เชียงใหม่ ไข้เลือดออกระบาด ดับแล้ว 1 ป่วย 439 เตือนอย่าซื้อยากินเอง
สสจ.เชียงใหม่ เตือนไข้เลือดออกระบาด ปัจจุบันมีผู้ป่วย 439 ราย เสียชีวิตแล้ว 1 ราย ควรสังเกตอาการคนในครอบครัว หากมีอาการไข้สูงฉับพลัน ไข้นานเกิน 2 วัน รีบพบแพทย์ อย่าซื้อยาทานเอง
วันที่ 7 ก.ค. 63 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ทาง ดร.ทรงยศ คำชัย หัวหน้ากลุ่มงานควบคุมโรคติดต่อ สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดเชียงใหม่ กล่าวว่า โรคไข้เลือดออกในประเทศไทย มีการคาดการณ์มาตั้งแต่ต้นปี 2563 จะมีการระบาดหนัก ประกอบกับช่วงนี้เป็นฤดูฝนเป็นช่วงระบาดของโรคไข้เลือดออก จึงต้องดำเนินการและติดตามสถานการณ์ของโรคไข้เลือดออกอย่างใกล้ชิด จากการเฝ้าระวังและการวิเคราะห์ทางระบาดวิทยาของสำนักงานสาธารณสุขจังหวัดเชียงใหม่ พบผู้ป่วยโรคไข้เลือดออก ผู้ป่วยสะสมตั้งแต่ วันที่ 1 ม.ค. 2563 ถึงปัจจุบัน ของจังหวัดเชียงใหม่ พบผู้ป่วยไข้เลือดออก จำนวน 439 ราย มีผู้เสียชีวิต 1 คน
ส่วนอำเภอที่มีอัตราป่วยโรคไข้เลือดออกมากที่สุด 3 อันดับ ได้แก่ อ.เชียงดาว อ.แม่ริม และ อ.ฮอด ตามลำดับ ทั้งนี้ โรคไข้เลือดออก เป็นโรคที่พบได้ในทุกกลุ่มอายุ ประชาชนควรสังเกตอาการของตนเองและคนในครอบครัว หากมีอาการไข้สูงเฉียบพลัน และไข้นานเกินกว่า 2 วัน อ่อนเพลีย ปวดเมื่อย หน้าตาแดง อาจมีผื่นขึ้นใต้ผิวหนังตามแขนขา ข้อพับ ไม่ควรซื้อยามารับประทานเอง ต้องรีบไปพบแพทย์ที่โรงพยาบาลโดยเร็ว เพื่อรับการวินิจฉัย เพราะหากเข้ามารับการวินิจฉัยช้า อาจเป็นเหตุสำคัญทำให้มีภาวะแทรกซ้อนและเป็นปัจจัยที่ทำให้เสียชีวิตได้ และทางกรมควบคุมโรค ขอแนะนำว่า สถานพยาบาลที่แม้ไม่อยู่ในพื้นที่เสี่ยง ควรมีการเฝ้าระวังโรคไข้ปวดข้อยุงลาย เนื่องจากยุงลายซึ่งเป็นพาหะนำโรคสามารถพบได้ทุกจังหวัด โดยการคัดกรองผู้ป่วยที่มาด้วยอาการ ไข้ ปวดข้อ มีผื่น หรือมีอาการคล้ายไข้เลือดออกแต่เกล็ดเลือดอยู่ในระดับปกติ และเมื่อพบผู้ที่มีอาการสงสัยให้รีบแจ้งหน่วยงานสาธารณสุขในพื้นที่ เพื่อดำเนินการควบคุมโรคอย่างรวดเร็ว สำหรับประชาชนให้ช่วยกันร่วมกำจัดแหล่งเพาะพันธุ์ลูกน้ำยุงลายและป้องกันไม่ให้ถูกกัด หากมีข้อสงสัยสามารถสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่สายด่วนกรมควบคุมโรค โทร. 1422”
ทั้งนี้แนะนำให้ประชาชนทุกกลุ่มอายุ โดยเฉพาะกลุ่มวัยรุ่น ผู้ใหญ่ ผู้สูงอายุ และผู้มีโรคประจำตัว เช่น โรคอ้วน เบาหวาน และความดันโลหิตสูง เป็นต้น ป้องกันตนเองไม่ให้ถูกยุงกัดโดยยึดหลัก 3 เก็บ ป้องกัน 3 โรค คือ 1.เก็บบ้านให้สะอาด ไม่ให้มีมุมอับทึบเป็นที่เกาะพักของยุง 2.เก็บขยะ เศษภาชนะไม่ให้เป็นแหล่งเพาะพันธุ์ยุง และ 3.เก็บน้ำ ภาชนะใส่น้ำต้องปิดฝาให้มิดชิดป้องกันไม่ให้ยุงลายวางไข่ จะสามารถป้องกันทั้ง 3 โรคในคราวเดียวกัน คือ 1.โรคไข้เลือดออก 2.โรคติดเชื้อไวรัสซิกา 3.โรคไข้ปวดข้อยุงลาย หากพบแหล่งเพาะพันธุ์ยุงลายที่ไม่สามารถกำจัดได้ สามารถแจ้งเจ้าหน้าที่สาธารณสุขหรือ อสม. ในเขตพื้นที่ของท่าน เพื่อดำเนินการกำจัดต่อไป สำหรับการกำจัดยุงลายตัวเต็มวัยภายในบ้าน และการป้องกันไม่ให้ยุงกัดโดยใช้ยาทากันยุง นอนกางมุ้ง รวมทั้งการเลี้ยงปลาหางนกยุง การใช้ทรายทีมีฟอส และขัดทำความสะอาดภาชนะสำหรับกักเก็บน้ำ ทุก 7 วัน จะช่วยลดการแพร่ระบาดของโรคได้.
ฟงหวิน ศักดิ์อัศวิน ผู้สื่อข่าวภูมิภาค จ.เชียงใหม่