"ยายแอ๊ด"ผู้ทรนงนอนซอกห้องเช่า มีคนใจบุญยื่นมือมาช่วยค่าเช่าแล้ว แต่ยังไร้หน่วยงานรัฐเหลียวแล
"ยายแอ๊ด"ผู้ทรนงนอนซอกห้องเช่า มีคนใจบุญยื่นมือมาช่วยค่าเช่าแล้ว แต่ยังไร้หน่วยงานรัฐเหลียวแล เปรยอยากได้บัตรประชาชนเพื่อรับสวัสดิการของรัฐ
(20 มิ.ย.2563) นายไพฑูรย์ อินทศิลา ประธานศูนย์ข่าวนคร 24 ชม.สมาคมสื่อมวลชนนครศรีธรรมราช ได้เดินทางไปสอบติดตามความคืบหน้าในการช่วยเหลือ นางสมปรารถนา กลั่นมาลัย หรือ “หรือยายแอ๊ด” อายุ 71 ปี ที่ขออาศัยซุกหัวนอนในซอกขนาด 1.5 x 2 เมตรหน้าห้องเช่าเลขที่ 4/575 ภายในหมู่บ้านการเคหะชุมชนจังหวัดนครศรีธรรมราช ถนนพัฒนาการคูขวาง ต.ในเมือง อ.เมือง จ.นครศรีธรรมราช ซึ่งในจุดดังกล่าวมีห้องเช่าอยู่ 2 ห้องเลขที่ 4/474 และ 4/475 ทั้ง 2 ห้องไม่มีคนอยู่ และเจ้าของห้องได้ล็อคกุญแจด้านหน้าอย่างแน่นหนา และจากการตรวจสอบพบว่านางสมปรารถนา หรือ “ยายแอ๊ด” ไม่มีบัตรประจำตัวประชาชน เนื่องจากหลบหนีออกจากบ้านตั้งแต่อายุ 12 ปี ก่อนจะมาได้สามีชาวนครศรีธรรมราช และล่าสุดเช่าห้องเลขที่ 4/474 อยู่อาศัยกับสามีซึ่งมีอาชีพขายวุ้น แต่สามีล้มป่วยเป็นโรคมะเร็งตับเสียชีวิตเมื่อปี 2557 ทำให้คุณยายแอ๊ดซึ่งไม่มีลูกหลานหรือญาติ ๆเลย และไม่สามารถหาเงินค่าเช่าห้องเดือนละ 1,500 บาทได้ จึงต้องออกจากห้องเช่าและขอทำเพิกพักอาศัยซุกหัวนอนอยู่หน้าห้องเช่าเลขที่ 4/475 ใกล้ ๆ กับห้องเลขที่ 4/474 อย่างน่าเวทนาสงสารเพราะมีสภาพยิ่งกว่าสุนัขหรือแมวเสียอีก
เมื่อไปถึงพบนางสมปรารถนา หรือ “ยายแอ๊ด” สวมเสื้อคอกระเช่าเก่า ๆ สีดำคาดชมพู นุ่งผ้าพถุงเก่า ๆ ลายใบไม้ ร่างกายรูปผอม หน้าตาซีดเซียวนั่งอยู่กับลูกแมวสีดำตัวหนึ่งบริเวณหน้าบ้านของเพื่อนบ้านที่อนุญาติให้ยายแอ๊ดมาอาบน้ำจากก๊อกน้ำหน้าบ้านและให้ยายแอ๊ดช่วยดูแลทำความสะอาดบ้านให้ในช่วงที่เจ้าของบ้านไม่อยู่บ้านเดินทางไปทำสวนปาล์มที่ ต.การะเกด อ.เชียรใหญ่ จ.นครศรีธรรมราช ในเบื้องต้นทราบว่าตั้งแต่นายไพฑูรย์ อินทศิลา มาเยี่ยมพร้อมมอบเงินช่วยเหลือเบื้องต้น 1,000 บาท พร้อมหม้อหุงข้าวไฟฟ้า 1 ใบเมื่อวันที่ 17 มิ.ย.2563 ที่ผ่านมา ก็ยังไม่มีหน่วยงานราชการใด ๆ เข้ามาติดต่อช่วยเหลือแม้แต่น้อย ในขณะที่มีเพื่อนบ้านหลายคนมาเยี่ยมยายแอ๊ด ให้ข้อมูลแม้จะเป็นข่าวทางสื่อมวลชนไปบ้างแล้วแต่ยังไม่เห็นหน่วยงานราชการที่เกี่ยวข้องทุกระดับเข้ามาช่วยเหลือแต่อย่างใด คงจะเป็นเพราะเห็นว่ายายแอ๊ด ไม่มีบัตรประจำตัวประชาชนหรือเอกสารใด ๆ ที่ยืนยันว่ายายแอ๊ดเป็นคนไทยก็เป็นได้
