
บอร์ดตั้ง"สมิทธิ ดารากร ณ อยุธยา "รักษาการ ผอ.องค์การสวนสัตว์ฯคนใหม่
บอร์ดสวนสัตว์ตั้ง"สมิทธิ ดารากร ณ อยุธยา" รักษาการ ผอ.องค์การสวนสัตว์ฯคนใหม่แทน " สุริยา แสงพงศ์ " ที่ถูกยิงเสียชีวิต
จากเหตุการณ์นายสุริยา แสงพงศ์ ผู้อำนวยการสวนสัตว์แห่งประเทศไทย ถูกยิงเสียชีวิตภายในห้องทำงาน ผู้อำนวยการองค์การสวนสัตว์แห่งประเทศไทย โดยผู้ก่อเหตุคือ นายภูวดล สุวรรณะ หัวหน้าฝ่ายอนุรักษ์ วิจัยและสุขภาพสัตว์ สวนสัตว์สงขลา ก่อนใช้อาวุธปืนกระบอกเดียวกันปลิดชีพตนเองภายในบ้านพักในเวลาต่อมา
ล่าสุดวันนี้(6ตุลาคม2563) นายชวลิต ชูขจร ประธานกรรมการองค์การสวนสัตว์แห่งประเทศไทย ซึ่งเป็นประธานการประชุมติดตามความคืบหน้ากรณีดังกล่าว ได้แถลงผลการประชุมซึ่งมีวาระการประชุมเรื่องรายงานความคืบหน้ากรณีเก้งเผือกตัวแรกสูญหาย และการแต่งตั้งคณะกรรมการสรรหาผู้อำนวยการองค์การสวนสัตว์แห่งประเทศไทย รวมทั้งแต่งตั้งรักษาการตำแหน่งผู้อำนวยการองค์การสวนสัตว์แห่งประเทศไทย โดยระบุว่าที่ประชุมมีมติแต่งตั้งให้นาย สมิทธิ ดารากร ณ อยุธยา เป็นรักษาการในตำแหน่งดังกล่าว มาทำหน้าที่ในภาวะที่ไม่มี CEO ตัวจริง เบื้องต้นขอแสดงความรู้สึกเสียใจและเสียดาย บุคลากรทั้งสองท่านคือ นายสุริยา และหมอภูวดล โดยมีการพูดคุยถึงประเด็นสาเหตุที่เกิดขึ้น โดยจะมีการเร่งรัดกระบวนการสรรหา CEOตัวจริง เพื่อมาทำหน้าที่ผอ.องค์การสวนสัตว์แห่งประเทศไทยคนใหม่
สำหรับประเด็นการสูญหายไปของเก้งเผือกพระราชทาน 2 ตัว ในสวนสัตว์สงขลานั้น ผลการตรวจสอบพบว่า ตัวแรกเก้งเผือกอายุ 2-3เดือน ที่สูญหายไป เมื่อ 19 ก.พ.2563 ยังไม่ทราบสาเหตุที่ชัดเจน แต่มีการพบซากหลังจากหายไปได้ 2 เดือน และไม่สามารถระบุได้ว่าเป็นตัวเดียวกับที่หายไปหรือไม่ ซึ่งจะส่งซากให้ทางกรมอุทยานฯทำการตรวจสอบในระดับเซลล์อีกครั้ง
ส่วนเก้งเผือกตัวที่ 2 ที่สูญหายมีอายุ 9 เดือน ทางคณะกรรมการสวนสัตว์ได้มีการนำหลักฐานในจุดที่พบซากมาแสดงแล้ว ปรากฏว่าถูกงูเหลือมป่ากินเข้าไปแต่ไม่ย่อย และบริเวณจุดที่พบเป็นโพรงในบริเวณจุดแสดง ซึ่งเชื่อได้ว่างูดังกล่าวเลื้อยเข้ามาจากทางต้นไม้ และได้มากินเก้งเผือกตัวดังกล่าว พร้อมยืนยันว่าไม่ใช่การหายไปจากการค้าสัตว์ป่า หรือเจ้าหน้าที่เข้าไปเกี่ยวข้องแต่อย่างใด นอกจากนี้จากการตรวจสอบในสวนสัตว์ดังกล่าว พบมีงูเหลือมเป็นจำนวนกว่า 200 ตัวที่เจ้าหน้าที่เคยจับได้
