เฮ สภาผู้แทนฯ มติ 319 ต่อ 7 เสียง ปลดล็อก"กระท่อม" ประชาชนกินได้ไม่มีความผิด
สภาผู้แทนฯ 319 ต่อ 7 เสียง ปลดล็อกพืชกระท่อม มีผลบังคับใช้ 90 วันหลังประกาศในราชกิจจาฯ ประชาชนบริโภคกระท่อมได้ไม่มีความผิดตามกฎหมาย ไม่ต้องรับโทษ เป็นประโยชน์ต่อประชาชนที่ใช้ในชีวิตประจำวันตามวิถีดั้งเดิม ลดภาระงานงบประมาณของรัฐในการจับกุมและดำเนินคดี
เมื่อเวลา 10.30 น. ที่รัฐสภา มีการประชุมสภาผู้แทนราษฎร โดยมีนายศุภชัย โพธิ์สุ รองประธานสภา เป็นประธานในการประชุม เพื่อพิจารณา ร่าง พ.ร.บ.ยาเสพติดให้โทษ (ฉบับที่...)พ.ศ. ... ที่คณะกรรมาธิการวิสามัญพิจารณาเสร็จแล้ว นายสมศักดิ์ เทพสุทิน รมว.ยุติธรรม ในฐานะประธานกมธ. กล่าวรายงานว่า ตามที่ที่ประชุมสภาฯได้พิจารณารับหลักการณ์ ร่างพ.ร.บ.ยาเสพติดให้โทษ บัดนี้กมธ.ได้พิจารณาเสร็จแล้ว โดยสรุปได้ดังนี้ กมธ.ได้ใช้ ร่างพ.ร.บ.ยาเสพติดให้โทษ ที่เสนอโดยคณะรัฐมนตรีเป็นหลักในการพิจารณาและมีข้อสังเกตท้ายรายงานเพื่อให้สภาพิจารณาคือ
1.ร่างพ.ร.บ.ฉบับนี้มีความมุ่งหมายเพื่อยกเลิกพืชกระท่อมออกจากยาเสพติดให้โทษอีกต่อไป ประชาชนผู้บริโภคพืชกระท่อมจะบริโภคได้โดยไม่มีความผิดและไม่ต้องรับโทษตามกฎหมาย เว้นแต่จะนำไปผสมสารเสพติดชนิดอื่น จะทำให้ผู้บริโภคจะมีความรู้สึกที่ดีได้รับการยอมรับจากสังคมว่าไม่ใช่ผู้ติดยาเสพติด
2. ร่างพ.ร.บ.ฉบับนี้ จะบังคับใช้ภายใน 90วันหลังจากประกาศในราชกิจจานุเบกษา ซึ่งกมธ.แก้ไขให้เหมาะสมจากเดิมที่กำหนดไว้ 180 วัน โดยการยกเลิกโทษพืชกระท่อมจะเป็นประโยชน์ต่อประชาชนที่ใช้ในชีวิตประจำวัน
ตามวิถีดั้งเดิม ลดภาระงานงบประมาณของรัฐในการจับกุมและดำเนินคดี รวมทั้งเป็นประโยชน์ต่อการส่งเสริมพืชกระท่อมเป็นพืชเศรษฐกิจของประเทศ
เพราะพืชกระท่อมคือสมุนไพรที่มีความหลากหลายทางชีวะภาพ มีศักยภาพที่ควรนำไปใช้ประโยชน์ให้เกิดกับประเทศโดยเฉพาะเกษตรกร จึงควรผลักดันร่างพ.ร.บ.ฉบับนี้มีผลโดยเร็ว
นายสมศักดิ์ กล่าวอีกว่า 3. เมื่อ ร่างพ.ร.บ.ประกาศใช้ในราชกิจจานุเบกษาแล้ว ประชาชนผู้นิยมบริโภคพืชกระท่อมอาจะเข้าผิด ว่ากฎหมายมีผลบังคับใช้ภายใน 90 วันอาจเกิดการใช้พืทชกระท่อมอย่างเสรีทันทีและอาจถูกจับกุมในช่วงที่กฎหมายยังไม่มีผล หน่วยงานที่เกี่ยวข้องต้องประชาสัมพันธ์ให้ประชาชนรับทราบ
4.ระยะเวลาใช้บังคับของร่างพ.ร.บ.ฉบับนี้ เพื่อให้มีการร่าง พ.ร.บ.พืชกระท่อม ขึ้นมาอีกฉบับหนึ่งเพื่อให้มีมาตรการควบคุมการใช้พืชกระท่อม หลังจากยกเลิกพืชกระท่อมออกจากบัญชียาเสพติดแล้ว โดยร่างพ.ร.บ.พืชกระท่อม กมธ.เห็นว่าไม่ควรมีข้อจำกัด เหมือนที่กำหนดไว้ใน พ.ร.บ.ยาเสพติดให้โทษ พ.ศ. 2522
เพราะพืชกระท่อมเป็นยาสมุนไพรที่มีศักยภาพทางเศรษฐกิจ แต่กำหนดไม่ให้เกิดการใช้ในเด็กแล้วเยาวชน และการปลูกที่มีความเท่าเทียมกัน เป็นต้น ส่งเสริมด้านการแปรรูปให้เกิดประโยชน์ ผลิตยาสมุนไพรแก้โรคต่างๆ ให้เป็นธุรกิจที่ส่งออกได้ทั่วโลก เพื่อเป็นประโยชน์ต่อประชาชนและประเทศชาติ
ต่อมาเป็นการอภิปรายของสมาชิกอย่างกว้างขวาง โดยเฉพาะมาตรา 2 ประเด็นการกำหนดเวลาบังคับใช้กฎหมายภายหลังการประกาศในราชกิจจานุเบกษา 90 วัน โดยมีสมาชิกบางส่วนอยากให้กฎหมายมีผลบังคับใช้ในทันที
โดยนายสมศักดิ์ได้ชี้แจงว่า การกำหนดระยะเวลา 90 เพื่อให้เวลากับการร่าง พ.ร.บ.พืชกระท่อม ที่เป็นกฎหมายรองในการควบคุมการใช้พืชกระท่อม ไม่ให้เด็กและเยาวชนเข้าถึงรวมถึงไม่นำไปใช้ผิดประเภทหรือนำไปผสมกับยาเสพติดชนิดอื่น
ซึ่งที่ประชุมเห็นด้วยกับการแก้ไขของ กมธ. ให้กฎหมายฉบับนี้มีผลบังคับใช้ 90 วันหลังประกาศในราชกิจจานุเบกษาด้วยคะแนน 326 ต่อ 5 เสียง
จากนั้นที่ประชุมได้ลงมติเห็นชอบกับร่างพ.ร.บ.ยาเสพติดให้โทษ (ฉบับที่...)พ.ศ.... ด้วยคะแนน 319 ต่อ 7 เสียง และดำเนินตามกระบวนการเพื่อออกเป็นกฎหมายต่อไป