"นิวัติไชย" ย้ำมติ ป.ป.ช.ฟัน "เอ๋ ปารีณา" เพราะสถานะรู้ข้อกม.แต่ไม่ปฏิบัติ | คมชัดลึก

11 ก.พ.64 นายนิวัติไชย เกษมมงคล รองเลขาธิการคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ หรือ ป.ป.ช. กล่าวกับ “เนชั่นทีวี” ถึงกระบวนการต่อจากนี้ หลัง ป.ป.ช.มีมติให้ น.ส.ปารีณา ไกรคุปต์ ส.ส.ราชบุรี พลังประชารัฐ ผิดมาตรฐานจริยธรรมร้ายแรง กรณีครอบครองพื้นที่ป่า ว่า รัฐธรรมนูญ 2560 ได้กำหนดเกี่ยวกับเรื่องจริยธรรม ซึ่งตอนร่างได้มีการเชิญประธานศาลรัฐธรรมนูญ และองค์กรอิสระ ร่วมดำเนินการ จนประกาศในวันที่ 1 พ.ย. 2561

อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง :
"ปารีณา" เคลื่อนไหวหลัง ป.ป.ช.ฟันคดีรุกป่า ลั่นขอพูดครั้งเดียว-ไม่ให้สัมภาษณ์อีก

ทั้งนี้ ประเด็นดังกล่าวได้มีผู้เรียน น.ส.ปารีณา ว่าเข้าไปยึดครองที่ดิน จำนวน 800 ไร่ ซึ่งเดิมที่ดินนี้เป็นป่า ประกอบกับคณะรัฐมนตรี ได้มีข้อกำหนดให้นำพื้นที่ป่าไปกระจายเป็น สปก. ให้ประชาชน โดยมีคุณสมบัติต้องเป็นเกษตรกร และถือครองได้ไม่เกิน 50 ไร่ แต่การไต่สวนการครอบครอง ซึ่งทางส.ส.ราชบุรี รายนี้อาจไม่ใช่เกษตรกรยากไร้ เพราะเป็นส.ส. ตั้งแต่วันที่ 25 พ.ค. 2562

นายนิวัติไชย ระบุว่า เมื่อมีการร้องทุกข์กล่าวโทษแล้ว จึงได้มีการพิจารณา โดยน.ส.ปารีณา เป็นผู้แทนราษฎร เกี่ยวข้องกับการยกร่างกฎหมาย และต้องยึดหลักกฎหมาย ซึ่งอยู่ในสถานะอีกแบบ ดังนั้น การเข้าไปถือครองโดยไม่แจ้ง เท่ากับปิดโอกาสประชาชน ไม่คำนึงถึงหลักเกณฑ์ สร้างความเสียหายต่อทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม รวมถึงอาจขัดแย้งกับผลประโยชน์ส่วนตัวและส่วนร่วม จึงมีมติเป็นการกระทำผิดร้ายแรง

อย่างไรก็ตาม เมื่อเสนอเสนอเรื่องไปยังศาลฎีกาแล้ว ตามรัฐธรรมนูญมาตรา 255 กำหนด หากศาลรับฟ้องต้องหยุดปฏิบัติหน้าที่ เว้นแต่จะมีคำสั่งเป็นอย่างอื่น แต่ข้อกฎหมายต้องหยุดทันที และหากศาลตัดสินตามที่ ป.ป.ช. ยื่นไป ก็ให้มีผลตั้งแต่ประทับรับฟ้อง และห้ามดำรงตำแหน่งทางการเมืองตลอดชีวิต รวมถึงเพิกถอนสิทธิเลือกตั้ง 10 ปี

รองเลขาธิการ ป.ป.ช. ยืนยันว่า ตลอดกระบวนการไต่สวน เปิดโอกาสให้น.ส.ปารีณา มาชี้แจงตลอด แต่ไม่ได้มีรายละเอียดข้อเท็จจริงอะไร แต่จะไปต่อสู้ในชั้นศาล ซึ่งเป็นสิทธิทำได้ ส่วนศาลจะกลับคำวินิจฉัยหรือไม่นั้น เดิมกำหนดให้วุฒิสภาเป็นผู้ถอดถอน แต่กฎหมายใหม่เสนอไปศาล และกรณีนี้ถือเป็นเคสแรก จึงไม่อยากทราบกระบวนการแต่จะยึดสำนวนป.ป.ช.เป็นหลัก แต่ทั้งหมดอยู่ที่ดุลยพินิจของศาล อย่างไรก็ดี ยังมีเรื่องลักษณะนี้ใน ป.ป.ช. ที่ถือครอบครองทรัพย์สินทั้ง ส.ส.และส.ว. อีก 10 กว่าราย โดยอยู่ระหว่างดำเนินการ

ขณะที่ นายวิรัช รัตนเศรษฐ ส.ส.บัญชีรายชื่อ และรองหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ กล่าวด้วยว่า ถือไม่ให้ความเป็นธรรมกับ น.ส.ปารีณา เพราะดำเนินคดีต่อ น.ส.ปารีณา เพียงคนเดียว ทั้งที่คนอื่นซึ่งมีเรื่องลักษณะเดียวกัน

กลับยังไม่มีผลออกมา ต้องทำเรื่องนี้ให้เกิดความชัดเจน และส่วนตัวไม่ได้กล่าวหา แต่มาตรฐานของพนักงานสอบสวนของ ป.ป.ช. มีสูงแค่ไหน เมื่อเทียบกับหน่วยงานอื่นของกระบวนการยุติธรรม 

นายวิรัช ยกตัวอย่าง คดีตนในเรื่องทุจริตสนามฟุตซอล ซึ่งเห็นวิธีการสอบสวน เป็นการกล่าวหา แล้วไต่สวน ทั้งที่ความจริงไม่มีอะไร อย่างไรก็ตาม ตนได้ฟ้องป.ป.ช. และศาลก็รับเรื่องไว้แล้ว วันนี้ไปได้แค่ไหนก็จะเดินไป สุดท้ายก็จะสู้เต็ม 100 เพราะมั่นใจว่าไม่ผิด