"ศรีสะเกษ" เข้าคุมพื้นที่ชายแดนช่องสะงำ สกัดแรงงานต่างชาติ หวั่นมีลักลอบเส้นทางธรรมชาติ สั่งคุมเข้มปิดทุกช่อง
"ศรีสะเกษ" เข้าคุมพื้นที่ชายแดนช่องสะงำ สกัดแรงงานต่างชาติ หวั่นมีการลักลอบเส้นทางธรรมชาติ สั่งคุมเข้มปิดทุกช่อง
จังหวัดศรีสะเกษ เข้าคุมพื้นที่ชายแดนช่องสะงำ สกัดแรงงานต่างชาติ ที่อาจจะไม่ปลอดภัยจากการแพร่เชื้อโรคโควิด-19 แม้จะปิดด่าน แต่ยังอนุญาติให้รถสินค้าวิ่งผ่านเข้าออกได้ปกติ หวั่นมีแรงงานลักลอบเส้นทางธรรมชาติ สั่งคุมเข้มปิดทุกช่อง
วันที่ 8 มกราคม 2564 นายวัฒนา พุฒิชาติ กูว่าราชการจังหวัดศรีสะเกษ เดินทางมาตรวจการปฏิบัติงานของเจ้าหน้าที่ ทุกฝ่าย ที่จุดผ่านแดนช่องสะงำ ระหว่างประเทศไทย กลับประเทศกัมพูชา ในเขตอำเภอภูสิงห์ จังหวัดศรีสะเกษ เชื่อมโยงกับอำเภออัลลองเวง จังหวัดอุดรมีชัย พร้อมเยี่ยมให้กำลังใจกับเจ้าหน้าที่ที่ปฏิบัติหน้าที่อย่างจุดผ่านแดน แม้ว่าวันนี้จังหวัดศรีสะเกษจะมีคำสั่งปิดด่าน ห้ามขนย้ายแรงงาน ผู้คน เข้าออกระหว่างประเทศทุกกรณี แต่ขณะนี้ยังมีการผ่อนปรนอนุญาตให้มีการขนส่งสินค้าที่จำเป็น ให้สามารถขนผ่านเข้าออกได้ พร้อมกับพนักงานคนขับรถขนส่งหนึ่งคนและแรงงานอีกหนึ่งคน รวมอนุญาตสองคนเท่านั้น ซึ่งจะต้องผ่านการตรวจอุณหภูมิ ตรวจสุขภาพเบื้องต้น ผ่านเครื่องเทอร์โมสแกนขนาดใหญ่ หากพบมีอุณหภูมิเกิน 37.5 องศาเซลเซียสจะไม่อนุญาตให้พาเดินเข้ามาเป็นเด็ดขาด
โดย นายวัฒนา พุฒิชาติ ผู้ว่าราชการจังหวัดศรีสะเกษ กล่าวว่า นอกจากมาตรการคัดกรองและตรวจเข้มแล้ว ยังมีการใช้แอพพลิเคชั่นหมอชนะด้วย เพื่อจะได้ตรวจติดตามเป็นฐานข้อมูลในกระบวนการสืบสวนสอบโรค ซึ่งสแกนบุคคลเข้าออกมีความรัดกุมและเข้มงวดมาก ๆ เพื่อป้องกันโรค COVID-19 ไม่ให้มีการระบาดเข้ามาในพื้นที่ อีกทั้งการตรวจสอบสินค้าเข้าออกได้จัดเจ้าหน้าที่ตรวจสอบอย่างละเอียดอีกครั้ง ที่ บริเวณตลาดสดเมืองใหม่ช่องสะงำ ห่างจากจุดผ่านแดนถาวรช่องสะงำประมาณ 2 กิโลเมตร ขณะที่การเดินทางของประชาชนจากจังหวัดใกล้เคียงเข้ามาในพื้นที่ต่าง ๆ ของจังหวัดศรีสะเกษ ได้กำชับฝ่ายท้องที่ท้องถิ่น และ อสม. เฝ้าระวังและตรวจสอบอย่างเข้มงวดเช่นกัน ที่สำคัญ ต้องมีหนังสืออนุญาตจากฝ่ายปกครองหรือผู้มีอำนาจมาด้วยทุกครั้ง เพื่อความสะดวกในการติดตามตรวจสอบต่อไป
ภาพ/ข่าว นายพงษ์พัฒน์ ไตรพิพัฒน์ / ศรีสะเกษ