นายกฯขอบคุณสภาอภิปรายไม่ไว้วางใจ รับคำแนะนำไปแก้ไข
นายกรัฐมนตรีขอบคุณสภาอภิปรายไม่ไว้วางใจ รับ คำแนะนำ ไปปรับแก้ไข ส่วนข้อกล่าวหาการทุจริต ให้เป็นไปตามกระบวนการยุติธรรม รับมีสมองไม่น้อยกว่าส.ส. ขอโทษพูดพรวดเซลล์สมองผิด ยัน ไม่มีเพิ่มวันทวีคูณให้ทหารปฏิบัติงานตามพ.ร.ก.ฉุกเฉิน
พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมชี้แจงถึงข้อกล่าวหาของฝ่ายค้านที่กล่าวถึงข้าราชการที่ปฏิบัติงานตามพ.ร.ก.ฉุกเฉิน ทหารจะได้วันทวีคูณ ว่า ไม่ได้ เพราะไม่ได้ปฏิบัติหน้าที่ตามคำสั่งของกระทรวงกลาโหม แต่ทำหน้าที่ในนามของรัฐบาล ในคำสั่งของนายกรัฐมนตรี
ส่วนกรณีกสทช.ยังอยู่ในกระบวนการทั้งสิ้น และส่งให้ป.ป.ช.ทราบแล้วเพื่อพิจารณาส่วนของการคัดสรรยังอยู่ในขั้นตอน และรอ พ.ร.บ.กศปช ใหม่เพื่อที่จะปฏิบัติต่อไป
ส่วนการขุดลอกแหล่งน้ำ ในโครงการเล็กๆต่างๆ ที่มีข้อมูลว่าทุจริตตนยืนยันว่า จะให้ดำเนินการตรวจสอบโดยเร็วที่สุด ทุกโครงการหากพบทุจริตก็จะลงโทษตามกฎหมาย
ด้านราคาสินค้าได้ปรึกษา นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ ไปพิจารณาว่าจะดำเนินการอย่างไร เพราะทุกอย่างมีกฎกติกาอยู่ ตนก็เป็นห่วงประชาชน
ส่วนค่าใช้จ่ายและรายได้ของประเทศ ที่สมาชิกบางท่านเป็นห่วง ได้มีการเตรียมการไว้ว่าหากแผนงานโครงการ และงบประมาณที่ได้รับมาในปี 2564 หากไม่สามารถจัดหามาชดเชยได้ หรืองบที่เตรียมไว้ไม่เพียงพอ จะพิจารณาตัดโครงการต่างๆ ที่ไม่สำคัญออกอีกระยะหนึ่ง จึงเป็นการบริหารการเงินการคลังของรัฐบาล ถ้าไม่ได้ก็คือไม่ได้ เราจะยืนยันใช้โครงการมากเท่าเดิมไม่ได้
ส่วนที่สมาชิกนำ GDP คนรวยและคนจนมากล่าว นายกรัฐมนตรีย้ำว่าแยกอย่างนั้นไม่ได้ GDP มีอยู่อย่างเดียว เพื่อเป็นข้อมูลในการวิเคราะห์ หาหนทางปฏิบัติที่เหมาะสมต่อไปเพราะเป็นเรื่องของคนทั้งประเทศ ไม่มีที่ไหนเขาทำกันแบบนั้น ที่มาวิเคราะห์กันเอง และที่สมาชิกนำข้อมูลมาเสนอ แต่ตนยืนยันว่า ที่ฝ่ายค้านเสนอมานั้นรัฐบาลมีข้อมูลทั้งหมด
ทั้งนี้นายกรัฐมนตรี กล่าวขอโทษ ที่ตนเคยกล่าวว่า สมองมี 84,000 เซลล์ ตนพูดตกไป พูดพรวดๆรีบๆต้องขอโทษ ที่จริงมีประมาณ 84,000 - 100,000 ล้านเซลล์ ตนก็คงมีสมองไม่น้อยไปกว่าท่าน ตนพูดผิดบ้างต้องขออภัย
ส่วนภาพรวมเศรษฐกิจ ตนเข้าใจความห่วงใยของสมาชิกในสภาฯนี้ดี โดยเฉพาะวิกฤตเศรษฐกิจโควิดขณะนี้ที่จะยังคงอยู่กับเราไปในระยะหนึ่ง ตนนึกถึงประชาชนทุกวัน เป็นห่วง มาตรการต่างๆจะทยอยออกมาตามลำดับ ไม่อยากให้เข้าใจผิดว่าตนดูแลเฉพาะเจ้าสัว เพราะในผู้ประกอบการ ผู้ที่ได้รับประโยชน์คือลูกจ้างพนักงานด้วย เพราะไม่ถูกลดการจ้างงาน
