ตำรวจรวบโจรฉกทรัพย์เกลี้ยงเบนซ์ หลังจอดสวนลุมฯ กวาดเรียบเงินสดทองคำกว่า 6 แสน
ตำรวจ รวบพ่อค้ารับซื้อของเก่า ฉกทองหนัก 23 บาท เงินสดอีก 4 หมื่น จากรถเบนซ์ หลังเจ้าทรัพย์มาจอดออกกำลังกายแต่ลืมล็อคประตู พบประวัติโชกโชนเพิ่งโทษคดีลักษณะเดียวกันเมื่อปี 2548 สภ.บางแก้ว สน.ลุมพินี
วันที่ 19 มกราคม 2564 เวลา 13.00 น. พ.ต.อ.จักรกริศน์ โฉสูงเนิน ผู้กำกับการ(ผกก.)สน.ลุมพินี พร้อมด้วย พ.ต.ท.ปรัชญา บุญยืน รองผกก.สส.สน.ลุมพินี พ.ต.ต.ภาราดร สุวรรณรัตน์ และพ.ต.ต.สิทธิศักดิ์ สุดหอม สว.สส.สน.ลุมพินี ร่วมกันนำกำลังตำรวจ ฝ่ายสืบสวน สน.ลุมพินี จับกุมตัวนายคเชนทร์ สีหามาต หรือเหน่ง อายุ 45 ปี ผู้ต้องหาลักทรัพย์ที่เจ้าของวางไว้ภายในรถยนต์ พร้อมของกลางเงินสด จำนวน 40,000 บาท และทองรูปพรรณหลายรายการ รวมน้ำหนักทอง 23 บาทมูลค่ากว่า 6 แสนบาท
สืบเนื่องจาก นายนพ(สงวนชื่อนามสกุลจริง) เจ้าของร้านทองแห่งหนึ่ง ในจ.พระนครศรีอยุธยา เข้าแจ้งความกับตำรวจ เมื่อวันที่ 17 มกราคม ภายหลังนำ รถเบนซ์ รุ่นจีแอลซี มาจอดไว้ภายในสวนลุมพินี แขวงลุมพินี เขตปทุมวัน กรุงเทพฯ ก่อนที่จะไปเดินเล่นภายในสวนสาธารณะ โดยลืมล็อคประตูรถ เมื่อกลับมายังรถ พบว่ากระเป๋าที่วางไว้บริเวณเบาะด้านหลังถูกรื้อค้นและทรัพย์สินภายในสูญหายไป ทั้งเงินสด 50,000 บาท และทองรูปพรรณเก่า น้ำหนักรวมประมาณ 23 บาท มูลค่ากว่า 6 แสนบาท
ด้านการสืบสวน ตำรวจสามารถได้ภาพจากกล้องวงจรปิด บันทึกคนร้ายเป็นชาย อายุราว 50 ปี จึงติดตามและตรวจสอบ จนทราบว่าคนร้ายคือนายคเชนทร์ หรือเหน่ง สีหามาต อายุ 45 ปี อาชีพรับซื้อ-ขายของเก่า จึงนำตัวมาสอบสวนและค้นไปยังที่พัก พบของกลางทั้งหมด
ผู้ต้องหาให้การรับสารภาพตลอดข้อกล่าวหา ให้การว่าตนเองมีอาชีพหารับซื้อของเก่าและนำไปขายต่อเพื่อเอากำไรส่วนต่าง วันเกิดเหตุเดินอยู่ภายในที่จอดรถดังกล่าวแล้วพบเห็นว่ารถคันกล่าวไม่ได้ล็อค โดยสังเกตจากเดือยกลอนบริเวณกระจก ตนจึงเปิดประตูเข้าไปนั่ง บริเวณประตูหน้าด้านคนขับ ก่อนจะทำการรื้อค้นทรัพย์สินภายในรถ และเจอของกลางดังกล่าว ภายหลังก่อเหตุก็ได้เดินทางกลับห้องพักย่านวงเวียนใหญ่ จนมาถูกเจ้าหน้าที่จับกุมดังกล่าว สำหรับเงินของกลางจำนวน 10,000 บาทที่ผ่านไป ตนได้นำไปใช้จ่ายและซื้อเครื่องชั่งดิจิตัล เพื่อจะนำไปชั่งน้ำหนักทองที่ได้มา
ทั้งนี้ ตำรวจตรวจสอบประวัติพบว่า นายคเชนทร์เคยถูกดำเนินคดีและถูกจำคุกในข้อหาลักทรัพย์มาแล้ว 2 ครั้งในท้องที่สน.ลุมพินี เมื่อปี 2548 และสภ.บางแก้ว โดยก่อเหตุในลักษณะคล้ายกัน เพิ่งจะพ้นโทษเมื่อเดือนกันยายนปีที่ผ่านมา ก่อนจะมาก่อเหตุซ้ำอีก อย่างไรก็ตาม ทางตำรวจฝากประชาสัมพันธ์ ภายหลังจากลงจากรถ ตรวจสอบทุกครั้งว่าล็อกรถดีหรือยัง และระวังอย่าจอดในที่ลับตาคน เพราะจะเสี่ยงต่อการก่อเหตุของมิจฉาชีพ
เบื้องต้นเจ้าหน้าที่แจ้งข้อหา"ลักทรัพย์โดยทำอันตรายสิ่งกีดกั้นสำหรับคุ้มครองบุคคลหรือทรัพย์หรือโดยผ่านสิ่งเช่นว่านั้นเข้าไปด้วยประการใดๆ " ก่อนนำตัวส่งพนักงานสอบสวนดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป