ผู้ว่าฯ สกลนครเผยตัวเลขทั้งจังหวัดกักตัวเองอยู่บ้านเกือบ 1.3 หมื่นราย
ผู้ว่าฯ สกลนคร วอนคนเดินทางกลับมาจากพื้นที่เสี่ยงให้แจ้งกำนัน ผู้ใหญ่บ้าน หรือ อสม. หมออนามัยจะได้ให้คำแนะนำในการปฏิบัติตัว หลังพบผู้ป่วยรายแรกไม่แจ้งแถมใช้ชีวิตทำยายอายุ 80 กับลูกชาย 5 ขวบเสี่ยง
5 เมษายน 2563 ตามที่จังหวัดสกลนครพบผู้ติดป่วยโรคติดเชื้อไวรัสโคโรน่าสายพันธุ์ใหม่ 2019 หรือ โรคติดเชื้อไวรัสโคโรน่า 2019 หรือ โรคโควิด-19 (COVID-19) รายแรก เพศหญิง อายุ 21 ปี คณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัดสกลนครต้องลงพื้นที่ส่งทีมแพทย์ พยาบาล เจ้าหน้าที่สาธารณสุข และ อสม. เข้าสอบสวนที่มาของโรคพบผู้ป่วยมีประวัติไปทำงานที่จังหวัดภูเก็ต กลับมาบ้านที่ อ.เจริญศิลป์ เมื่อวันที่ 20 มีนาคม ที่ผ่านมา แต่ไม่ได้แจ้งให้กับเจ้าหน้าที่ในพื้นที่ทราบ แต่ใช้วิธีกักตัวเองอยู่ในสวนยางห่างหมู่บ้านประมาณ 3 กิโลเมตร โดยใช้ชีวิตกับครอบครัว รวม 5 คน
อ่านข่าว - วอนรัฐเร่งเยียวยาหมอนวดกว่า 3 แสนรายตกงานจากพิษโควิด-19
ทำให้มีกลุ่มเสี่ยง คือ ยาย อายุ 80 ปี ลูกชาย อายุ 5 ขวบ อาศัยอยู่ด้วย จนกระทั่งเมื่อวันที่ 3 เมษายน ที่ผ่านมา ช่วงเวลาครบกำหนดกักตัวดูอาการ 14 วัน มีอาการเจ็บคอเล็กน้อยจึงไปรับการตรวจที่ รพ.เจริญศิลป์ และผลการตรวจหาเชื้อไวรัสโรคโควิด-19 ออกมาผลเป็นบวก เบื้องต้น ได้ทำความสะอาดฉีดพ่นฆ่าเชื้อรอบบริเวณพื้นที่บ้าน และร้านค้าชุมชนที่ผู้ป่วยได้ไปซื้อสิ่งของจำเป็นส่วนตัวถึง 2 ครั้ง ในพื้นที่ ต.หนองแปน อ.เจริญศิลป์ จ.สกลนคร พร้อมนำส่งตัวผู้ป่วยมารักษาต่อที่ รพ.ศูนย์สกลนคร แล้ว
นายมนต์สิทธิ์ ไพศาลธนวัฒน์ ผวจ.สกลนคร กล่าวว่า เรามีประชาชนที่เดินทางเข้ามาในจังหวัดสกลนครขณะนี้อยู่ระหว่างการกักตัวที่บ้านดูอาการ 14 วัน ประมาณ 1.3 หมื่นคน และย้ำว่ามาตรการจังหวัดมีความชัดเจน ขอให้ประชาชนได้เชื่อมั่นและให้ความร่วมมือกับทางจังหวัด เราไม่สามารถห้ามคนกลับมาบ้านได้ จึงย้ำเสมอว่าใครกลับมาต้องสงสัยไว้ก่อนว่ามีเชื้อ ต้องอยู่กับบ้านไม่ไปไหน และขอความร่วมมือไม่ว่ามาจากไหนให้แจ้งกำนัน ผู้ใหญ่บ้าน อสม. แล้วต้องรับผิดชอบกักตัวเอง 14 วัน วันนี้จำนวนผู้ติดเชื้อของจังหวัดจะติดเชื้อมากหรือติดเชื้อน้อยไม่สำคัญ แต่ติดเชื้อแล้วต้องไม่ให้กระจายไปสู่ครอบครัวของตัวเอง ไม่ให้กระจายไปสู่สังคม เป้าหมายนี้ต้องได้รับความร่วมมือกับคนสกลนครทุกคน อย่าให้จังหวัดเราต้องตกอยู่ในความเสี่ยง เป็นเรื่องที่ทุกคนต้องเสียสละ อย่าเห็นแก่ตัว กลับมาจากพื้นที่เสี่ยงต้องแจ้งอย่าปกปิดข้อมูล
จากข้อมูลสำนักงานสาธารณสุขสกลนคร รายงาน ณ วันที่ 5 เมษายน 2563 เวลา 13.00 น. พบผู้ป่วยติดเชื้อ 1 ราย มีผู้เข้าเกณฑ์ตรวจหาเชื้อไวรัสโรคโควิด-19 จำนวน 146 ราย เข้ารับตรวจหาเชื้อไวรัสโรคโควิด-19 แล้วไม่พบเชื้อ จำนวน 137 ราย รอผลตรวจ 7 ราย และเป็นที่น่าสังเกตว่าตัวเลขผู้เดินทางกลับเข้ามาในพื้นที่จังหวัดสกลนครเพิ่มสูงขึ้นต่อเนื่องตั้งแต่เริ่มมีการระบาดของเชื้อไวรัสโรคโควิด-19 โดยวันที่ 22 มีนาคม 2563 ยังมีตัวเลขผู้แจ้งเดินทางกลับและต้องเข้ารับการกักตัวที่บ้านดูอาการ 14 วัน เพียง 396 ราย
และตัวเลขวันที่ 5 เมษายน 2563 มีผู้ที่ต้องกักตัวดูอาการที่บ้าน 14 วัน มีจำนวน 12,929 คน กระจายครอบคลุมทั้ง 18 อำเภอ และยังไม่นับรวมตัวเลขผู้ที่เข้ามาและหลีกเลี่ยงไม่แจ้งต่อผู้ใหญ่บ้านหรือคนในพื้นที่อีก ทำให้จังหวัดสกลนครต้องขอความร่วมมือประชาชนช่วยกัน คือ 1. ผู้มาจากต่างจังหวัด เข้ามาในหมู่บ้านต้องแจ้งผู้ใหญ่บ้าน 2. ทุกคนช่วยกันสอดส่องว่ามีใครเข้ามาหรือไม่ 3. ใช้มาตรการหมู่บ้าน ชุมชน ในการกักตัว “อย่างเคร่งครัด” 4. หมออนามัยรีบประกบติดและให้คำแนะนำการปฏิบัติตัว 5. หากหมู่บ้าน ชุมชน เห็นว่าผู้ใดมาจากพื้นที่เสี่ยง อาชีพเสี่ยง “ดื้อดึงไม่ปฏิบัติตาม” ก็ให้พิจารณาดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป
--------------------
ทวีป ศรีสุชาติ ผู้สื่อข่าวภูมิภาค จ.สกลนคร