ดี้ นิติพงษ์ เปิดภาพหาดูยาก ร่ายยาวนินทาเพื่อนรัก ตั้ว-ศรัณยู เมื่อ 40 ปีก่อน
ดี้ นิติพงษ์ ศิลปิน-นักแต่งเพลงชื่อดังโพสต์เปิดภาพหาดูยาก พร้อมทั้งร่ายยาวนินทาเพื่อนรัก ตั้ว-ศรัณยู วงษ์กระจ่าง เมื่อ 40 ปีก่อน
ภาพหาดูยาก ดี้ นิติพงษ์ ห่อนาค ศิลปิน-นักแต่งเพลงชื่อดังได้โพสต์ภาพหาดูยาก พร้อมกับเล่าเรื่องเมื่อ 40 ปีที่แล้ว นินทาเพื่อนสนิทผู้จากไปอย่าง ตั้ว-ศรัณยู วงษ์กระจ่าง ที่เสียชีวิตจากโรคมะเร็งตับระยะสุดท้ายเมื่อวันที่ 10 มิ.ย.2563 ที่ผ่านมา
อ่านข่าว : "ดี้ นิติพงษ์" โพสต์เศร้าถึง "ตั้ว-ศรัณยู" เพื่อนที่หล่อที่สุดตั้งแต่รู้จักมาจนถึงวันนี้
ไปหาตั้วที่วัดนาคปรกมาจ้ะ วัดนี้เป็นวัดประจำตระกูลของตั้วเลยก็ว่าได้ บ้านพ่อแม่ตั้วอยู่ติดกับวัดเลย..
พ่อแม่ตั้วมีบ้านว่างอยู่อีกหลังหนึ่ง...สมัยเรียนสถาปัตฯ ตั้วอยู่ที่บ้านนี้ ไม่ใช่สิ...ตั้วกับเพื่อนสถาปัตฯ จำนวนหนึ่ง อยู่บ้านนี้ ช่วงนั้นก็ไม่ใช่ปีหนึ่งนะ...ปีสามปีสี่ด้วยซ้ำ..
บ้านไม้สองชั้นเล็กๆ มีสองห้องคือ ห้องข้างบน กับห้องข้างล่าง เป็นบ้านที่ไม่ควรอยู่เกินสามคน... พวกเราสามารถอยู่ด้วยกันหกเจ็ดคนได้...พร้อมกับโต๊ะเขียนแบบคนละตัว... นอนตรงไหน...แล้วแต่
อยู่กันอย่างเขรอะ ทำโปรเจคส่งอาจารย์บ้าง คุยเรื่องเขียนบทละครบ้าง ร้องรำทำเพลงบ้าง....แล้วจะเอาเวลาที่ไหนไปนอน แม่ตั้วจะหุงข้าวต้มมาให้กินบ่อยๆ เพราะกลัวลูกกับเพื่อนๆ เป็นโรคขาดสารอาหาร...เพราะบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปมักจะเป็นอาหารหลัก ค่ำๆ ก็จิบแม่โขงโทนิคกัน วันไหนมีตังค์เยอะหน่อยก็ลงขันจิบแสงโสม
ทำงานไป พร่ำเพ้อละเมอพก ดื่มด่ำเมรัยยามราตรี จนเกือบเช้าก็แยกย้ายไปสุมหัวนอน แยกย้าย (ยังไงวะ ห้องเดียวนั่นแหละ)
ก่อนนอน...มีเพื่อนบางคนปวดเยี่ยว แล้วขี้เกียจลงมาเข้าส้วมข้างล่าง มันก็เยี่ยวตรงระเบียงบนบ้านดุจสายฝนอุบาทว์ ตกลงไปที่พื้นเบื้องล่างอันเป็นทางสัญจรเข้าออกของผู้คน รวมทั้งพระคุณเจ้า..ซึ่งกำลังจะออกมาบิณฑบาตร ในเวลาอันเกือบจะเดียวกันนั้น
ตั้วเห็นก็ตาเหลือก ตะโกนลั่น “เฮ้ย ไอ้... ลงไปเยี่ยวข้างล่างสิโว้ย...นั่นมันลงไปทางเดิน เดี๋ยวพระก็จะออกไปบิณฑบาตรแล้ว...”
