หดหู่ ญาตินอนเฝ้ารอริมทะเล "อดีตโต๊ะอิหม่าม" เรืออับปาง 6 วัน ยังไร้ชะตากรรม
หดหู่ ญาตินอนเฝ้ารอริมทะเล "อดีตโต๊ะอิหม่าม" เรืออับปาง 6 วันสูญหายกลางทะเล หลายฝ่ายระดมสัพพะกำลังทั้งทางอากาศ พื้นน้ำ และใต้น้ำ เร่งค้นหากว่า 500 ชีวิตอย่างต่อเนื่อง แต่ยังไร้วี่แวว
เมื่อเวลา 10.30 น. วันนี้ 23 ก.พ.64 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายขจรศักดิ์ เจริญโสภา ผวจ.ตรัง พร้อมด้วย นายณรงค์ หนูเนียม นายอำเภอหาดสำราญ และคณะหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เดินทางลงพื้นที่ บริเวณชายหาดแหลมตะเสะ หมู่ 4 ต.ตะเสะ อ.หาดสำราญ หลังจากที่ นายธนิต ชูเพ็ง หรือ สจ.เอียด ส.อบจ. อ.หาดสำราญ ได้เดินทางไปพบเพื่อขอช่วยให้ นายขจรศักดิ์ เจริญโสภา ผวจ.ตรัง ลงพื้นที่มาบัญชาการและสร้างขวัญกำลังใจให้กับบรรดาญาติพี่น้องของ นายเชิดชัย หูเขียว หรือบังถึก อายุ 55 ปี อยู่บ้านเลขที่ 122 บ้านทุ่งกอ หมู่ที่ 3 ต.บ้าหวี อ.หาดสำราญ จ.ตรัง อดีตโต๊ะอิหม่ามมัสยิดบ้านทุ่งกอ
หลังเกิดเหตุการณ์ที่เรือประมง หรือเรือพรีส ของนายเชิดชัย หรือบังถึก ซึ่งเป็นผู้สูญหาย ได้อับปางกลางทะเล บริเวณร่องน้ำลึกหัวหินใต้ ระหว่างเกาะจำปีใหญ่กับเกาะสุกร ต.เกาะสุกร อ.ปะเหลียน จ.ตรัง ห่างออกไปจากหัวแหลมตะเสะไปในทะเลประมาณ 2 กม.เมื่อช่วงเช้าวันที่ 18 ก.พ.64 ที่ผ่านมา
หลังจากเหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้น ได้มีการตั้งศูนย์อำนวยการเฉพาะกิจ เพื่อค้นหาผู้สุญหาย โดยมี หัวหน้าส่วนฝ่ายปกครองในท้องที่ และท้องถิ่น ได้ประสานงานเพื่อทำการค้นหา โดยมีหน่วยงานสนับสนุนรวมแล้วกว่า 500 ชีวิตสลับผลัดเปลี่ยนกันมา ทั้ง ชุดประดามน้ำหน่วยกู้ภัยภายใน จ.ตรัง นักบินพารามอเตอร์เอกชน ประมงพื้นบ้าน ศูนย์อำนวยการรักษาผลประโยชน์ของชาติทางทะเล (ศรชล) ศูนย์อนุรักษ์ทรัพยากรทางทะเลตรัง (สิเกา) ได้ทำการค้นหาร่างผู้สุญหายอย่างต่อเนื่องทั้ง 6 วันที่ผ่านมา ทั้งการค้นหาทางอากาศ บนผิวน้ำ และใต้น้ำ แต่ยังไม่พบร่าง และเรือของผู้สูญหาย
โดยเป็นภาพที่น่าหดหู่เมื่อพบบรรดาญาติๆของ ผู้สูญหาย เกือบ 100 ชีวิต ได้นอนเฝ้ารออย่างมีความหวัง อยู่ภายในศาลาริมชายหาดมาเป็นระยะเวลากว่า 6 วันแล้ว ตั้งแต่วันแรกที่สูญหาย โดยส่วนใหญ่ได้อาศัยและกินอยู่กันภายในศาลาดังกล่าว และเพื่อเป็นกำลังใจให้กับเจ้าหน้าที่ที่ปฎิบัติหน้าที่อย่างต่อเนื่องทุกนาย บางรายยังอยู่ในอาการร้องไห้ โศกเศร้าเสียใจ ขณะเดียวกันญาติบางส่วนได้ทำการเชิญหมอทางไสยศาสตร์หรือร่างทรงมาทำพิธีตามความเชื่อ แต่น่าแปลกใจเมื่อทั้งหมดกลับมีคำตอบเหมือนกันหมดว่า ผู้สุญหายยังจมอยู่จุดเดิมแต่อยู่ใต้น้ำถูกผิดบังไม่ให้มองเห็น
