไมถึงออกมาตรการแบบนี้มา ก็เพื่อต้องการให้ทุกคนอยู่นิ่ง โรคนี้ใช้ระยะฟักตัว 14 วัน ถ้าผู้คนอยู่นิ่งได้ถึง 14 วัน ก็เท่ากับโรคนี้จะไม่มีการกระจาย จะเหลือเพียงผู้ป่วย แล้วเราก็ไปรักษาผู้ป่วย ส่วนการควบคุมไม่ไห้คนเดินทางกลับนั้น เราก็ต้องควบคุมด้วยกฎหมาย แต่ที่สำคัญที่สุดคือความร่วมมือ ถ้ายังมีการเดินทางกันอีก โดยที่สภาพตัวเองก็ไม่พร้อม ก็ต้องระมัดระวังตัวเอง

 

          "แต่ที่สำคัญที่สุด ถ้าไม่จำเป็นก็ไม่ต้องเดินทาง การประกาศให้หยุดก็ไม่ใช่ให้หยุดทุกอย่าง มีบางส่วนที่ทำงานได้ หรือทำงานที่บ้านตามปกติ แต่ถ้าจำเป็นต้องกลับบ้านจริงๆก็ต้องป้องกันตัวเองสูงสุด เราไม่สามารถห้ามได้ ทุกคนมีอิสระเสรี แต่ต้องมีสำนึกรับผิดชอบ และเมื่อกลับถึงภูมิลำเนาแล้วควรเก็บตัว ซึ่ง กทม. ประกาศ 3 สัปดาห์ แต่โรคใช้ระยะฟักตัว 14 วัน หากทุกคนเก็บตัวได้ครบ แล้วไม่ปรากฏอาการก็จะได้สบายใจระดับหนึ่ง" รองนายกฯ และรมว.สาธารณสุข กล่าว

 

          เมื่อถามถึงความเป็นไปได้ในการประกาศเคอร์ฟิว นายอนุทิน ถอนหายใจ ก่อนกล่าวว่า ทาง สธ.ทำงาน ภายใต้พ.ร.บ.โรคติดต่อ ไม่มีอำนาจ และบังคับอะไรมากไม่ได้ มีเพียงคำแนะนำว่าประชาชนควรปฏิบัติตัวอย่างไร