ทั้งนี้กรณีที่มีการสงสัยว่าภายในสวนสัตว์สงขลาจะมีการค้าสัตว์ป่า และเจ้าหน้าที่เข้าไปเกี่ยวข้องด้วยหรือไม่นั้น นายชวลิต ยืนยันว่า จากการตรวจสอบทั้งสองกรณี ยังไม่พบว่ามีการค้าสัตว์ป่าภายในองค์การสวนสัตว์ แต่ได้มีการทำเรื่องเสนอไปยังกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม เพื่อตั้งคณะกรรมการจากภายนอกขึ้นมาตรวจสอบ และสอบสวนเรื่องดังกล่าวอีกครั้ง
และยอมรับว่า ขั้นตอนการรายงานผลประชากรสัตว์ในสวนสัตว์ดังกล่าว มีจุดอ่อนในเรื่องของระบบที่อาจมีข้อพิรุธตรงความล่าช้า รวมถึงองค์การสวนสัตว์แห่งประเทศไทยไม่มีบอร์ด ในการทำงาน มาซักระยะหนึ่งแล้ว เมื่อมีการตั้งคณะกรรมการชุดใหม่เข้ามาทำงานได้ 6 เดือน ก็พบปัญหาในเรื่องจุดอ่อนการรายงานประชากรสัตว์ ซึ่งได้มีการแก้ไขปัญหาในเรื่องนี้โดยการตั้งนายสุริยา เข้ามาทำงาน และเป็นที่มาของการตั้งคณะกรรมการการนับประชากรสัตว์ โดยมีนายสุริยา เป็นประธานคณะทำงาน ซึ่งกรรมการชุดนี้ดำเนินการตามระเบียบการจำแนกบัญชีสัตว์ประเภท 1, 2, 3 ซึ่งแต่ละประเภทนำมาสู่การควบคุม และรายงาน พบว่ายังมีช่องโหว่ จึงทำให้ดูเหมือนมีพิรุธ ในการปกปิดข้อเท็จจริงบางอย่าง แต่สิ่งที่เป็นประเด็นสำคัญตอนนี้ และต้องตรวจสอบคือ สวนสัตว์ถูกระบุว่าเป็นแหล่งค้าสัตว์ป่าหรือไม่
นอกจากนี้สำหรับประเด็นการเสียชีวิตของ ผอ. สุริยา ยืนยันว่าเป็นการเข้าใจผิดระหว่าง นายสัตวแพทย์ ภูวดล ถึงในเรื่องการโยกย้ายเพื่อตรวจสอบข้อเท็จจริง ที่สื่อสารกันไม่เข้าใจ แต่ไม่ใช่เป็นเรื่องของการจัดสร้างสวนน้ำภายในสวนสัตว์สงขลา ตามที่เป็นข่าวเพราะนายสัตวแพทย์ภูวดลกับนายสุริยา เป็นเพื่อนที่เรียนจากโรงเรียนเดียวกันซึ่งช่วงเวลาที่เกิดเหตุนายสัตวแพทย์ภูวดลมีความเครียดในเรื่องครอบครัวคือคุณพ่อล้มป่วย จึงทำให้เกิดอาการเครียด ประกอบกับการสื่อสารที่ไม่เข้าใจกันจึงทำให้เกิดเรื่องดังกล่าวขึ้น แต่ในส่วนของคดีจะปล่อยให้เป็นหน้าที่ของทางเจ้าหน้าที่ตำรวจต่อไป
อย่างไรก็ตาม ตอนนี้ทางองค์การสวนสัตว์แห่งประเทศไทย ได้เพิ่มมาตราการเข้มงวดและรัดกุมในการดูแล "คุณมูมู่"เก้งเผือกอีกตัวที่เหลืออยู่ โดยยังไม่มีการย้ายไปอยู่ที่อื่น
ทั้งนี้ จากข้อมูลสัตว์ของสวนสัตว์สงขลาที่เคยหายไป พบว่า เมื่อปี 2554 มีนกแก้วมาคอร์หายไป 17 ตัว ซึ่งถูกเยาวชนจากภายนอกที่ไม่ใช่เจ้าหน้าที่ของสวนสัตว์ขโมยไป และได้ติดตามนกแก้วมาคอร์คืนกลับมาได้ 2 ตัว ซึ่งศาลก็มีการตัดสินยกฟ้องไปแล้วและเมื่อปี 2561 มีนอแรดหายไป ซึ่งจากการตรวจสอบก็พบว่านอแรดตายจากเหตุธรรมชาติ