ข่าว

นายกฯวอนเผยไทม์ไลน์ หวั่นซ้ำรอย ดีเจมะตูม

นายกฯ ขออย่าปกปิดไทม์ไลน์ตัวเอง หลังพบมีจัดปาร์ตี้ คล้าย กรณีดีเจมะตูม บอกทุกคนรู้อยู่แก่ใจ แต่ยังฝ่าฝืน ลั่น งานนี้ไม่มีพระเอก ขอคนไทยยกการ์ดสูง ยัน รับฟังทุกภาคส่วน ไม่ต้องการแบ่งแยกคนไทย เตือน คนที่คิดให้หยุดทำ

วันที่ 29 มกราคม 2564 พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทนวงกลาโหม กล่าวภายหลังการประชุมศูนย์บริหารสถานการณ์โควิด - 19 ว่า สถานการณ์การแพร่ระบาดในระลอกใหม่เป็นที่กังวลของทุกภาคส่วน จึงจำเป็นต้องมีการปรับมาตรการอย่างต่อเนื่อง ทั้งสกัดกั้น ควบคุมการแพร่ระบาด การรักษา การจัดตั้งรพ.สนาม ก็อยู่ในเกณฑ์ที่รับได้ และควบคุมได้ในปัจจุบัน

ส่วนใหญ่การพบผู้ติดเขื้อเกิดจากการตรวจค้นเชิงรุก และนำเข้าสู่ระบบควบคุมและรักษา ซึ่งมีการประเมินสถานการณ์อย่างใกล้ชิด ซึ่งวางมาตรการเดือนต่อเดือน หรือเร็วกว่านั้นหากมาตรการที่ออกมาไม่ได้ผล ในส่วนการเข้มงวดกวดขัน การลักลอบเล่นการพนันมีการติดตามจับกุมดำเนินคดีจำนวนมาก เกิดจากความร่วมมือร่วมกัน

ส่วนกรณีที่สหภาพยุโรปจำกัดการส่งออกวัคซีนออกนอกพื้นที่ นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า มีการพูดคุยการจัดหา และขณะนี้ได้ยืนยันในวัคซีนที่ได้จัดซื้อไปแล้ว แต่ต้องดูประเทศต้นทาง ซึ่งเป็นเจ้าของลิขสิทธิ์ก่อน โดยที่ผ่านมามีการเจรจากันอย่างต่อเนื่อง โดยคาดว่าน่าจะได้รับวัคซีนตามกำหนดระยะเวลา ตามลำดับการจัดซื้อ เนื่องจากไม่ใช่เพียงการสั่งซื้อจากไทยประเทศเดียว ส่วนการนำเทคโนโลยีเข้ามาจากต่างประเทศ แม้ว่าจะมาผลิตในประเทศไทย ในวันข้างหน้าอาจมีการเพิ่มการผลิตหากมีวัคซีนตัวอื่น พร้อมยืนยันว่าทุกคนมีสิทธิ์ในการเข้าถึงวัคซีน นอกจากนี้รัฐบาลยังเตรียมสนับสนุน บริษัทอื่นๆในการผลิตวัคซีนอื่นๆที่ไม่ใช่เพียงวัคซีนโควิด

ทั้งนี้นายกรัฐมนตรี ย้ำว่า สิ่งสำคัญที่สุดคือการปฏิบัติตามมาตรการอย่างเคร่งครัด ตั้งการ์ดไว้สูง แม้ว่าจะมีการฉีดวัคซีนแล้วก็ตาม ยังคงต้องระวีงเหมือนเดิม แต่การฉีดวัคซีนเป็นเพียงการเพิ่มภูมิคุ้มกันตามมาตรฐานสาธารณสุข นอกจากนี้หน่วยงานด้านความมั่นคง กระทรวงสาธารณสุข กระทรวงมหาดไทย และกระทรวงแรงงาน ได้บูรณาการร่วมกันในพื้นที่แพร่ระบาดโดยเฉพาะสมุทรสาคร ซึ่งในวันนี้มีการผ่อนคลายมาตรการไปแล้วเพิ่มมากขึ้น ซึ่งจะออกมาเป็นมาตรการเฉพาะที่ทุกคนต้องปฏิบัติตาม หากไม่ปฏิบัติตามจะต้องปิดเฉพาะรายหรือเฉพาะแห่งไป โดยเน้นย้ำหน่วยงานที่เกี่ยวข้องไปแล้วในดำเนินการตรวจสอบ เพิ่มสายตรวจจากทั้งตำรวจและทหาร

