
ผู้ว่าฯอุบลราชธานีตัดพ้อบินไทยยกเลิกเที่ยวบิน
ผู้ว่าราชการจังหวัดอุบลราชธานี ร้องขอให้ ผู้บริหารบริษัทการบินไทย ไม่ควรใช้วิธีการหยุดการบินเส้นทางกรุงเทพฯ-อุบลฯ ทันที ในต้นเดือนมีนาคมนี้ เสนอให้ใช้วิธีเพิ่มเที่ยวบินของนกแอร์ ควบคู่การบินของบริษัทการบินไทย ที่มีจำนวน 3 เที่ยวบินต่อวันอยู่แล้ว ชี้ตัดเยื
หลังจากที่บริษัทการบินไทย ได้ยกเลิกเส้นทางการบินกรุงเทพฯ -อุบลราชธานี โดยให้สายการบินนกแอร์ทำการบินแทน ตั้งแต่วันที่ 1 มีนาคม 2553 นี้ นั้น นายชวน ศิรินันท์พร ผู้ว่าราชการจังหวัดอุบลราชธานี ได้ร้องขอให้ทางผู้บริหารบริษัทการบินไทย ได้เห็นความจำเป็นในการพัฒนาเศรษฐกิจการค้า โดยเฉพาะด้านการท่องเที่ยวในส่วนภูมิภาค ซึ่งในภาพรวมการใช้บริการการบินไทย นั้นดีมาก ทำให้แปลกใจว่าทำไมต้องหยุดการบิน
ส่วนการที่บริษัทการบินไทยจะนำบริษัทลูก เช่น นกแอร์มาบินแทนนั้น ประชาชนในแถบอีสานใต้ล่างนี้เคยใช้บริการของนกแอร์ที่เคยมาบินตามเส้นทางดังกล่าว แล้วเลิกไป ประชาชนไม่ประทับใจในการบริการ เช่น เรื่องผิดเวลาบ้างหรือยกเลิกเที่ยวบิน ทำให้ธุรกิจการค้าเกิดความเสียหาย
“บริษัทการบินไทย ไม่ควรตัดเยื่อใยอย่างไม่ดูดำดูดีกับประชาชนในพื้นที่อีสานใต้และจังหวัดอุบลราชธานี ซึ่งหากจำเป็นทางธุรกิจของบริษัทการบินไทย ควรค่อยๆปรับแก้ไข เช่น อาจจะให้นกแอร์ทดลองบินก่อนหนึ่งเที่ยว จากการที่บริษัทการบินไทย มีเที่ยวบินกรุงเทพฯ- อุบลราชธานี วันละ 3 เที่ยว รวมทั้งคอยดูการให้บริการของสายการบินนกแอร์ เพื่อสร้างความเชื่อถือให้เกิดขึ้นก่อน ส่วนกรณีบริษัทการบินไทย เป็นผู้ถือหุ้นใหญ่ของนกแอร์ นั้น ในเรื่องการบริการทางการบินนั้น ตนไม่เชื่อว่าจะเป็นการสั่งการทำให้ได้ดีเกิดขึ้นได้ทันที แต่เป็นเรื่องของประสบการณ์การบริการและความเชี่ยวชาญ แล้วค่อยๆขยายหรือเพิ่มเที่ยวบินในอนาคต ซึ่งในส่วนตัวการตัดบัวที่ไม่เหลือเยื่อใย จะไม่เป็นผลดีต่อบริษัทการบินไทยแน่นอน” ผู้ว่าราชการจังหวัดอุบลราชธานี กล่าว
สายการบินนกมินิเล็งใช้เชียงใหม่เป็นฮับการบินภาคเหนือ
ดร.เจน ชาญณรงค์ กรรมการผู้อำนวยการใหญ่ สายการบินนกมินิ เปิดเผยว่า สถานการณ์ของธุรกิจสายการบินในปี 2553 นี้ มีแนวโน้มที่ดีขึ้นกว่าปี 2552 ที่ผ่านมา ซึ่งธุรกิจทั้งระบบได้รับผลกระทบต่อเนื่องจากเหตุความวุ่นวายทางการเมือง วิกฤตเศรษฐกิจ ส่งผลให้ภาพรวมของธุรกิจสายการบินลดลงกว่า 10% แต่สายการบินนกมินิค่อนข้างโชคดีที่เป็นสายการบินขนาดเล็ก มีต้นทุนต่ำจึงสามารถปรับตัวและประคองตัวให้ผ่านพ้นวิกฤตที่เกิดขึ้นในปี 2552 ได้
ส่วนในปี 2553 คาดการณ์ธุรกิจสายการบินจะขยายตัวและเติบโตจากปีที่ผ่านมาไม่ต่ำกว่า 3 เท่าตัว ตามการขยายตัวของเครื่องบิน เส้นทางการบินและไฟล์บินที่เพิ่มมากขึ้นกว่า 3 เท่าตัว ทั้งนี้สายการบินนกมินิ ซึ่งเป็นชื่อที่รีแบรนด์มาจากสายการบินเอสจีเอ เปิดให้บริการมานานกว่า 8 ปี และใช้จ.เชียงใหม่เป็นศูนย์กลางการบิน หรือ ฮับการบิน ในภาคเหนือมานานกว่า 3 ปี เพื่อขนส่งผู้โดยสารไปยังเมืองย่อยในภูมิภาคสร้างเส้นทางการบินครอบคลุมเกือบทุกเส้นทางในภาคเหนือแล้ว
ดร.เจน กล่าวอีกว่า ขณะนี้โจทย์ในการขยายเส้นทางการบินในภาคเหนือนั้นใกล้เสร็จตามเป้าหมายแล้ว จากนี้เป็นเรื่องการเพิ่มประสิทธิภาพการให้บริการแก่ผู้โดยสารสูงขึ้น รวมทั้งมีเป้าหมายขยายเส้นทางการบินระหว่างภูมิภาค โดยล่าสุดในวันที่ 17 ม.ค.นี้จะเปิดเที่ยวบินเชียงใหม่-อุดรธานี ไป-กลับ ทุกวันๆละ 1 เที่ยว โดยใช้เครื่องบินซาบ 340 ขนาด 33 ที่นั่ง และอนาคตอาจขยายเส้นทางการบินในภาคใต้ต่อไป
"ยอมรับว่าธุรกิจสายการบินเป็นธุรกิจที่ขาดทุนง่ายไม่มีผลกำไร แต่สำหรับสายการบินนกมินิมองว่าคู่แข่งสำคัญ คือ รถโดยสารประจำทาง ที่วิ่งรับ-ส่งผู้โดยสารระหว่างภูมิภาค ดังนั้นการคิดราคาค่าโดยสารจึงไม่สามารถคิดให้แพงได้"ดร.เจนกล่าว