ข่าว

วิจัยชี้ฉีด วัคซีนบีซีจี อัตราติดเชื้อ - เสียชีวิตจากไวรัสโรคโควิด-19 ต่ำกว่า

วิจัยชี้ฉีด วัคซีนบีซีจี อัตราติดเชื้อ - เสียชีวิตจากไวรัสโรคโควิด-19 ต่ำกว่า

14 เม.ย. 2563

ประเทศที่บังคับให้ฉีด วัคซีนบีซีจี หรือวัคซีนป้องกันวัณโรค มีอัตราเพิ่มขึ้นช้าว่าประเทศอื่นๆ อย่างมีนัยสำคัญ ทั้งในด้านยอดผู้ติดเชื้อและการเสียชีวิต

 

               การศึกษาที่ตีพิมพ์บนเว็บไซต์ของมหาวิทยาลัยมิชิแกน (UM) เมื่อวันจันทร์ (13 เมษายน 2563) ชี้ว่าจำนวนผู้เสียชีวิตจากโรคติดเชื้อไวรัสโคโรน่าสายพันธุ์ใหม่ 2019 หรือ โรคติดเชื้อไวรัสโคโรน่า 2019 หรือ โรคโควิด-19 (COVID-19) ทั้งหมดของสหรัฐอเมริกา อาจไม่ถึงเลขสามหลักในช่วงปลายเดือนมีนาคม หากสหรัฐฯ ออกคำสั่งให้ฉีดวัคซีนป้องกันวัณโรคในช่วงหลายทศวรรษก่อนหน้านี้

อ่านข่าว - WHO เผยไม่มีหลักฐานชี้ วัคซีนวัณโรค สามารถป้องกันโรคโควิด-19

 

 

 

               นักวิจัยวิเคราะห์รายงานผู้ติดเชื้อรายวันของโรคโควิด-19 และอัตราการเสียชีวิตที่เกี่ยวข้องใน 50 กว่าประเทศในช่วง 30 วัน พร้อมทั้งสร้างแบบจำลองความแตกต่างของเส้นกราฟที่เพิ่มขึ้นในประเทศที่มีการกำหนดนโยบายวัคซีนบีซีจี (BCG) มาก่อนหน้านี้หรือเมื่อไม่นานมานี้ เช่น บราซิล ไอร์แลนด์ ฝรั่งเศส และอินเดีย เทียบกับประเทศที่ไม่มีนโยบายดังกล่าว เช่น สหรัฐอเมริกา อิตาลี และเลบานอน

               การวิเคราะห์พบว่าประเทศที่บังคับให้ฉีดวัคซีนบีซีจี หรือวัคซีนป้องกันวัณโรค มีอัตราเพิ่มขึ้นช้าว่าประเทศอื่นๆ อย่างมีนัยสำคัญ ทั้งในด้านยอดผู้ติดเชื้อและการเสียชีวิต

               ยกตัวอย่างจากสหรัฐฯ นักวิจัยคาดการณ์ตามแบบจำลองว่าสหรัฐฯ จะมีผู้เสียชีวิตประมาณ 94 ราย ซึ่งคิดเป็นเพียงร้อยละ 4 ของจำนวนผู้เสียชีวิตจริงที่ 2,467 ราย ในวันที่ 29 มีนาคม

 

 

 

               การศึกษาเพิ่มเติมพบว่าการฉีดวัคซีนอาจถูกมองว่าเป็นการกระทำเอื้อสังคม (prosocial act) ผู้ที่ไม่ได้ฉีดวัคซีนสามารถรับการคุ้มครองนานพอกับผู้ที่ฉีด โดยเฉพาะอย่างยิ่งในสหรัฐอเมริกา ซึ่งไม่ได้บังคับฉีดวัคซีนบีซีจี

               มาร์ธา เบิร์ก (Martha Berg) หัวหน้าผู้เขียนงานวิจัยและนักศึกษาปริญญาโทด้านจิตวิทยาของมหาวิทยาลัยมิชิแกน กล่าวว่า บีซีจีอาจมีประสิทธิภาพเมื่อสัดส่วนของประชากรจำนวนมากมีบทบาทในการต่อต้านไวรัส กล่าวคือ การแพร่กระจายของไวรัสอาจช้าลงเมื่อมี “ภูมิคุ้มกันฝูง” ที่ป้องกันไวรัสจากการแพร่กระจายในหมู่ประชากรอย่างง่ายดาย

               การศึกษาดังกล่าวตั้งบนหลักฐานที่มีมาก่อนหน้านี้ว่าการฉีดวัคซีนบีซีจี ซึ่งโดยปกติจะฉีดให้เด็กแรกเกิดหรือในช่วงวัยเด็กนั้น มีผลในการป้องกันที่ยาวนาน ไม่เพียงแต่ป้องกันวัณโรค หากยังป้องกันโรคติดเชื้ออื่นๆ ด้วย

 

 

 

               การศึกษานี้มีข้อจำกัดบางประการ อาทิ บางประเทศอาจมีข้อมูลจำนวนผู้ป่วยและเสียชีวิตจากโรคโควิด-19 ที่แม่นยำกว่าประเทศอื่น นอกจากนี้ เนื่องจากวัคซีนบีซีจีจะฉีดในช่วงต้นของชีวิต จึงไม่แน่ชัดว่าการฉีดวัคซีนให้กับผู้ใหญ่อาจมีประสิทธิภาพเท่ากันหรือไม่ หรือการฉีดวัคซีนนั้นจะสร้างภูมิคุ้มกันต่อโรคโควิด-19 นานเท่าใด

               “ยิ่งไปกว่านั้น ยังไม่อาจสรุปได้ว่าวัคซีนบีซีจีจะมีผลข้างเคียงใด หากฉีดให้กับผู้ที่ติดเชื้อโรคโควิด-19 อยู่แล้ว” เบิร์กกล่าว “มีความจำเป็นเร่งด่วนที่จะต้องดำเนินการทดลองทางคลินิกแบบสุ่ม”

 

 

 

วิจัยชี้ฉีด วัคซีนบีซีจี อัตราติดเชื้อ - เสียชีวิตจากไวรัสโรคโควิด-19 ต่ำกว่า

 

 

 

--------------------

ที่มา : xinhuathai.com