"ศรีสุวรรณ" ร้องผู้ตรวจการแผ่นดินสั่งรัฐ "นิรโทษกรรม" เบี้ยยังชีพผู้สูงอายุ
"ศรีสุวรรณ" ร้องผู้ตรวจการแผ่นดินสั่งรัฐ "นิรโทษกรรม" เบี้ยยังชีพผู้สูงอายุ
28 ม.ค.64 เวลา 10.00 น.ที่สำนักงานผู้ตรวจการแผ่นดิน นายศรีสุวรรณ จรรยา เลขาธิการสมาคมองค์การพิทักษ์รัฐธรรมนูญไทย ได้เดินทางมายื่นคำร้องต่อผู้ตรวจการแผ่นดิน ทั้งนี้สืบเนื่องจากการที่กรมบัญชีกลาง กระทรวงการคลัง ได้มีหนังสือแจ้งให้องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นหลายจังหวัด เรียกคืนเงินเบี้ยยังชีพผู้สูงอายุ เนื่องจากได้รับเงินบำนาญพิเศษตามเกณฑ์ที่กฎหมายกำหนดไว้แล้ว ทำให้ผู้สูงอายุที่ถูกเรียกคืนเงินดังกล่าวเดือดร้อนกันทั่วประเทศซึ่งปัจจุบันมีมากกว่า 15,000 รายนั้น
เนื่องจากหลักเกณฑ์ตามระเบียบกระทรวงมหาดไทย ว่าด้วยหลักเกณฑ์การจ่ายเงินเบี้ยยังชีพผู้สูงอายุขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น พ.ศ.2552 และที่แก้ไขเพิ่มเติม (ฉบับที่ 3) พ.ศ.2561 ได้กำหนดคุณสมบัติของผู้มีสิทธิจะได้รับเงินเบี้ยยังชีพผู้สูงอายุ ว่าจะต้องไม่เป็นผู้ได้รับเงินบํานาญ เบี้ยหวัด บํานาญพิเศษ หรือเงินอื่นใดในลักษณะเดียวกันด้วยนั่นเอง แต่ทว่า เมื่อฟังเสียงจากผู้สูงอายุต่างๆ เหล่านั้นแล้วจะพบว่า ต่างได้รับเงินเบี้ยผู้สูงอายุไว้โดยสุจริต และหากผู้สูงอายุเหล่านั้นรับเงินไว้โดยสุจริตและได้นำไปใช้จ่ายหมดแล้วก่อนที่จะถูกเรียกคืน คุณยายหล่านั้นไม่ต้องคืนเงินดังกล่าวก็ได้ ตาม ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ ม.412 (เทียบเคียงคำพิพากษาศาลฎีกาที่ 10850/2559)
กรณีที่เกิดขึ้นนี้ต้องถือเป็นความบกพร่องในการตรวจสอบตรวจทาน เป็นการดำเนินการที่ไม่ถูกต้องตามกฎหมายและระเบียบที่เกี่ยวข้องของพนักงานเจ้าหน้าที่ของรัฐที่เกี่ยวข้องทั้งหมด จึงต้องไปไล่เบี้ยกับเจ้าหน้าที่ผู้ปฏิบัติงานตามกฎหมายที่เกี่ยวข้องจึงจะชอบ การที่กรมบัญชีกลางทำหนังสือให้องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นต่างๆ ไปไล่เบี้ยเรียกคืนเงินจากผู้สูงอายุ จึงเป็นการใช้อำนาจโดยมิชอบด้วยกฎหมาย
ด้วยเหตุดังกล่าว สมาคมองค์การพิทักษ์รัฐธรรมนูญไทย จึงจะนำความไปร้องเรียนต่อผู้ตรวจการแผ่นดิน เพื่อดำเนินการ ดังนี้
1)เสนอแนะไปยังกระทรวงมหาดไทย ให้มีการออกประกาศแก้ไขระเบียบกระทรวงมหาดไทย ว่าด้วยหลักเกณฑ์การจ่ายเงินเบี้ยยังชีพผู้สูงอายุขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น 2552 และที่แก้ไขเพิ่มเติม (ฉบับที่ 3) พ.ศ.2561 โดยให้ยกเลิกความในข้อ 6(4) ทั้งหมดของระเบียบฯเังกล่าวเสีย
2)เสนอแนะไปยังกระทรวงการคลัง โดยกรมบัญชีกลางระงับการเรียกคืนเงินเบี้ยยังชีพผู้สูงอายุทั่วประเทศที่ดำเนินการไปโดยมิชอบด้วยกฎหมายดังกล่าวเสีย
3)เสนอแนะไปยังรัฐบาล ให้ถือเป็นนโยบายสำคัญในการเร่งออกกฎหมายนิรโทษกรรมให้กับผู้สูงอายุต่าง ๆ ทั่วประเทศที่ได้รับเบี้ยบำนาญพิเศษต่าง ๆ ที่ผิดพลาดมาก่อนหน้านี้ เพื่อเป็นขวัญและกำลังใจให้กับผู้สูงอายุหรือผู้พิการที่สูงอายุทั่วประเทศ รวมทั้งเครือญาติที่กำลังปริวิตกกับการเผชิญกรณีปัญหาดังกล่าวโดยพลันต่อไปด้วย นายศรีสุวรรณ กล่าวในที่สุด