ข่าว

"กัมพูชา" ไร้ผู้ป่วยโรคโควิด-19 รายใหม่ 4 วันติด รักษาหายแล้วกว่า 80%

"กัมพูชา" ไร้ผู้ป่วยโรคโควิด-19 รายใหม่ 4 วันติด รักษาหายแล้วกว่า 80%

16 เม.ย. 2563

กัมพูชาไม่มีรายงานพบผู้ป่วยโรคติดเชื้อไวรัสโคโรน่าสายพันธุ์ใหม่ 2019 รายใหม่ติดต่อกันเป็นเวลา 4 วันแล้ว

 

               วันพฤหัสบดี (16 เมษายน 2563) แถลงการณ์จากกระทรวงสาธารณสุขกัมพูชา ระบุว่า กัมพูชาไม่มีรายงานพบผู้ป่วยโรคติดเชื้อไวรัสโคโรน่าสายพันธุ์ใหม่ 2019 หรือ โรคติดเชื้อไวรัสโคโรน่า 2019 หรือ โรคโควิด-19 (COVID-19) รายใหม่ติดต่อกันเป็นเวลา 4 วันแล้ว ขณะที่พบผู้ป่วยที่ได้รับการรักษาจนหายดีเพิ่มอีก 2 ราย ส่งผลให้ขณะนี้ยอดผู้ป่วยที่ได้รับการรักษาจนหายดีรวมอยู่ที่ 98 ราย

อ่านข่าว - "ลอนดอน" จัดโรงแรมให้ "คนไร้บ้าน" นับพันกักตัวสกัดไวรัสโรคโควิด-19

 

 

 

               แถลงการณ์ ระบุว่า ผู้ป่วยที่ได้รับการรักษาจนหายดี 2 รายล่าสุดเป็นชายชาวฝรั่งเศส วัย 80 และ 61 ปี โดยพวกเขาได้รับการปล่อยตัวจากโรงพยาบาลมิตรภาพกัมพูชา - โซเวียต (Khmer - Soviet Friendship Hospital) เมื่อวันพุธ (15 เมษายน 2563) ที่ผ่านมา

               “อัตราการฟื้นตัวของผู้ป่วยโรคโควิด-19 ในกัมพูชา อยู่ที่ร้อยละ 80.33 โดยมีผู้ป่วยที่ได้รับการรักษาจนหายดีแล้ว 98 ราย จากผู้ป่วยทั้งหมด 122 ราย” แถลงการณ์ เผย ส่วนผู้ป่วยที่เหลืออีก 24 ราย กำลังอยู่ระหว่างการรักษาตัวในโรงพยาบาลที่กำหนด

               แมม บุญเฮง (Mam Bunheng) รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข ได้เรียกร้องให้กระทรวงแรงงานสั่งแรงงานตัดเย็บเสื้อผ้า ซึ่งลาหยุดงานในช่วงวันปีใหม่กัมพูชา (13 - 16 เมษายน 2563) กักกันตัวเองเป็นเวลา 14 วัน ที่ห้องเช่าของตน ก่อนจะอนุญาตให้กลับมาทำงานอีกครั้งเมื่อกลับจากบ้านเกิด เพื่อป้องกันไม่ให้เชื้อไวรัสแพร่กระจายไปยังโรงงานตัดเย็บเสื้อผ้า

 

 

 

               เฮง ซอร์ (Heng Sour) โฆษกกระทรวงแรงงาน กล่าวเมื่อต้นสัปดาห์ที่ผ่านมาว่า ราวร้อยละ 5 ของแรงงานตัดเย็บเสื้อผ้าได้ลาหยุดงานฉุกเฉินในช่วงวันปีใหม่ที่ถูกระงับการจัดงานเฉลิมฉลอง

               อิทธิ์ ซัมเฮง (Ith Samheng) รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน เผยว่า แรงงานที่ลาหยุดงานโดยไม่ได้รับอนุญาตจะถูกกักกันตัวเป็นเวลา 14 วัน โดยไม่ได้รับค่าจ้าง ขณะที่แรงงานที่ลาหยุดงานโดยได้รับอนุญาตจะถูกกักกันตัวเป็นเวลา 14 วันโดยได้รับค่าจ้าง

 

 

 

--------------------

ที่มา : xinhuathai.com