นางสมปรารถนา หรือ “ยายแอ๊ด” กล่าวว่า ยังไม่มีหน่วยงานราชการที่เกี่ยวข้องเข้ามาช่วยเหลือใด ๆ เลย โดยสิ่งที่ตนอยากให้ช่วยเหลือมากที่สุดคือเรื่องที่อยู่อาศัยและต้องการจะอยู่ห้องเช่าห้องเดิมที่เคยอาศัยอยู่กับสามี เนื่องจากก่อนเสียชีวิตสามีบอกว่า “แม่อย่าทิ้งพ่อไปไหนนะแม้พ่อจะตายไปแล้วแต่พอจะอยู่ที่ห้องเช่าห้องเดิม” ซึ่งหากหน่วยราชการจะมารับไปอยู่บ้านผู้ยากไร้ หรือบ้านพักคนชรา ตนยอมตายไม่ไปอย่างเด็ดขาดและขออยู่ในสภาพอย่างนี้ตลอดไปจนกว่าจะสิ้นลมหายใจ และตนยังสามารถหากินได้ เรื่องอาหารการกินไม่มีปัญหาตนไม่ยอมอดตายหรอก แต่ปัญหาคือตนไม่มีปัญญาหาเงินเช่าบ้านเดือน 1,500 เท่านั้นจึงต้องทนอยู่ในสภาพเช่นนี้
“อีกเรื่องที่อยากให้ช่วยเหลือคือช่วยติดต่อประสานงานเกี่ยวกับการทำบัตรประจำตัวประชาชนให้ตน เพราะตนเป็นคนไทย 100 เปอร์เซ็นต์ พูดไทยชัดเจนและเรียนหนังสือไทยอ่านออกเขียนได้ แต่ตนหนีออกจากบ้านพ่อแม่บุญธรรมเมื่ออายุ 12 ปี มารับจ้างทำงานที่ จ.สุราษฏร์ธานี สงขลา และนครศรีธรรมราช ก่อนจะมาได้สามีชาวนครศรีธรรมราช เช่าบ้านอาศัยอยู่ด้วยกันจนสามีเสียชีวิตเมื่อปี 2557 ที่ผ่านมา สำหรับภูมิลำเนาเดิมของตนอยู่แถววัดรวก ใกล้อู่รถ ขสมก.ไทยประดิษฐ์ ไม่แน่ใจว่าเอกสารหลักฐานเดิมหรือสูติบัตรตนติดที่เขตบางกอกน้อยหรือเขตบางพลัด โดยพ่อแม่บุญธรรมของตนชื่อนายประยรู ,นางอนงค์ เยาวลักษณ์ ซึ่งพ่อบุญธรรมเป็นข้าราชการกรมบัญชีกลาง โดยตอนเรียนชั้นประถม ฯตนเคยแอบเปิดตู้เอกสารพบเอกสาร ระบุชื่อพ่อแม่ที่แท้จจริงของตนคือนายทวีศักดิ์ ,นางเกียว ส่วนพ่อแม่บุญธรรมส่งเสียให้ตนเรียนจนจบ ป.6 ก่อนที่ตนจะหนีออกจากบ้านไม่ติดต่อกลับไปอีกเลย ในปัจจุบันเข้าใจว่าพ่อแม่บุญธรรมอาจจะเสียชีวิตหมดแล้ว แต่พี่บุญธรรมชื่อฐานันดร์ เยาวลักษณ์ น่าจะยังมีชีวิตอยู่ หากมีหน่วยงานใด หรือใครสามารถช่วยติดต่อประสานงานกับเจ้าหน้าทิ่ทะเบียนราษฎร์เขตบางกอกน้อยหรือบางพลัด ขอให้ช่วยตนด้วย ตนจะได้มีหลักฐานในการขอทำบัตรประชาชน เป็นคนไทยที่สมบูรณ์เสียทีแม้จะมีชีวิตในโลกนี้ไม่กี่ปีก็ตาม อย่างน้อยจะได้รับเบี้ยยังชีพคนชรา บัตรสวัสดิการคนจนและสิทธิในการรักษาพยาบาลได้”
