ข่าว

ฟังชัดๆ โต้ข้อมูล โควิด-19 ไม่แพร่เชื้อทางอากาศ

ฟังชัดๆ โต้ข้อมูล โควิด-19 ไม่แพร่เชื้อทางอากาศ

01 เม.ย. 2563

ยันโควิดไม่แพร่ทางอากาศ ติดเชื้อ 2 ทาง เข้าไปใกล้ประชิดตัวหายใจรับเชื้อโดยตรง-มือสัมผัสเชื้อที่คนไข้ไอจามไว้ หากคนไข้สวมหน้ากากลดแพร่เชื้อได้ 97% เร่งสอบสวนโรค ผบ.เรือนจำ ติดเชื้อ ยังโชคดีไม่เข้าทำงานในแดนคุม

 

 


            กระทรวงสาธารณสุข -1 เม.ย.2563 นพ.ธนรักษ์ ผลิพัฒน์ รองอธิบดีกรมควบคุมโรค กล่าวถึงกรณีนายแพทย์คนหนึ่งออกมาให้ข้อมูลว่า ในประเทศสหรัฐอเมริกาเชื้อโควิด -19 แพร่ทางอากาศ ว่า การเกิดในลักษณะดังกล่าวคือการระบาดเป็นกลุ่มก้อน ยังขอยืนยันว่าโรคโควิด-19 แพร่ระบาดเพียง 2 วิธี 1.แพร่โดยละอองฝอยน้ำลาย จากการเข้าไปใกล้ๆในระยะประชิดหรือในระยะ 1 เมตร ทำให้หายใจรับเชื้อเข้าไปโดยตรง กับ 2. ผู้ป่วยไอทิ้งไว้ โดยเชื้ออยู่ในสิ่งแวดล้อมได้ 2-3 วัน แก้ไขได้ด้วยการทำความสะอาดพื้นผิวบ่อยๆ ล้างมือบ่อยๆ ไม่เข้าไปในสถานที่แออัด หลีกเลี่ยงคนไอจาม ถ้าผู้ป่วยไอจาม ต้องใส่หน้ากากซึ่งจะลดการแพร่ระบาดได้. 97 % สรุปว่าเขื้อโควิด-19 ไม่แพร่ระบาดทางอากาศ

 

 

 

 

ฟังชัดๆ โต้ข้อมูล โควิด-19 ไม่แพร่เชื้อทางอากาศ

 

 

              ส่วนการเสียชีวิตของชายวัย 57 ปี บนรถไฟขบวน 37 เมื่อรถไฟวิ่งมาถึงสถานีทับสะแก จ.ประจวบคีรีขันธ์ โดยพบว่าป่วยเป็นเบาหวานและติดเชื้อโควิด นพ.ธนรักษ์ กล่าวว่า สาเหตุการเสียชีวิตยังต้องรอการพิสูจน์ เพราะเป็นการเสียชีวิตแบบเฉียบพลัน ปกติผู้ป่วยโรคโควิดส่วนใหญ่จะเริ่มจากมีอาการเบาๆ และพัฒนาเป็นปอดอักเสบในช่วงวันที่ 8-10 ของการรับเชื้อ จากนั้นผู้ป่วยจะมีอาการหนักจนต้องใช้เครื่องช่วยหายใจ ดังนั้นในกรณีคนไข้ที่มีโรคประจำตัว เป็นเบาหวานที่ไม่ควบคุมให้ดี จึเป็นปัจจัยหนึ่งที่ทำให้เสียชีวิตได้
 

 

                นพ.ธนรักษ์ กล่าวถึงกรณีผบ.เรือนจำจังหวัดนครนายกติดเชื้อโควิด-19 ว่า กรมราชทัณฑ์ได้แจ้งมายังกระทรวงสาธารณสุข และกรมควบคุมโรค จึงได้ลงพื้นที่สอบสวนโรคตั่งแต่เมื่อคืนวาน เบื้องต้นพบว่า เจ้าหน้าที่ที่ติดเชื้อ ไม่เคยเข้าไปปฏิบัติงานในพื้นที่แดนคุมขัง แต่ทำงานอยู่ทีาด้านนอก จึงสบายใจได้ในระดับหนึ่ง ส่วนผลของการสืบสวนโรคคาดว่สจะเปิดเผยได้ในวันพรุ่งนี้
 

 

              สำหรับรายงานข่าวที่ระบุว่า คนไทยกลับจากการประกอบกิจกรรมทางศาสนาที่ประเทศอินโดนีเซีย ติดเชื้อ 19 คนนั่น รองอธิบดีกรมควบคุมโรค กล่าวว่า ขณะนี้มีคนไทยเดินทางกลับจากต่างประเทศค่อนข้างมาก กรณี 19 รายดัวกล่าว ไม่ใช่ผู้ติดเชื้อทั้งหมด แต่เป็นกลุ่มเสี่ยงที่มีอาการไข้ที่สนามบิน จึงให้ทั้ง 19 ราย รอฟังผลการตรวจคัดกรองแบบเร่งด่วนที่สนามบิน

 

 

              โดยมีการจัดให้อยู่ในพื้นที่ที่กำหนดไว้ กรณีผลออกมาเป็นบวกหรือติดเชื้อรถของโรงพยาบาลจะไปรับตัว หากผลตรวจออกมาเป็นลบ จะยังไม่ให้กลับบ้านแต่จะส่งตัวไปยังสถานที่กักกัน เพื่อสังเกตอาการจนครบกำหนด โดยมาตรการดังกล่าวจะใช้บังคับกับผู้เดินทางเข้าประเทศทุกราย ไม่ว่าจะเดินทางเข้าประเทศผ่านช่องทางใดและมีประวัติอย่างไร เช่นเดียวกับรพ.เอกชน ที่รับตรวจคนไข้กลุ่มเสี่ยงที่มีอาการ จะต้องเก็บตัวผู้ป่วยไว้จนกว่าจะรู้ผลตรวจ หากผลออกมาว่าติดเชื้อรพ.เอกชนต่องรับตัวไว้รักษา