จากสถานการณ์การระบาดของเชื้อโควิด19ใน จ.สมุทรสาคร ที่พบทั้งคนไทยและแรงงานข้ามชาติที่มีอยู่เป็นจำนวนมาก ทำให้จังหวัดสมุทรสาครถูกยกระดับให้เป็นพื้นที่ควบคุมเข้มข้น และต้องมีการตรวจหาเชื้อโควิด 19 เชิงรุก ในพื้นที่เป้าหมายที่เป็นกลุ่มเสี่ยง และกลุ่มเปราะบาง
สำหรับการตรวจหาเชื้อโควิด-19เชิงรุก ณ วันที่ 19 มกราคม 2564 ตามแผนปฏิบัติการ “ 2 สัปดาห์ ทลายรังปลวก” ของสำนักงานสาธารณสุขจังหวัดสมุทรสาครนั้น ก็ได้มีการสุ่มตรวจในกลุ่มผู้ใช้แรงงานภายในนิคมอุตสาหกรรมสมุทรสาคร ซึ่งมีสถานประกอบการตั้งอยู่ในพื้นที่มากกว่า 100 แห่ง มีผู้ใช้แรงงานกว่า 20,000 คน ส่วนการสุ่มตรวจในครั้งนี้ใช้วิธีการเก็บตัวอย่างจากน้ำลายของพนักงานโรงงานละ 50 ราย หากสถานประกอบการใดพบเชื้อมากกว่า 10 เปอร์เซ็นต์ ก็จะเข้าไปดำเนินการตรวจให้ครบทุกคน
ขณะที่วิธีการตรวจนั้น ได้เปลี่ยนจากการตรวจหาเชื้อด้วยสารคัดหลั่งในโพรงจมูก ( การตรวจโควิดแบบ Swab หรือ PCR ) ซึ่งได้ผลแม่นยำมากที่สุดแต่ทราบผลช้าที่สุด กับ การตรวจจากการเจาะเลือด (Rapid test) มาเป็นการตรวจหาเชื้อโควิด 19 ในน้ำลายแทน เนื่องจากทราบผลเร็ว และได้ผลที่แม่นยำมากกว่า Rapid test ส่วนการตรวจหาเชื้อนั้น ก็จะส่งไปให้กรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ หรือหน่วยงานที่ได้รับมอบหมาย เป็นผู้ตรวจ หากใครพบเชื้อเป็นบวก ก็จะแจ้งผลกลับมาเพื่อนำผู้นั้นเข้าสู่การควอรันทีนต่อไป
สำหรับการตรวจหาเชื้อโควิด 19 เชิงรุกในขณะนี้ เป็นการทำงานแบบเข้มข้น ตามปฏิบัติการ “2 สัปดาห์ ทลายรังปลวก” โดยจะจัดเจ้าหน้าที่เข้าไปตรวจทั้งในสถานประกอบการ และ แหล่งชุมชน กลุ่มเสี่ยง กลุ่มเปราะบาง ซึ่งในส่วนของสถานประกอบการที่ดำเนินการตรวจอยู่ในช่วงนี้ เป็นสถานประกอบการขนาดกลางมีผู้ใช้แรงงาน 200 – 500 ราย หลังจากที่ตรวจสถานประกอบการขนาดใหญ่ที่มีผู้ใช้แรงงานมากกว่า 500 ราย เสร็จสิ้นไปเป็นที่เรียบร้อยแล้ว
ข่าวโดย..จำรัส โกยอารี/สมุทรสาคร.
ข่าวที่เกี่ยวข้อง