ข่าว

"ทิพานันท์" แนะ "ช่อ" อย่าปะติดปะต่อบิดเบือน ปม EU หยุดเทียบเคียงมั่วเข้าข้าง "ธนาธร"

"ทิพานันท์" แนะ "ช่อ" อย่าปะติดปะต่อบิดเบือน ปม EU หยุดเทียบเคียงมั่วเข้าข้าง "ธนาธร"

01 ก.พ. 2564

"ทิพานัน" แนะ "ช่อ" อย่าปะติดปะต่อบิดเบือน ปม EU ขัดแย้งแอสตราฯ เหตุส่งมอบล่าช้า ไม่เกี่ยวเรียกร้องตรวจสอบ หยุดเทียบเคียงมั่วเข้าข้าง "ธนาธร" ย้ำคำสั่งศาลให้ระงับการเผยแพร่ เพราะมีเนื้อหาเข้าข่ายผิดกฎหมาย


1 กุมภาพันธ์  2564 น.ส.ทิพานัน ศิริชนะ อดีตผู้สมัคร ส.ส.กทม.เขตจอมทอง-ธนบุรี อดีตรองโฆษกพรรคพลังประชารัฐ กล่าวถึงกรณีที่ศาลอาญามีคำสั่งให้ระงับการเผยแพร่เว็บไซต์ที่นายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ ประธานคณะก้าวหน้า ไลฟ์สดเกี่ยวกับวัคซีนป้องกันโควิด เพราะมีเนื้อหาอันเข้าข่ายเป็นความผิดเกี่ยวกับความมั่นคงในราชอาณาจักรตามมาตรา 14(3) พ.ร.บ.ว่าด้วยการกระทำความผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ โดยต่อมา น.ส.พรรณิการ์ วานิช และคณะก้าวหน้าแสดงความคิดเห็นตอบโต้นั้น เห็นว่า น.ส.พรรณิการ์และคณะก้าวหน้าพยายามอ้างสิทธิ เสรีภาพ และผูกขาดการใช้กฎหมายแต่เฉพาะประโยชน์ของตนเอง เหมือนไม่ใช้หลักการแต่ใช้เพียงหลักกู สิ่งที่ตนเองทำนั้นถูกหมด ตีความกฎหมายเข้าข้างตนเอง 

 


น.ส. ทิพานัน กล่าวว่า จากประเด็นดังกล่าว น.ส.พรรณิการ์ ไม่ควรเอาประเด็นของ EU มากล่าวอ้างสนับสนุนการกระทำของคณะก้าวหน้าว่ามีสิทธิทำได้ เพราะเป็นประเด็นที่แตกต่างกันอย่างสิ้นเชิง เทียบเคียงไม่ได้ ซึ่งสาเหตุหลักคือ EU ขัดแย้งเรื่องการได้รับวัคซีนล่าช้า ไม่เป็นไปตามกำหนด โดยทางแอสตราฯ ได้ออกมาชี้แจงว่าความล่าช้าเกิดจากปัญหาการผลิตที่โรงงาน 2 แห่งในยุโรป (เบลเยี่ยมและเนเธอแลนด์) และตามข้อตกลงนั้นการจัดส่งอยู่ภายใต้เงื่อนไขพยายามดำเนินการตามหลักสมเหตุสมผลอย่างถึงที่สุด (best reasonable efforts) ที่จะจัดส่งวัคซีนได้ตามความต้องการของ EU โดยไม่ได้กำหนดตารางเวลาส่งมอบแน่นอนตายตัว ซึ่งทาง EU มีความเห็นแย้งจึงได้เปิดเผยสัญญาจัดซื้อที่เป็นความลับ


" และจะเห็นได้ว่า ในสัญญามีข้อตกลงข้อที่ 16 กำหนดไว้เกี่ยวกับการรักษาความลับ EU จึงเผยแพร่สัญญาเพื่อสนับสนุนข้อขัดแย้งเรื่องความล่าช้า โดยได้ทำเครื่องหมายปกปิดข้อความบางส่วนในสัญญาไว้ถึง 24 หน้า (จากทั้งหมด 42 หน้า) อาทิเช่น ข้อมูลเกี่ยวกับ ราคา วิธีการปรับขึ้นราคา กำหนดวันส่งมอบ การให้ทุนสนับสนุนต่างๆ (funding) ลิขสิทธิ์ ซึ่งทั้งหมดไม่ได้เกิดจากประเด็นต้องการตรวจสอบหรือเรียกร้องความโปร่งใสของรัฐบาล EU ตามที่ น.ส. พรรณิการ์เข้าใจผิดและเอามาปะติดปะต่อ แบบขาดๆหายๆ คล้ายอ่านไม่แตกแล้วนำไปบิดเบือน" น.ส. ทิพานัน กล่าว 


ส่วนที่ น.ส.พรรณิการ์และคณะก้าวหน้ากล่าวหาว่าถูกกฎหมายปิดปากในการแสดงความคิดเห็น ตั้งคำถามเพื่อตรวจสอบการทำงานของรัฐนั้น อยากให้ น.ส.พรรณิการ์ย้อนดูตนเองบ้างว่า เคยใช้กฎหมายฟ้องคดีเพื่อปิดปากประชาชนที่ใช้สิทธิโดยสุจริตในการตรวจสอบความโปร่งใสของการใช้เงินโครงการ MaydayMayday มาแล้วหรือไม่ ในตอนนั้น น.ส.พรรณิการ์ถึงขั้นเรียกร้องให้ประชาชนทำการลบข้อความ ให้หยุดเผยแพร่ โดยที่ น.ส.พรรณิการ์ ยังไม่ได้ฟ้องศาลและได้รับคำสั่งศาลเลยด้วยซ้ำ แต่กลับออกคำสั่งเหมือนเป็นศาลเตี้ย ทำไมถึงใช้กฎหมายแบบเข้าข้างตนเองฝ่ายเดียวและผูกขาดการใช้กฎหมายเฉพาะกรณีของตัวเองเท่านั้น

 

ส่วนประเด็นเรื่องการใช้สิทธิเสรีภาพในการแสดงความเห็นของนายธนาธรเกี่ยวกับวัคซีนนั้น ในเบื้องต้นศาลได้พิจารณาจากคำฟ้องและหลักฐานเห็นว่ามีเนื้อหาเข้าข่ายเป็นความผิดเกี่ยวกับความมั่นคงในราชอาณาจักร ฝ่าฝืนกฎหมายแล้ว จึงขอให้ยุติการเผยแพร่ และแสดงให้เห็นว่าการใช้สิทธิของนายธนาธรไม่ใช่เป็นการใช้สิทธิโดยสุจริตในการตั้งคำถามเรื่องเพื่อตรวจสอบการทำงานของรัฐ ไม่ได้เป็นการใช้กฎหมายมาปิดปากแต่เป็นเพราะการใช้ "สิทธิที่เกินส่วน" ของนายธนาธรทำให้ผู้อื่นเสียหาย เป็นการกระทำที่เข้าข่ายละเมิดผู้อื่น ขอให้ น.ส.พรรณิการ์ทำความเข้าใจและฝึกจิตเคารพคำสั่งศาลบ้าง น.ส.ทิพานัน กล่าว