ชงต่อ พ.ร.ก.ฉุกเฉินฯแต่คลายล็อกดาวน์-ผ่อนผันเคอร์ฟิว | คมชัดลึก

       22 เม.ย.63 - รายงานข่าวแจ้งว่า ที่ประชุมฝ่ายความมั่นคง ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ะระบาดของโควิด-19 หรือ ศบค. ประชุมสรุปเสนอความเห็นให้รัฐบาลต่ออายุ พ.ร.ก.ฉุกเฉินฯ ออกไปอีก อาจจะเป็นเวลา 30 วัน พร้อมให้ผ่อนปรนมาตรการล็อกดาวน์และเคอร์ฟิวอย่างเป็นขั้นเป็นตอน  

อ่านข่าว-บช.น.ปรับลดด่านเคอร์ฟิวทั่ว กiรุงเทพมหานคร เหลือ 52 จุด

     ที่ประชุมฝ่ายความมั่นคง ซึ่งมีสำนักงานสภาความมั่นคงแห่งชาติเป็นผู้ประสานงาน ได้ประชุมประเมินสถานการณ์การใช้ พ.ร.ก.ฉุกเฉินฯมาตลอดทุกสัปดาห์ และล่าสุดได้มีข้อสรุปเป็นรายงานเสนอไปยังรัฐบาล และ ศบค. ให้ต่ออายุขยายเวลาการประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินต่อไป โดยอาจใช้กรอบเวลา 30 วัน และจะมีการประเมินสถานการณ์เป็นระยะ เพื่อควบคุมการระบาดของโควิด-19 ให้ประเทศไทยปลอดจากผู้ติดเชื้อรายใหม่ 

        ขณะเดียวกันได้มีการพิจารณาเรื่องการผ่อนปรนมาตรการล็อกดาวน์ เพื่อให้ระบบเศรษฐกิจเดินหน้าไปได้ และบรรเทาความเดือดร้อนของพี่น้องประชาชน  โดยที่ประชุมเห็นว่าจะให้ผ่อนปรนมาตรการล็อกดาวน์แน่นอน แต่จะพิจารณาเป็นด้านๆ แยกเป็นรายกิจการที่ถูกสั่งปิด ว่าให้เปิดเมื่อไหร่ และมีกิจการใดบ้าง โดยจะเริ่มในพื้นที่ปลอดการระบาด และไม่มีผู้ติดเชื้อรายใหม่เกิน 14 วันก่อน (ซึ่งมีราวๆ 30 กว่าจังหวัด) 

      จากนั้นจะประเมินสถานการณ์เป็นระยะ หากทิศทางเป็นไปด้วยดี ประชาชนยังร่วมมือกับแนวทางการผ่อนปรนมาตรการเข้ม 5 แนวทางที่เสนอโดยกรมควบคุมโรคภายหลังคลายล็อกดาวน์ ก็จะพิจารณาขยายพื้นที่คลายล็อกไปยังจังหวัดอื่นๆ ต่อไป แต่หากจำนวนผู้ติดเชื้อรายใหม่กลับมาเพิ่มขึ้น ก็จะต้องกลับมาล็อกดาวน์ 100% เช่นเดิม 

         อีกหนึ่งมาตรการที่มีการพิจารณาว่าจะผ่อนคลายค่อนข้างแน่ ก็คือมาตรการเคอร์ฟิว หรือการห้ามออกนอกเคหสถานในเวลาที่กำหนด ซึ่งขณะนี้กำหนดไว้ตั้งแต่ 4 ทุ่มถึงตี 4   เบื้องต้นฝ่ายความมั่นคงยังเสนอให้คงมาตรการเคอร์ฟิวต่อไป เพื่อป้องกันการรวมกลุ่มมั่วสุม โดยเฉพาะดื่มเหล้า เสพยาเสพติด และเล่นการพนัน แต่อาจผ่อนคลายให้ผู้ประกอบวิชาชีพบางอาชีพสามารถเดินทางในช่วงเวลาเคอร์ฟิวได้มากขึ้น  จากที่เคยอนุญาตเฉพาะผู้ที่ทำงานขนส่งอาหาร สิ่งของจำเป็น ยาและเวชภัณฑ์ หรือกลุ่มแพทย์ พยาบาล ตลอดจนผู้ที่เกี่ยวข้อกับการแก้ไขปัญหาโควิดเท่านั้น