ข่าว

 เตือน เศรษฐีนอนกอดโฉนดที่ดิน ไม่ได้ดูแล อาจหลุดเป็นของคนอื่น

เตือน เศรษฐีนอนกอดโฉนดที่ดิน ไม่ได้ดูแล อาจหลุดเป็นของคนอื่น

16 มิ.ย. 2563

นักวิชาการ เพยแพร่บทความ เตือนผู้ที่มีที่ดินแล้วไม่ได้ดูแล ระวังจะเสียกรรมสิทธิ์ให้ผู้อื่นโดยถูกต้องตามกฎหมาย

จากกรณีที่ พระพยอม กัลยาโณ เจ้าอาวาสวัดสวนแก้ว ที่ได้แพ้คดี จากการที่ซื้อที่ดินข้างวัด จำนวน 1 ไร่ 1 งาน 55 ตรว.จากนางวันทนา สุขสำเริง ที่อ้างว่าได้สิทธิ์จากการ "ครอบครองปรปักษ์" มาจากเจ้าของกรรมสิทธิ์เดิม คือทายาทของนางทองอยู่นั้น ได้กลายเป็นประเด็นดราม่าว่าใครเป็นฝ่ายผิดกันแน่ จนทำให้มูลนิธิวัดสวนแก้วต้องส่งมอบที่ดินคืน พร้อมย้ายทรัพย์สินและบริวารออกจากที่ดินผืนนี้ เนื่องจากพ่ายแพ้คดีในศาลจนคดีถึงที่สุด

หลายคนก็เกิดคำถามมากมากว่า ทำไม ครอบครองที่ปกปักษ์ จนศาลสั่งให้กรมที่ดินออกเป็นโฉนดที่ดินได้ และกรมที่ดินก็ยืนยันว่าสามารถซื้อขายเปลี่ยนมือได้ แต่สุดท้าย เมื่อเป็นคดีความกันแล้ว พระพยอมกลับแพ้คดี  เราจะได้ให้ข้อมูลชัดๆง่ายๆเกี่ยวกับ “การครอบครองปรปักษ์”

ล่าสุด ทางเพจ สถานีข่าวกระทรวงการคลัง ได้เผยแพร่ บทความของ นายชัยชาญ สิทธิวิรัชธรรม กรรมการ บรรษัทตลาดรองสินเชื่อที่อยู่อาศัย  ที่ปรึกษาด้านประสิทธิภาพ กรมที่ดิน โดยมีรายละเอียดว่า

 

วันดีคืนดีที่ดินของท่านอาจตกเป็นของคนอื่น…..หากท่านใดมีที่ดินหลายแปลงหลายแห่ง แล้วไม่มีเวลาดูแลหรือตรวจสอบที่ดินของท่านเป็นระยะเวลานานๆหลายปี พึงระวังนะครับ…..ที่ดินของท่านอาจจะตกเป็นของผู้อื่นโดยชอบด้วยกฎหมาย ถึงแม้ว่าท่านจะมีโฉนดที่ดินอยู่ที่ตัวท่านก็ไม่สามารถทำอะไรได้

 

กรณีโฉนดที่ดิน

หากบุคคลอื่นได้แย่งการครอบครองที่ดินโดย การครอบครองปรปักษ์ คือการที่บุคคลอื่นได้แย่งการครอบครองที่ดินที่เป็นโฉนดที่ดินของท่านมานานถึง 10 ปี โดยสงบ โดยเปิดเผยด้วยเจตนายึดถือเป็นเจ้าของเสียเอง หรือพูดภาษากฎหมายคือ

“อายุความได้สิทธิ” เป็นการที่บุคคลอื่นจะได้สิทธิ์หรือกรรมสิทธิ์ในทรัพย์สินของเราโดยการครอบครองปรปักษ์ตามมาตรา 1382 แห่งประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ และหากจะต้องฟ้องเรียกคืนการครอบครองทรัพย์สินนั้นจะต้องฟ้องภายในก่อนครบ 10 ปีนะครับ มิฉะนั้นท่านจะเสียกรรมสิทธิ์ในที่ดินแน่นอน

เตือน เศรษฐีนอนกอดโฉนดที่ดิน ไม่ได้ดูแล อาจหลุดเป็นของคนอื่น

 

การครอบครองปรปักษ์

จะต้องเป็นทรัพย์สินที่เจ้าของมีกรรมสิทธิ์ โดยเป็น ที่ดินจะต้องมีโฉนดที่ดินเท่านั้น โดยผู้แย่งการครอบครองสามารถไปขอจดทะเบียนได้มาโดยการครอบครองได้ โดยใช้หลักฐานเอกสารแสดงต่อพนักงานเจ้าหน้าที่ ประกอบด้วย คำสั่งหรือคำพิพากษาอันถึงที่สุดที่แสดงว่าผู้ขอได้กรรมสิทธิ์โดยการครอบครองปรปักษ์ บัตรประจำตัวประชาชน โฉนดที่ดินฉบับเจ้าของที่ดิน (ถ้ามี) ซึ่งถ้าผู้แย่งครอบครองไม่มีโฉนดที่ดิน ตามประมวลกฎหมายที่ดินบัญญัติให้เจ้าพนักงานถือว่าโฉนดที่ดินนั้นสูญหาย และออกใบแทนโฉนดที่ดินแล้วจดทะเบียนได้มาโดยการครอบครองปรปักษ์ให้ ส่วนโฉนดใบเดิมของท่าน (ฉบับเจ้าของที่ดินเดิม) เป็นอันถูกยกเลิก

 

กรณีหนังสือรับรองการทำประโยชน์ (น.ส.3, น.ส.3 ก., น.ส. 3ข.)

หากบุคคลอื่นเข้าแย่งการครอบครองที่ดินที่เป็นหนังสือรับรองการทำประโยชน์ของท่าน และท่านไม่ฟ้องขับไล่ภายใน 1 ปีท่านจะเสียสิทธิการครอบครองที่ดินแก่บุคคลอื่นไป

 

การมีโฉนดที่ดินอยู่กับตัวแต่ไม่ได้ไปดูแล ปล่อยให้ที่ดินเป็นที่รกร้างว่างเปล่าไม่ทำประโยชน์ในที่ดิน อาจจะตกเป็นของผู้อื่นได้โดยง่าย ดังนั้น ท่านจึงควรหมั่นดูแลรักษาที่ดิน หรือสร้างประโยชน์ในที่ดินของท่านที่เป็นน้ำพักน้ำแรง หรือมรดกที่ท่านได้มาให้เกิดประโยชน์สูงสุดนะครับ

 

ขอบคุณ สถานีข่าวกระทรวงการคลัง