นายไพบูรณ์ หูเขียว อายุ 51 ปี น้องชายผู้สูญหาย กล่าวว่า ตลอดระยะ 6 วันที่ผ่านมา บรรดาญาติพี่น้องทุกคนที่มานอนเฝ้ารอประจำอยู่ริมทะเลโดยไม่ห่างไปไหน ทุกคนมีความหวังมาก ว่าจะพบตัวพี่ชาย ถึงแม้จะเป็นร่างที่ไร้วิญญาณก็ตาม เพราะขณะนี้คงยากที่จะเป็นผู้รอดชีวิต เพื่อที่จะได้นำไปประกอบพิธีตามศาสนาอิสลาม แต่ก็รอวันแล้ววันเล่า ก็ยังไม่พบ ทุกฝ่ายค้นหากันทุกวิถีทาง ตั้งแต่เช้ายันค่ำ แม้แต่เบาะแสหรือวี่แววก็ไม่มี กำลังใจของบรรดาญาติญาติพี่น้องก็น้อยลงไปทุกวัน ทำได้แต่เพียงรออย่างมีความหวัง ถึงแม้จะเสียชีวิตแล้วก็ขอให้ได้ร่างกลับคืนมา เพื่อจะได้เจอร่างเป็นครั้งสุดท้าย
ด้าน นายขจรศักดิ์ เจริญโสภา ผวจ.ตรัง กล่าวว่า เบื้องต้นคาดว่าผู้สูญหายน่าจะผูกตัวเองติดอยู่กับเครื่องยนต์เรือ เพราะขณะนี้ยังไม่พบแม้แต่เรือ ถ้าหากเสียชีวิตจริงและไม่ได้ผูกติดกับเรือ ศพก็จะลอยขึ้นเหนือผิวน้ำ ขณะนี้ได้ปรับแผนยกระดับ โดยการประสานชุดประดาน้ำเข้ามาสมทบกับที่มีอยู่ให้เพิ่มขึ้น และทำการคลุมพื้นที่ให้เหลือเฉพาะส่วนที่สำคัญ เพื่อการค้นหาได้อย่างรวดเร็ว ตนก็ได้มาให้กำลังใจในทุกฝ่ายเพื่อที่จะค้นหาผู้สุญหาย
ขณะที่ นายธนิต ชูเพ็ง หรือ สจ.เอียด ส.อบจ. อ.หาดสำราญกล่าวว่า สืบเนื่องจากวานนี้ตนเองได้ไปพบผู้ว่าฯ ก็ได้มีการให้ลงมาในพื้นที่ เพราะว่าผู้สูญหายไม่ได้อยู่บนผิวน้ำแล้ว โดยน่าจะอยู่ใต้น้ำ ในวันพรุ่งนี้ก็ได้ประสานนักประดาน้ำ ทางทหารเรือ มูลนิธิ ตำรวจน้ำ มนุษย์กบ และชาวประมงพื้นบ้าน เพื่อที่จะมุ่งการค้นหาไปใต้น้ำทั้งหมด และจะมีการวางแผนวางระบนอย่างชัดเจน และจะสแกนสถานที่ทั้งหมด อุปสรรคที่เกิดขึ้นคือคลื่นลมแรง นักประดาน้ำไม่สามารถดำน้ำลึกลงไปได้ใต้น้ำ และมองได้เพียงแค่ไม่ถึง 1 เมตร จากการสรุปเบื้องต้นร่างผู้สูญหายพร้อมเรือน่าจะอยู่ในเพิงหินใต้น้ำ ซึ่งมีอะไรทับไว้ที่ไม่สามารถโผล่ขึ้นน้ำมาได้ ซึ่งน่าจะอยู่ในจุดที่จม หรือห่างไปทางทิศตะวันออก 500 เมตร หรือทิศตะวันตก 500 เมตร เพราะบริเวณดังกล่าวเป็นร่องน้ำลึก น้ำลึกประมาณ 14-15 เมตร ซึ่งประกอบไปด้วยหิน และทราย ตนมองว่าพรุ่งนี้น่าจะเจอร่างผู้สูญหาย ข่าวคืบหน้าจะรายงานให้ทราบต่อไป.
"คมชัดลึก ลึกยิ่งกว่าข่าว" ภาพ/ข่าว ถนอมศักดิ์ หนูนุ่ม ผู้สื่อข่าวภูมิภาค จังหวัดตรัง