ญาติพลทหารผูกคอ ร้องกองปราบฯคลี่คลายคดี
ครอบครัวพลทหาร ผูกคอในค่ายประเสริฐสงคราม จ.ร้อยเอ็ด ยื่่นหนังสือขอความเป็นธรรมตำรวจกองปราบปราม ให้จัดชุดสืบสวน คลี่คลายคดี เผยไม่มีแรงจูงใจทำร้ายตัวเองร้องขอผ่าพิสูจน์อีกครั้งตรวจชิ้นเนื้อซอกเล็บ-สารพิษในกระเพาะอาหาร ด้านแม่เผยอยากรู้ความจริงเกิดอะไร
จากกรณีพลทหาร พิชวัฒน์ อายุ 22 ปี เสียชีวิตภายหลังหนีออกมาจากค่ายทหาร จ.ร้อยเอ็ด โดยทางค่ายได้ชี้แจงกับทางญาติว่า ผู้ตายใช้เชือกผูกคอตายในห้องน้ำขณะที่ญาติยังติดใจสาเหตุการเสียชีวิต
ล่าสุดวันนี้ ที่กองบังคับการปราบปราม (บก.ป.) ทนายรณณรงค์ แก้วเพ็ชร์ ประธานเครือข่ายรณรงค์ทวงคืนความยุติธรรมใน พร้อมนางหนูไกร บุญวิเศษ อายุ 44 ปี และครอบครัวของพลทหารพิชวัฒน์ เวียงนนท์ ที่ผูกคอตัวเองภายในห้องน้ำกองรักษาการณ์ ค่ายประเสริฐสงคราม จังหวัดร้อยเอ็ด ยื่นหนังสือขอความเป็นธรรม ต่อ พล.ต.ต.สุวัฒน์ แสงนุ่ม ผบก.ป. เพื่อขอให้ตำรวจกองปราบปราม จัดชุดสืบสวนสอบสวน เข้าคลี่คลายคดี การเสียชีวิตของพลทหารพิชวัฒน์ เนื่องจากครอบครัวยังสงสัยในสาเหตุ และครอบครัวผู้ตายถูกเจ้าหน้าที่ข่มขู่หลังพยายามสืบหาความจริงเนื่องจากไม่เชื่อว่าผู้ตายจะฆ่าตัวตายเอง เกรงจะไม่ได้รับความเป็นธรรม โดยทนายรณณรงค์ ได้โรยพริกป่นใส่ไหล่ของแม่ผู้ตาย เพื่อสื่อถึงความเจ็บปวดที่ผู้ตายแจ้งให้ครอบครัวทราบก่อนจะเสียชีวิต
นายรณณรงค์ เปิดเผยว่า ก่อนเกิดเหตุ พลทหารพิชวัฒน์ หนีทหารออกจากค่าย และเมื่อกลับเข้าไปในค่าย จากนั้นเพียง 1 วัน ครอบครัวรับแจ้งว่า พลทหารพิชวัฒน์ ผูกคอเสียชีวิต ทำให้ครอบครัวติดใจในสาเหตุการเสียชีวิต นอกจากนี้หากผู้ตายมีอาการซึมเศร้าจริงตามที่มีกระแสข่าวนั้น โดยทั่วไปผู้ป่วยต้องมีสัญญาณบอกเหตุแต่ผู้ตายยังบอกให้แฟนสาวนำโทรศัพท์มาให้ คดีนี้ได้แจ้งความพนักงานสอบสวนในพื้นที่รับผิดชอบ แต่พบว่า มีความพยายามกดดันการสอบสวนคดีของตำรวจในพื้นที่ ดังนั้น จึงขอความเป็นธรรมให้ตำรวจกองปราบปราม เข้าไปร่วมสืบสวนสอบสวนในคดีนี้ เพราะครอบครัว ไม่เชื่อว่า พลทหารพิชวัฒน์ จะฆ่าตัวตาย เพราะไม่มีเหตุแรงจูงใจในการทำร้ายตัวเอง นอกจากนี้ ทางครอบครัว ยังขอให้ตำรวจ ตรวจสอบหลักฐานต่างๆ เช่นเชือกที่ใช้ผูกคอตัวเอง และกล้องวงจรปิด เพื่อนำมาใช้ในสำนวนคดี
ส่วนผลการชันสูตรฯ เบื้องต้น ไม่พบร่องรอยช้ำในร่างกาย แต่ทั้งนี้ ขอเรียกร้องให้มีการตรวจสอบชิ้นเนื้อในซอกเล็บ หรือ ตรวจสอบทางนิติวิทยาศาสตร์ เพื่อหาสารพิษในกระเพาะอาหาร โดยเบื้องต้น ส่งศพไปผ่าพิสูจน์ที่สถาบันนิติวิทยาศาสตร์ กระทรวงยุติธรรม มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ (รังสิต)
นางหนูไกร ยอมรับว่า ยังเสียใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ซึ่งครอบครัว ต้องการทราบสาเหตุที่แท้จริงของการเสียชีวิต เพราะก่อนที่ลูกชายจะกลับเข้าไปในค่าย ลูกชายบอกแม่ว่า กลับเข้าไปครั้งนี้อาจจะไม่ได้กลับออกมาพบหน้าแม่อีก ตนอยากรู้ความจริงว่าใครทำอะไรลูก ให้พูดมาเพราะตนมีที่พึ่งคือลูกเท่านั้น เมื่อสัปดาห์ก่อน มีเจ้าหน้าที่โทรศัพท์ให้สื่อสารกับลูกชาย ให้กลับมารายงานตัวที่ค่าย แต่เมื่อกลับไป ลูกชายบอกว่าถูกเหยียบคอ โรยพริกเกลือ ตัดผมและตีหลังจนช้ำ เขาบอกว่าไม่อยากกลับไปอีกไม่งั้นคงตายแน่ๆ กระทั่งตอนเสียชีวิต มีตำรวจและพยาบาลเซ็นส่งศพไป รพ.ร้อยเอ็ด ทั้งที่ยังไม่แกะเชือกออกจากศพและครอบครัวก็ถูกห้ามไม่ให้เข้าไปดูศพ มันไม่ถูกต้อง ที่ผ่านมา ลูกชายป่วยเป็นวัณโรคที่ปอดทำให้เหนื่อย ทำให้ต้องเข้าออกค่ายอยู่บ่อยครั้ง ล่าสุดมีใบแพทย์สั่งให้ออกมาพักฟื้น 6 เดือน ปกติก็ทำเรื่องขอออกมาถูกต้องทุกครั้ง แต่ล่าสุดไม่ทราบว่าเป็นอย่างไร
เบื้องต้นพนักงานสอบสวนรับเรื่องไว้ ก่อนรายงานผู้บังคับบัญชาพิจารณาสั่งการตามขั้นตอนต่อไป