"วิชา" แย้ม "คดีบอส" มีเอี่ยวทุกภาคส่วนพัลวันดุจมหากาพย์
อ.วิชา เผยรายงานการประชุม คดีทายาทกระทิงแดง เตรียมส่งนายกฯ จ่อเรียกสอบเพิ่มให้ครบองค์ฯ ยันยังไม่ถึงขั้นผบ.ตร. แย้ม มีเอี่ยวทุกภาคส่วน พัลวันดุจมหากาพย์
ที่สำนักงานกฤษฎีกาอาคารเทเวศร์ กรรมการชุด อ.วิชา มหาคุณ ประธานตรวจสอบคดี ประชุมใหญ่ สางคดีนายวรยุทธ หรือบอส อยู่วิทยา ทายาทกระทิงแดง สรุปทำรายงานส่งนายกรัฐมนตรี พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา
โดยนายวิชา กล่าวว่า ในเรื่องรายงานที่จะเสนอ มีทั้งหมด 2 ส่วน คือ รายงานครบรอบ30วัน และรายงานฉบับรวม ซึ่งจะมีข้อเสนออื่นเพิ่มเติม รวมถึงรายละเอียดของการเอกสารสำนวนต่างๆ ประการสำคัญคือการชี้ให้เห็นว่ามีข้อผิดพลาดอย่างไรบ้าง หรือการทำงานที่บกพร่องควรได้รับการปรับปรุงแก้ไข ซึ่งส่วนหนึ่งเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ดำเนินการแก้ไขตามมาตรา 147 แล้ว แต่ต้องเสนอเพิ่มไปตามข้อเท็จจริงตามข้อมูลจาก นพ.แท้จริง ศิริพานิช เลขาธิการมูลนิธิเมาไม่ขับ ที่ได้รับวันนี้ คือขณะกำลังมึนเมาอยู่ก็สามารถขับรถได้ โดยจะเป็นการส่งมอบต่อไปยังตำรวจนำเข้าสู่กระบวนการว่าจะนำไปเป็นพยานหลักฐานใหม่หรือไม่อย่างไร
ทั้งนี้ตนไม่มีอำนาจบังคับแต่อย่างใด เพราะเป็นมติของคณะกรรมการ นอกจากนี้ความเห็นของแพทย์ยังน่าสนใจตรงที่ว่า ถ้าปล่อยให้เป็นไปตามสำนวนเดิมคือเมาหลังขับ ก็จะเกิดกรณีให้นำไปเป็นเยี่ยงอย่างได้ ซึ่งทางคณะฯก็เห็นด้วย
อย่างไรก็ตามรายละเอียดปลีกย่อยของรายงานไม่ได้มุ่งเน้นเอาผิดตัวบุคคล แต่เป็นข้อเสนออันควรจะส่งให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องตรวจสอบต่อ แต่ยังไม่ถึงระดับผบ.ตร. เพราะยังต้องเรียกผู้เชี่ยวชาญและผู้เกี่ยวข้องมาให้ข้อมูลเพิ่มก่อน เพื่อให้เกิดการปฏิรูปกระบวนการยุติธรรม จึงต้องเสนอข้อมูลให้นายกฯได้รับทราบ ให้เป็นที่ชัดเจนแก่ประชาชน และต้องทำให้ตระหนักถึงความจำเป็นในการปฏิรูปอย่างไม่มีข้อโต้แย้งใดๆ ส่วนคดีของจารุชาติ นั้นนำมาตรวจสอบได้แต่ยังค้างอยู่ในกระบวนการเพราะเจ้าหน้าที่ตำรวจขอสอบข้อเท็จจริงเพิ่มก่อน
อย่างไรก็ตาม อ.วิชา ยังกล่าวในตอนท้ายว่า โดยรวมตามรายงานฉบับนี้จะพบว่า มีผู้เข้าร่วมขบวนการนี้ทุกภาคส่วนพัวพันกัน ตั้งแต่ต้นจนจบ เสมือนละครเรื่องหนึ่ง เรียกได้ว่าเป็น"มหากาพย์"ก็ว่าได้