ฝรั่งเศสเตือนประชาชน หน้ากากผ้าอาจป้องกันโควิด-19 กลายพันธุ์ไม่ดีพอ
รัฐบาลฝรั่งเศสแนะนำประชาชน ให้สวมหน้ากากอนามัย หรือ เซอร์จิคอล แมสก์ ในที่สาธารณะ เพราะป้องกันโควิด-19 กลายพันธุ์ ได้ดีกว่าหน้ากากผ้า
ฝรั่งเศสกำหนดให้ประชาชนต้องสวมแมสก์ครอบจมูกและปากเมื่ออยู่ในสถานที่สาธารณะ หากฝ่าฝืนมีโทษปรับ 135 ยูโร แต่ยังไม่เคยมีคำแนะนำเจาะจงชนิดของแมสก์ แต่ล่าสุด Olivier Veran รัฐมนตรีสาธารณสุขฝรั่งเศส ออกมาพูดชัดเจนว่า ประชาชนไม่ควรใช้หน้ากากผ้าอีกต่อไป หลังจากฝรั่งเศสพบเชื้อไวรัสก่อโรคโควิด-19 กลายพันธุ์ที่แพร่ในอังกฤษกับแอฟริกาใต้ที่ติดกันได้ง่ายกว่าเดิมในประเทศ ควรใช้หน้ากากอนามัยทางการแพทย์ ( surgical mask) แบบใช้ครั้งเดียวทิ้ง
คำแนะนำของรัฐมนตรีสาธารณสุข มีขึ้นหลังจากเมื่อสุดสัปดาห์ สภาที่ปรึกษาสาธารณสุขของฝรั่งเศส ได้ปรับคำแนะนำเรื่องการสวมแมสก์ในที่สาธารณะแต่ยังไม่ได้เผยแพร่คำแนะนำอย่างเป็นทางการ โดย นายแพทย์ Didier Lepelletier ประธานร่วมคณะทำงานของสภาฯ กล่าวกับสถานี BFMTV ว่า หน้ากากผ้าที่ประชาชนจำนวนมากนิยมเพราะนำมาใช้ใหม่ได้ อาจไม่ได้รับประกันว่าเป็นทางเลือกปลอดภัยที่สุดในการป้องกันโควิด-19 สายกลายพันธุ์ ที่แพร่ได้ง่ายกว่าเดิม 50-ประชาชนควรใส่หน้ากากอนามัยทางการแพทย์ หรือแมสก์ FFP2 (มาตรฐานเดียวกับ N95) แบบที่เยอรมนีบังคับใช้ในสถานที่สาธารณะบางแห่ง
ปัญหาหลักอย่างหนึ่งของการใช้หน้ากากผ้าแบบทำเอง ก็คือไม่ผ่านการตรวจรับรองอย่างเป็นทางการ ระดับการป้องกันจึงอาจขึ้นอยู่กับใยผ้า ความหนา และการออกแบบตัดเย็บ
สำหรับแมสก์ที่ฝรั่งเศสแนะนำแยกเป็นสองแบบ แบบแรก กรองละอองได้ 90% ซึ่งรวมถึงหน้ากากทางการแพทย์แบบใช้ครั้งเดียว หน้ากากแบบ FFP2 กับผ้าที่มีคุณสมบัติเฉพาะ ส่วนแบบที่สอง เป็นแมสก์ที่กรองละออง 70% รวมถึงหน้ากากผ้าแบบที่แนะนำให้ใส่จนถึงปัจจุบันก่อนมาปรับใหม่เป็นแนะนำให้ใส่แบบชนิดแรก กระนั้น ผู้เชี่ยวชาญไม่แนะให้ใช้แมสก์แบบ FFP2 ป้องกันไวรัส เพราะถึงจะป้องกันได้ดีที่สุด แต่สวมใส่ยาก หากใส่ผิดวิธี ประสิทธิภาพก็จะตกลง บุคลากรการแพทย์ที่ใช้หน้ากากเหล่านี้คือผู้ที่ผ่านการอบรมมาแล้ว การสวมใส่หน้ากากผ้ายังจะปลอดภัยกว่าเมื่อเทียบกับการใส่แมสก์ FFP2 อย่างไม่ถูกต้องง