แก๊งแท็กซี่เสี่ยงอ่อยโต้ไถเงิน อ้างเก็บเรี่ยไรช่วยเพื่อน คู่กรณียันเอาเรื่องถึงที่สุด
แก๊งแท็กซี่หน้าห้างฯดังย่านปากน้ำ เสียงอ่อยให้ปากคำตำรวจ อ้างไม่ได้ตั้งแก๊งรีดไถแค่เก็บเงินเรี่ยไรช่วยเพื่อนแท็กซี่ที่ไม่สามารถจอดหน้าห้างฯได้ ส่วนสติ๊กเกอร์ติดหน้ารถทำขึ้นมาติดเฉพาะกลุ่มเท่านั้น ขณะที่โชเฟอร์คู่กรณียันเอาเรื่องให้ถึงที่สุด
วันที่ 8 มิถุนายน 2563 นายชัยณรงค์ เนตรงามแท้ (เสื้อฟ้า) และนายสุมนัส มั่นเจริญ โชเฟอร์แท็กซี่ ได้เดินทางเข้าให้ปากคำกับตำรวจสถานีตำรวจภูธรเมืองสมุทรปราการ หลังจากเมื่อช่วงเช้านายทรงชัย (สงวนนามสกุล) คนขับรถแท็กซี่ เข้าแจ้งความกับตำรวจว่าถูกทั้งคู่พูดจาข่มขู่และเรียกเก็บเงินค่าจอดริมถนนบริเวณหน้าห้างสรรพสินค้าดังกล่าว
โดยทันทีที่ทั้งสองฝ่ายได้ประจันหน้ากัน ทางฝ่ายของนายทรงชัย ได้ลุกขึ้นต่อว่านายชัยณรงค์และนายสุมนัส พร้อมกับให้ยืนยันตัวตนว่าเป็นคนที่เข้ามาข่มขู่ตามในคลิปใช่หรือไม่ พร้อมกับระบุว่า "เมื่อวานแสดงความเป็นราชสีห์เวลาไล่เหยื่อตัวเล็ก ตอนนี้รู้สึกอย่างไรบ้าง" โดยระหว่างพูดจาได้เกิดอารมณ์เสียงดังทำให้เจ้าหน้าที่ตำรวจต้องรีบเข้าห้ามปราม
โดยนายชัยณรงค์ และนายสุมนัส อ้างว่าไม่ได้มีการข่มขู่ ทำร้ายร่างกาย หรือเรียกเก็บเงินจากนายทรงชัย เพียงแต่มีการเรี่ยไรเก็บเงินกันจริง เพื่อนำไปช่วยเพื่อนแท็กซี่คันที่ต่อท้ายแถว แล้วไม่สามารถเข้ามาจอดหน้าห้างฯได้ เพราะจะเป็นการกีดขวางการจราจร และการเรี่ยไรเองก็เพิ่งจะทำกันมาเพียง 2-3 วัน ส่วนเรื่องสติ๊กเกอร์ที่ติดหน้ารถที่มีการพูดถึงในคลิปนั้น ทำขึ้นมาติดกันเฉพาะในกลุ่มเท่านั้น
ทั้งนี้นายทรงชัย ได้เข้าให้ปากคำกับตำรวจเพิ่มเติม โดยเปิดเผยว่า จากนี้จะดำเนินคดีกลุ่มคู่กรณีให้ถึงที่สุด อาทิ ความผิดเกี่ยวกับการถูกคุกคาม และความผิดฐานซ่องโจร ขณะเกิดเหตุได้ขับรถมาชะลอในจุดเกิดเหตุ ซึ่งเป็นเส้นทางมุ่งหน้าคลองด่าน เพื่อหาผู้โดยสาร โดยไม่คิดจะจอดรอเหมือนกลุ่มคู่กรณี จากนั้นได้เกิดเหตุตามคลิป
ส่วนการตั้งวินเถื่อนนั้นส่งผลโดยตรงต่ออาชีพ เพราะเป็นการจำกัดเขตการหาเงิน และปัจจุบันพบมีวินเถื่อนอยู่กระจายในจังหวัดสมุทรปราการจำนวนมาก พร้อมต้องการให้ตำรวจดำเนินคดีแก่กลุ่มคู่กรณีให้ถึงที่สุด
อย่างไรก็ตาม ทางเจ้าหน้าที่จะได้สอบสวนทั้งสองฝ่ายโดยละเอียด และจะตรวจสอบพยานหลักฐานและสอบปากคำบุคคลที่เกี่ยวข้องทั้งหมด เพื่อให้ความเป็นธรรมกับทั้งสองฝ่าย ก่อนดำเนินการตามขั้นตอนต่อไป