ส่วนการเปิดการเรียนการสอนนั้น ได้มอบให้กระทรวงศึกษาธิการได้พิจารณาแก้ไขปัญหา โดยจะเร่งดำเนินการให้ทั่วถึงที่สุด แต่ต้องขึ้นอยู่กับโรงเรียนหรือศึกษาธิการจังหวัด จะมีการจัดการเรียนการสอนแบบใด อย่างวันเว้นวัน และเสริมการสอนออนไลน์ ช่วงนี้ผู้ปกครองอาจเหนื่อยหน่อยแต่ต้องอาศัยความร่วมมือร่วมกัน

 ส่วนสถานการณ์ในพื้นที่จังหวัดสมุทรสาคร ได้มีการปรับระดับต่างๆเป็น 4 ระดับตามความเสี่ยง แต่พื้นที่ควบคุมเข้มขึ้นสูงสุดยังคงเป็นพื้นที่จังหวัดสมุทรสาคร และกทม.บางพื้นที่ที่มีเขตติดต่อ ตนเชื่อว่าหากทุกคนเคารพมาตรการก็สามารถคลี่คลายได้โดยเร็ว ซึ่งการประชุมในวันนี้คือการพิจารณาผ่อนคลายมาตรการ เพื่อให้เกิดการผ่อนคลายกิจการ ทำให้เกิดความเป็นปกติของประชาชนให้ได้มากที่สุด แต่จะทนต้องระมัดระวังตัวเอง

สิ่งสำคัญคืออย่าปกปิดข้อมูล และเฝ้าระวังการเข้าไปในที่เสี่ยง การดื่มสุราก็ต้องระมัดระวังตัวเองให้มาก และต้องเป็นห่วงคนอื่นด้วยเช่นเดียวกัน ที่นอกจากจะต้องรักตัวเองรักครอบครัวแต่ต้องรักคนอื่นด้วย เรื่องนี้เป็นเรื่องความรับผิดชอบของทุกคน และต้องขอขอบคุณประชาชนทุกคนในช่วงที่ผ่านมาที่ร่วมมือกัน

นายกรัฐมนตรี ระบุอีกว่า “งานนี้ไม่มีพระเอก เพราะถ้ามีพระเอกก็จะต้องมีผู้ร้าย” ดังนั้นพระเอกคือคนทั้งประเทศที่จะร่วมกันแก้ปัญหา พร้อมยังขอสื่อให้พูดในสิ่งที่สร้างสรรค์ อย่าขยายความขัดแย้ง แม้ว่าจะไม่มีคนเห็นด้วยทั้งหมด แต่ต้องเอาสิ่งที่คนไม่เข้าใจมาอธิบายว่าอะไรคือปัญหาและอะไรที่จะต้องร่วมมือกัน ซึ่งตนยินดีรับฟังทุกฝ่าย เพราะไม่ได้เป็นศัตรูกับใคร โดยรัฐบาลต้องฟังทุกภาคส่วน ไม่ต้องการแบ่งแยกคนไทยเป็น 2 ฝ่าย เพราะฉะนั้นคนที่กำลังทำเรื่องนี้อยู่ก็ขอให้หยุด ซึ่งตนก็ขอเตือนไว้เท่านี้

ส่วนกรณีที่มีการเผยภ​าพการจัดปาร์ตี้คล้ายกับกรณีของดีเจ มะตูม ที่มีการวิพากษ์​วิจารณ์​ในขณะนี้ นายกรัฐมนตรี​ กล่าวว่า ขอให้ทุกอย่างเป็นไปตามกฎหมาย​ ที่อย่างน้อยสังคมจะต้องเตือน เพราะทำให้คนอื่นเดือดร้อน ซึ่งเชื่อว่ามี อีกหลายแห่งไม่ใช่ที่นี่ที่เดียว และอาจจะมีรายอื่นที่ยังไม่พบก็ได้ จึงไม่ควรไปในพื้นที่เสี่ยงหรือทำกิจกรรมที่ทำให้เกิดการแพร่ระบาด ซึ่งทุกคนรู้อยู่แก่ใจ รู้ว่าตัวเองเดินทางไปไหนมาไหนทำอะไรบ้าง หรือไปทำอะไรที่ทำให้เกิดการแพร่ระบาด​หรือไม่ ทั้งที่มีมาตรการแต่ก็ยังคงมีการฝ่าฝืนกันอยู่ ซึ่งต้องพิจารณาว่าจะมีการดำเนินการอย่างไรต่อไป โดยนายอนุทิน ชาญวีรกุล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข ได้ออกมาอธิบายไปก่อนหน้านี้แล้ว และตนก็ไม่อยากให้เกิดความขัดแย้ง