ผู้สื่อข่าวรายงานว่าได้มีข้าราชการในกรุงเทพมหานครท่านหนึ่งชื่อ “คุณสมิตรา”ได้โทรศัพท์ประสานงานมายังนายไพฑูรย์ อินทศิลา เพื่อขอรับผิดชอบจ่ายค่าเช่าบ้านให้ยายแอ๊ดเดือนละ 1,500 บาททุกเดือนจนกว่ายายแอ๊ดจะเสียชีวิต โดยนายไพฑูรย์ ได้ให้ยายแอ๊ด คุยโทรศัพท์กับ “คุณสมิตรา” ข้าราชการใจบุญ ซึ่งยายแอ๊ดยืนยันว่าหากจะเช่าบ้านก็จะขอเช่าหลังเดิมเลขที่ 4/474 หรือเลขที่ 4/475 ที่ตัวเองทำเพิกพักอยู่หน้าห้องเช่า เพราะผูกพันกับบริเวณนี้และในปัจจุบันได้เลี้ยงแมวไว้ 1 ตัวชื่อ “เจ้าสมุทร” และนกเขาชวา อีก 1 ตัวชื่อ“โต้ง”ไว้เป็นเพื่อนตายและจะพูดคุยปรับทุกข์กับแมวและนกเขาชวาเป็นประจำ ซึ่งการที่คุณสุมิตรา แสดงความประสงค์ช่วยเหลือจ่ายค่าเช่าบ้านให้ทุกเดือน ๆละ 1,500 บาท ตนขอขอบพระคุณเป็นอย่างมาก ขอให้คุณสุมิตรา มีแต่ความเจริญรุ่งเรืองตลอดไป
นายไพฑูรย์ อินทศิลา จึงนำยายแอ๊ด เดินทางไปหาเจ้าของห้องเช่าเลขที่ 4/474 มีบ้านอยู่ด้านติดถนนพัฒนาการคูขวาง ต.ในเมือง อ.เมือง จ.นครศรีธรรมราช โดยทราบว่าแท้จริงห้องเช่าห้องดังกล่าวเป็นของน้องชายซึ่งอยู่ต่างจังหวัด จึงได้โทรประสานงานขอเช่าห้อง ๆ เดิมให้ยายแอ๊ดอยู่อาศัย แต่เจ้าของห้องเช้าไม่ยอมให้เช่าโดยบอกว่ากำลังจะขายห้องดังกล่าวแล้วจึงไม่ให้ใครเช่าอีกแล้ว สร้างความผิดหวังให้กับยายแอ๊ดเป็นอย่างมาก ในที่สุดยายแอ๊ด ได้ขอเปลี่ยนมาเช่าห้องเลขที่ 4/475 ซึ่งอยู่ติดกันและยายแอ๊ดทำเพิกพักอยู่ในซอกหน้าบ้านอยู่แล้ว แต่ปรากฏว่าเจ้าของห้องจะให้เช่าเดือนละ 2,000 บาท ประกอบกับเจ้าของห้องเช่าล้มป่วยนอนพักรักษาตัวที่ รพ.มหาราช จึงยังไม่สามารถเจรจาตกลงกันได้ ซึ่งจะได้ติดต่อประสานงานอีกครั้งหนึ่ง ผู้ที่ต้องการช่วยเหลือนางสมปรารถนา หรือ “ยายแอ๊ด” สามารถติดต่อสอบถามข้อมูลและช่วยเหลือได้ที่ นายไพฑูรย์ อินทศิลา ประธานศูนย์ข่าวนคร 24 ชม.สมาคมสื่อมวลชนจังหวัดนครศรีธรรมราช โทร/ไลน์ 081-6761299.
ภาพ/คลิป ศูนย์ข่าวนคร 24 ชม.สมาคมสื่อมวลชนนครศรีธรรมราช
ยุทธนะ เตมะศิริ ผู้สื่อข่าวภูมิภาค จ.นครศรีธรรมราช