“กูเมาว่ะตั้ว...กูลงไม่ไหว...”
เราเขรอะกันอย่างไม่น่าเชื่อ... เพื่อนคนหนึ่ง ตื่นก่อน อาบน้ำเสร็จแล้วหยิบกางเกงในฉันที่ตากอยู่ไปใส่เฉยเลย...
พอฉันลืมตาขึ้นมาเห็น ก็ร้องเฮ้ย.... มันด่ากลับหน้าตาเฉย.. “เฮ้ย...อะไรวะ ของแค่นี้หวงไปได้...”
ล้อมวงกินข้าวต้มที่แม่ตั้วต้มมาให้กิน...มีไอ้เพื่อนตัวร้ายคนนึง มันคะนอง...มันดึงขนในที่ลับ...เอาใส่ชามข้าวต้มเพื่อนทุกคน!!!! อ้วก “...ไอ้.....มึงทำอะไรของมึง...” “...หมี่กรอบไง...หมี่กรอบ...”
กว่าจะรอกันใช้ห้องน้ำ อาบน้ำมั่ง ไม่อาบมั่ง ก็แล้วแต่ ก็จะพากันเดินงัวเงียเป็นขบวนออกไปปากซอย เป็นอู่ต้นสายรถเมล์สาย 4 ตลาดพลู-คลองเตย ซึ่งโชคดีที่เป็นสายที่ผ่านจุฬาพอดี เราเป็นนิสิตก็ต้องไปเรียนสิ เราจะไม่พูดคุยกันทั้งสิ้น ต่างกับกลางคืนโดยสิ้นเชิง ต่างคนแยกย้ายไปนั่งริมหน้าต่าง ไม่นั่งด้วยกัน
ก่อนรถจะออกจากอู่ เราก็หลับกันโดยพร้อมเพรียงริมหน้าต่าง ไม่ต้องหวาดกลัวต้องลุกให้เด็กสตรีคนชราอะไรใดๆทั้งสิ้น เพราะเก้าอี้รถเมล์สมัยนั้นเป็นแบบนั่งคู่หมด ปลอดภัย ความปลอดภัยเริ่มสั่นคลอน....เมื่อ รถเมล์มาถึงป้ายจุฬา...แถว ๆ สามย่าน
ทีนี้ก็แล้วแต่ใครตื่นหรือไม่ตื่น..ตอนรถถึงป้ายนั้น และเราก็ตกลงกันไว้ก่อนแล้วว่า...ตัวใครตัวมันนะเว้ย จะมีเพื่อนบางคนที่ไปตื่นที่อู่คลองเตยเสมอ ตั้วไม่เคยพลาด พร้อมเพื่อนที่รอดมาได้ ก็จะลงป้ายแล้วเดินเข้าประตูจุฬาด้านพาณิชย์บัญชีด้านทิศใต้สุด เพื่อจะเดินผ่าจุฬาฯ ไปยังคณะสถาปัตฯ ที่อยู่ด้านทิศเหนือสุด
เพื่อนๆ ที่เดินอยู่ท้ายกลุ่ม จะได้ยินเสียงสาว ๆ จุฬา แอบกระซิบกัน “นี่ๆๆ...นี่ไงเธอ...ศรัณยู..” “ใช่เหรอ...” “ใช่ๆๆ...เอ๊..รึเปล่า..” “ไม่ใช่มั้ง...หูย..เดินผ่านที กลิ่นเหมือนขนมปังหืน...” ฯลฯ
สี่สิบปีมาแล้ว ไม่น่าเชื่อว่าภาพยังชัดมาก #นินทาตั้ว #ตั้วไม่ต้องมาแก้ต่างอะไรนะ #ว้าวุ่นเวอร์ชั่นวัดนาคปรก #ปินดาโพสยะมันไม่เขียนกูเขียนเอง #คิดถึงมึงนะตั้ว