สหรัฐฯ ดับแล้ว 1.74 แสน แม้ โควิด-19 ระบาดกลุ่มก้อน แต่ ทรัมป์ เดินหน้าดันเปิดเรียน | คมชัดลึก

ศูนย์วิทยาศาสตร์และวิศวกรรมเชิงระบบ (CSSE) แห่งมหาวิทยาลัยตชจอห์นส ฮอปกินส์ รายงานจำนวนผู้ป่วยโรคติดเชื้อไวรัสโคโรน่าสายพันธุ์ใหม่ 2019 หรือ โรคติดเชื้อไวรัสโคโรน่า 2019 หรือ โรคโควิด-19 (COVID-19) ในสหรัฐฯ พุ่งเกิน 5.6 ล้านราย เมื่อวันศุกร์ (21 สิงหาคม 2563) ที่ผ่านมา

รายงาน ระบุว่า จำนวนผู้ป่วยโรคโควิด-19 ในสหรัฐฯ สะสมอยู่ที่ 5,607,993 ราย โดยจำนวนผู้ป่วยเสียชีวิตสะสมอยู่ที่ 174,924 ราย เมื่อนับถึง 15.27 น. ของวันศุกร์ (21 ส.ค.) ตามเวลาท้องถิ่น

 

แคลิฟอร์เนียเป็นรัฐที่พบการระบาดมากที่สุดในสหรัฐฯ ด้วยจำนวนผู้ป่วยสะสม 655,374 ราย ตามด้วยรัฐฟลอริดา 593,286 ราย รัฐเท็กซัส 580,448 ราย และ รัฐนิวยอร์ก 428,512 ราย

รายงาน เสริมว่า ส่วนรัฐท้องถิ่นอื่นๆ ที่ตรวจพบผู้ป่วยสะสมเกิน 180,000 ราย ได้แก่ จอร์เจีย อิลลินอยส์ แอริโซนา และ นิวเตอร์ซีย์

แม้ปัจจุบัน สหรัฐฯ ยังคงเป็นประเทศที่พบการระบาดของโรคโควิด-19 มากที่สุดในโลก ครองสถิติสูงสุดทั้งจำนวนผู้ป่วยสะสมและผู้ป่วยเสียชีวิต แต่ประธานาธิบดีสหรัฐฯ โดนัลด์ ทรัมป์ เรียกร้องให้มหาวิทยาลัยเปิดเรียนทำการสอนต่อไป แม้จะมีรายงานการระบาดของโรคโควิด-19 แบบเป็นกลุ่มก้อนในหมู่นักศึกษาทั่วประเทศ

 

โดยสำนักข่าวซีเอ็นบีซีรายงานคำกล่าวของ ทรัมป์ ซึ่งระบุว่า โรคโควิด-19 เป็นอันตรายร้ายแรงสำหรับผู้สูงอายุ “แต่สำหรับนักศึกษามหาวิทยาลัย โอกาสของการเจ็บป่วยขั้นรุนแรงนั้นน้อยหรือเทียบเท่ากับความเสี่ยงของการเป็นโรคไข้หวัดใหญ่ตามฤดูกาลเท่านั้น”

อย่างไรดี มหาวิทยาลัยบางแห่งกำลังอยู่ระหว่างทบทวนแผนเปิดเรียนภาคการศึกษาฤดูใบไม้ร่วงใหม่อีกครั้ง เนื่องจาก สหรัฐฯ ตรวจพบการระบาดหลายกรณีเพียงไม่นานหลังนักศึกษากลับมาเข้าเรียนที่มหาวิทยาลัย ขณะเดียวกัน มหาวิทยาลัยนอร์ธแคโรไลนาที่ชาเปลฮิลล์ มหาวิทยาลัยนอเทรอดาม และ มหาวิทยาลัยรัฐมิชิแกน ได้ทยอยตัดสินใจยุติการเรียนในชั้นเรียนส่วนใหญ่ของภาคการศึกษาฤดูใบไม้ร่วงแล้ว

 

ทรัมป์ กล่าวว่า “การตัดสินใจปิดมหาวิทยาลัยอาจส่งผลให้มีผู้เสียชีวิตแทนที่จะช่วยชีวิตคน ผมคิดว่าการที่นักศึกษาอยู่ร่วมกับคนหนุ่มสาวด้วยกันย่อมปลอดภัยกว่าการกลับบ้านไปแพร่เชื้อไวรัสให้คนที่มีอายุมากกว่า”

เมื่อไม่นานนี้ จำนวนผู้ป่วยโรคโควิด-19 ในกลุ่มคนหนุ่มสาวของสหรัฐฯ ได้เพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว โดยเมื่อวันพุธที่ผ่านมา (19 ส.ค.) คณะผู้เชี่ยวชาญชั้นนำกล่าวกับสำนักข่าวซินหัวว่า มีหลายปัจจัยที่อาจส่งผลให้อัตราการติดเชื้อเพิ่มสูงขึ้นได้ อาทิ อัตราการป่วยโรคโควิด-19 ระดับสูงในหมู่ผู้ใหญ่ การรวมตัวกันของวัยรุ่นที่เพิ่มขึ้น และการกลับไปโรงเรียนช่วงที่มีการแพร่ระบาดใหญ่

 

อ่านข่าว - ผอ.อนามัยโลกหวังวิกฤติ โควิด-19 ยืดเยื้อไม่เกิน 2 ปี วัคซีนไม่ใช่เครื่องรับประกันว่าจบ

 

 

(แฟ้มภาพซินหัว : ประชาชนพักผ่อนริมชายหาดซานตาโมนิกา เทศมณฑลลอสแอนเจลิส รัฐแคลิฟอร์เนียของสหรัฐฯ วันที่ 15 ส.ค. 2020)

 

 

(แฟ้มภาพซินหัว : โดนัลด์ ทรัมป์ ประธานาธิบดีสหรัฐฯ แถลงข่าว ณ ทำเนียบขาว ในกรุงวอชิงตัน ดี.ซี. สหรัฐฯ เมื่อวันที่ 13 มี.ค. 2020)

 

CR : xinhuathai.com