สองหนุ่มไต้หวันเจอปรับคนละ 1 แสน แวะร้านเซเว่นอีเลฟเว่นก่อนกักตัว
ไต้หวันปรับพลเมือง 2 คน ไม่เคารพระเบียบกักตัวป้องกันโควิด-19 หลังกลับจากต่างประเทศ ด้วยการเข้าไปซื้อของในร้านสะดวกซื้อ ก่อนเข้ากักตัว
สำนักงานสาธารณสุขเกาสง เมืองทางใต้ของไต้หวัน แถลงว่า ชายหนุ่ม 2 คน วัย 20 ปีเศษ กลับจากกัมพูชาเมื่อ 25 พ.ย. จากนั้น ผ่านกระบวนการคัดกรองที่สนามบินถึงที่พักเพื่อเริ่มกักตัว 14 วันมาตรการป้องกันไวรัสโรคโควิด-19 แต่เมื่อเจ้าหน้าที่เข้าตรวจสอบความเรียบร้อยการกักตัวเช้าวันถัดไป พบว่าทั้งสองละเลยกฎหลายข้อ รวมถึงไม่ได้พัก1 คนต่อ 1 ห้อง มีรายหนึ่งอยู่กับเพื่อนหญิง และทั้งสามยังใช้ห้องน้ำรวมกัน เจ้าหน้าที่จึงส่งรถแท็กซี่สำหรับใช้ในภารกิจคุมระบาด พาชายทั้งสองไปกักตัวที่โรงแรมแห่งหนึ่งในตัวเมือง ส่วนเพื่อนหญิงให้กักตัวเองที่บ้านดูอาการ
แต่เมื่อไปถึงหน้าโรงแรม สองหนุ่มไม่สนคำเตือนของคนขับรถที่บอกให้เข้าสถานที่กักกันเลย ห้ามออกนอกเส้นทาง แต่แวะเข้าร้าน เซเว่น อีเลฟเว่น เพื่อซื้อของ คนขับรถจึงแจ้งทีมคุมระบาดของทางการเมืองเกาสง สำนักงานสาธารณสุขและตำรวจ
สำนักงานสาธารณสุขเกาสง กล่าวว่า การแวะร้านสะดวกซื้อก่อนเข้ากักตัวในโรงแรม เป็นการฝ่าฝืนกฎหมายพิเศษเพื่อป้องกันและบรรเทาโรคปอดอักเสบรุนแรงจากไวรัสสายพันธุ์ใหม่ อันเป็นความผิดที่มีโทษปรับ 1 แสนดอลาร์ไต้หวัน (ประมาณ 1 แสนบาท ) ทั้งสองถูกส่งตัวไปยังศูนย์อีกแห่งเพื่อกักตัว 14 วัน
ทางการเมืองเกาสงระบุว่า จำนวนผู้ที่เข้ากักตัวเพิ่มมากขึ้นเรื่อยๆ เช่นเดียวกับเหตุละเมิดกฎกักตัว ที่มีโทษปรับตั้งแต่ 1 แสน – 1 ล้านดอลลาร์ไต้หวัน
ที่ผ่านมา พบผู้ฝ่าฝืนระเบียบกักตัวรวม 154 ราย รวมค่าปรับ 20 ล้านดอลลาร์ไต้หวัน (ประมาณ 20 ล้านบาท ) การละเมิด มีตั้งแต่ออกมาเตร็ดเตร่ข้างนอก ไม่ตรงดิ่งเข้าสถานที่กักตัวหลังเดินทางถึงไต้หวัน ไปซื้อของ ไปเจอเพื่อน เยี่ยมห้องข้างๆ
ไต้หวันปรับ 1 แสนบาท คนกักตัวก้าวเท้าออกนอกห้องพักแค่ 8 วินาที (ชมคลิป)
เรื่อง/ภาพ Taiwan News