ข่าว

ผบ.ตร.เซ็นคำสั่งตั้งกฎสั่งคดีใหม่

ผบ.ตร.เซ็นคำสั่งตั้งกฎสั่งคดีใหม่

09 มี.ค. 2552

"พัชรวาท"จัดระเบียบอำนาจสั่งคดี ให้อำนาจผู้บัญชาการสั่งคดีคดีประหลาด ครึกโครม ประชาชนสนใจ หวังให้นายลงไปควบคุมดูแลลูกน้องใกล้ชิด ต้านอำนาจอิทธิพลบางพื้นที่ ส่วนความมั่นคงให้เสนอ ผบ.ตร.

 สำนักงานตำรวจแห่งชาติ(ตร.) วันที่ 9 มี.ค. มีรายงานว่า พล.ต.อ.พัชรวาท วงษ์สุวรรณ ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (ผบ.ตร.)ได้มีคำสั่งตร.เกี่ยวกับการทำความเห็นในการสั่งคดีเพื่อเป็นนโยบายในการปฏิบัติของพนักงานสอบสวนทั่วประเทศ ทั้งนี้ คำสั่งระบุว่า ผู้บัญชาการ(ผบช.) หรือผู้รักษาราชการแทน ผู้บังคับการ(ผบก.)หรือผู้รักษาราชการแทน มีอำนาจลงความเห็นได้ทุกคดี
 ในคดีที่มีความเห็นสั่งฟ้อง ผู้กำกับการ (ผกก.)หรือหัวหน้าสถานี ที่ไม่ใช่ ผกก.หรือผู้รักษาราชการแทน  มีอำนาจทำความเห็นในคดีที่โทษจำคุกไม่เกิน 15 ปี หรือปรับไม่เกิน 300,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ 
 ส่วนคดีที่มีความเห็นสั่งไม่ฟ้อง ผกก.หรือหัวหน้าสถานี มีอำนาจทำความเห็นในคดีที่มีอัตราโทษจำคุกไม่เกิน 5 ปี หรือปรับไม่เกิน 10,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ ขณะที่ ผบก.หรือผู้รักษาราชการแทน หรือผู้ปฏิบัติราชการแทน มีอำนาจทำความเห็นในคดีที่มีอัตราโทษจำคุกไม่เกิน 15 ปี หรือปรับไม่เกิน 300,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ แต่สำหรับผบช. หรือ ผู้รักษาราชการแทน หรือผู้ปฏิบัติราชการแทน มีอำนาจทำความเห็นได้ทุกคดี
 กรณีสั่งฟ้องคดีที่ลักษณะแปลกประหลาด ครึกโครมเป็นที่สนใจของประชาชน คดีการเมือง คดีที่มีผู้ต้องหาเป็นพระบรมวงศานุวงศ์ ตั้งแต่ชั้นหม่อมเจ้าขึ้นไป พระภิกษุสามเณรในพระพุทธศาสนา องคมนตรี บุคคลในคณะรัฐบาล บุคคลในคณะทูต   กงสุล สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร สมาชิกวุฒิสภา หรือผู้ต้องหาเป็นข้าราชการประจำตั้งแต่ระดับ 3 ขึ้นไป หรือผู้ต้องหาเป็นข้าราชการทหารหรือตำรวจประจำการยศตั้งแต่ชั้นสัญญาบัตรขึ้นไป สำหรับทหารหรือตำรวจประจำการต่ำกว่าชั้นสัญญาบัตรลงมาเฉพาะความผิดที่อาจกระทบกระเทือนต่อความสามัคคีและคดีที่อาจเกิดปัญหาก่อให้เกิดความไม่สงบเหล่านี้ให้เสนอ ผบช.หรือผู้รักษาราชการแทน  เป็นผู้ทำความเห็น เว้นแต่ความผิดนั้น ๆ จะอยู่ในอำนาจศาลแขวง และผู้ต้องหาให้การรับสารภาพตลอดข้อหาให้พนักงานสอบสวนส่งตัวผู้ต้องหาไปยังพนักงานอัยการเพื่อฟ้องวาจาต่อไป   สำหรับคดีความผิดเกี่ยวกับความมั่นคงแห่งราชอาณาจักรให้เสนอตามลำดับจนถึง ผบ.ตร.หรือผู้รักษาราชการแทน หรือผู้ปฏิบัติราชการแทน เป็นผู้ทำความเห็น 
 ทั้งนี้ทั้งนั้นในการสั่งคดี หากผู้บังคับบัญชาชั้นเหนือกว่าได้สั่งการไว้โดยเฉพาะให้ปฏิบัติอย่างไร ต้องปฏิบัติไปตามคำสั่งนั้น หรือหากคดีใดที่ผู้มีอำนาจทำความเห็นพิจารณาแล้วเห็นว่า เป็นคดีที่มีเหตุพิเศษในลักษณะคดีหรือเกี่ยวกับตัวผู้ต้องหา ซึ่งผู้บังคับบัญชาเหนือชั้นขึ้นไปสมควรจะได้ทราบเพื่อพิจารณาสั่งการก็ให้เสนอได้ โดยให้ระบุเหตุผลพิเศษประกอบการเสนอผู้บังคับบัญชาด้วย
 อย่างไรก็ตามมีรายงานว่า คำสั่งดังกล่าว พล.ต.อ.วงกต มณีรินทร์ รองผบ.ตร. ฝ่ายกฎหมายและสอบสวนเป็นผู้พิจารณาเสนอให้ ผบ.ตร.พิจารณา ลงนาม ทั้งนี้เพื่อจัดลำดับอำนาจในการสั่งคดี เพื่อให้ผู้บังคับบัญชาระดับผบก. และผบช.ลงมาดูผู้ใต้บังคับบัญชาอย่างใกล้ชิด ไม่มีปัญหาการปล่อยปละละเลย และนอกจากนี้ ตร.ยังเล็งเห็นว่าการสั่งคดีในบางพื้นที่ เพียงแค่ระดับ ผกก. ไม่สามารถต้านทานผู้มีอิทธิพลได้ จึงมอบอำนาจควบคุมและสั่งคดีให้แก่ผู้บังคับบัญชาระดับสูง