ทั้งนี้นายกรัฐมนตรียังระบุอีกว่า อยากให้ทราบว่าก่อนที่ตนเข้ามาในปี 2557 GDP อยู่ที่ร้อยละ 1 มีวิกฤตในประเทศรอบด้าน ตัวเลขก็มีการเติบโตมาตามลำดับ จาก 3.1 ท่ามกลางสงครามการค้าระหว่างประเทศ ทุกประเทศประสบปัญหาไปพร้อมกัน และในปี 2562 เหลือเพียง 2.4 % ปี 2563 ติดลบ 6 % พร้อมกับย้ำว่าประเทศไทยไม่ได้ต่ำที่สุดในอาเซียน ที่ตนต้องย้อนไปในอดีตไม่อยากโทษใคร หรือว่าใคร แต่อยากให้ทราบว่าทุกคนต้องการมุ่งหวังให้ประเทศเดินหน้า แต่ต้องกลับมาดูข้างหลังเราด้วย ว่ามีความพร้อมอย่างไรเกิดอะไรขึ้นมาในอดีต
ทั้งนี้นายกรัฐมนตรียอมรับว่า บางโครงการที่ทำแล้วดีก็ยินดีจะสานต่อ นโยบายจากรัฐบาล แต่จะต้องพัฒนาให้ประชาชนได้รับประโยชน์มากขึ้น ผังโครงการหลักประกันสุขภาพ
ส่วนเรื่องค่าแรงขั้นต่ำ ยอมรับว่า เราขึ้นแบบก้าวกระโดดไปนิด แต่เมื่อทำไปแล้ว ก็ไม่เป็นไร ทำให้ต้นทุนทางการผลิตอุตสาหกรรมสูงทันทีในเวลาอันสั้น โรงงานปรับตัวไม่ทัน ดังนั้นอุตสาหกรรมที่มีการใช้แรงงานเข้มข้นก็จะย้ายฐานการผลิตไปยังต่างประเทศที่มีค่าแรงถูกกว่าไทย ทำให้ประเทศสูญเสียรายได้
ส่วนปัญหาการลักลอบนำแรงงานต่างด้าวเข้าประเทศนายกรัฐมนตรีกล่าวว่า เรื่องการทุจริตใครได้ประโยชน์เสียประโยชน์ ก็ให้ไปสอบสวนตามกระบวนการยุติธรรม
ส่วนเรื่องรถไฟฟ้าสายสีต่างๆ รถไฟรางคู่ และการบริหารแหล่งน้ำด้านการเกษตร นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า มีโครงการใหม่ๆเข้ามาแต่โครงการเดิมที่มีปัญหาก็จะแก้ไข ให้รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีที่เกี่ยวข้องรับไปตรวจสอบ เพื่อทำให้เกิดประโยชน์เพราะเป็นเงินของรัฐบาล เราจะขึ้นจะรีบไม่ได้ ใครที่รับโครงการก็จะต้องรับผิดชอบไปด้วย ส่วนเรื่องรถไฟฟ้าที่บอกว่าตนเองสร้างเป็นความจำเป็น ทุกอย่างอยู่ในแผนแม่บทของการก่อสร้างรถไฟฟ้าอยู่แล้ว ของคณะกรรมการขนส่ง เชื่อมโยงตะวันตก ตะวันออก เหนือ และใต้
โดยนายกรัฐมนตรียืนยันว่า เมื่อพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานพร้อม คนพร้อมรายงานพร้อม กฎกติกาสิทธิประโยชน์ที่เพียงพอต่างชาติก็จะเข้ามาลงทุน และยืนยันว่าตนไม่ต้องการให้เขา ครอบครองประเทศไทย หากตนยังดำรงตำแหน่ง จะดำรงฐานะในการสร้างสมดุลให้กับประเทศ ไม่ว่าฝ่ายใดก็ตาม แต่ก็ขึ้นอยู่กับว่าฝ่ายใด จะมาลงทุนก็เรื่องของเขา ยืนยันไม่ได้เชียร์ขอแน่นอน ในทุกๆเรื่อง เราอย่าเอาตัวเราไปขัดแย้งกับคนอื่นเขา ขณะนี้ระวังตัวเอง และสถานะของประเทศเราดีอยู่แล้วในเวทีต่างประเทศ
นายกรัฐมนตรี ระบุถึง กรณีการทุจริตโครงการเยียวยาต่างๆของรัฐบาล เรื่องของการทุจริตอย่างไรก็มีการทุจริต แต่ตรวจสอบได้แน่นอน วันนี้เข้าสู่กระบวนการดำเนินคดีแล้วหลายราย ก็คงไม่ใช่ใครหรอก คนฉลาดฉลาดนี่แหละ
โดยนายกรัฐมนตรีกล่าวทิ้งท้ายว่าขอบคุณนายชวน หลีกภัย ประธานรัฐสภา และสมาชิกผู้ทรงเกียรติทุกคน ก็ขอขอบคุณในคำแนะนำ และจะรับไป ปฏิบัติแก้ไข ในสิ่งที่เป็นประโยชน์ต่อประชาชน อะไรที่ไม่ชัดเจนทุจริต ก็จะเร่งดำเนินการแก้ไขสู่กระบวนการยุติธรรม