59 กะหร่างบางกลอย ยังดื้อไม่ออกจากป่า ยื่นข้อเสนอ7ข้อ
59 กะหร่างบางกลอย ยังดื้อไม่ออกจากป่า ยื่นข้อเสนอ7ข้อ
จากกรณีเมื่อวันที่ 23 ก.พ.2564 จนท.กรมอุทยานฯเข้าเจรจากับชาวกะหร่าง นำโดยนายนอแอ๊ะ มีมิ ลูกชาย ปู่คออี้ มีมิ ที่เข้าไปอยู่บนผืนป่าบางกลอยบน หรือบ้านใจแผ่นดินจำนวนกว่า60คน ให้กลับลงมาที่หมู่บ้านเพื่อพูดคุย และหาทางช่วยเหลือ โดยกลุ่มชาวกะหร่างยังไม่ยินยอมออกจากป่า ยื่นข้อเสนอส่งตัวแทนออกจากป่า นำข้อเรียกร้องไปให้จนท.พิจารณา ในวันที่25ก.พ. ตามข่าวที่ได้เสนอไปแล้ว
ความคืบหน้า เมื่อเวลา 10.00น.วันที่ 25ก.พ.2564 นายจงคล้าย วรพงศธร ผู้ตรวจราชการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติ และสิ่งแวดล้อม นายประกิต วงศ์ศรีวัฒนกุล รองอธิบดีกรมอุทยานฯ นายณัฐวุฒิ เพ็ชรพรหมศร รองผวจ.เพชรบุรี นายพิชัย วัชรวงษ์ไพบูลย์ ผู้อำนวยการสำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ที่ 3 สาขาเพชรบุรี นายประสูติ หอมบรรเทิง นายอำเภอแก่งกระจาน พร้อมเจ้าหน้าที่กอ.รมน.จ.เพชรบุรี หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง กว่า20นาย เดินทางไปยังศาลาพอละจี กลางหมู่บ้านบางกลอย ม.1 ต.ห้วยแม่เพรียง อ.แก่งกระจาน จ.เพชรบุรี
เมื่อคณะของผู้ตรวจราชการฯ ขึ้นไปยังศาลาพอละจี พบว่ามีชาวกะหร่างชายหญิง นั่งรอคอยอยู่บนศาลากว่า 50คนโดยนายจงคล้าย ได้บอกกับชาวบ้านว่ามาวันนี้ ขอให้ชาวบ้านบอกข้อเท็จจริงเรื่องความเดือดร้อน ซึ่งวันนี้มีหลายหน่วยงาน ที่เตรียมเข้ามาแก้ไขช่วยเหลือได้ในทันที โดยนายจตุพร บุรุษพัฒน์ ปลัดกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติฯ ได้ให้กรมทรัพยากรน้ำ มาสำรวจตรวจสอบว่า บริเวณพื้นที่ตรงไหน ที่จะสามารถช่วยแก้ไขเรื่องน้ำในการเกษตรได้ เพราะทราบว่าชาวบ้านเดือดร้อนในเรื่องน้ำ
ส่วนในเรื่องปัญหาที่ดินทำกิน เวลานี้ทราบว่ามีจำนวน116 ราย ที่เคยมีการสำรวจให้สิทธิ อยู่ทำกินอย่างถูกต้อง โดยเจ้าหน้าที่ตรวจสอบพบว่า ที่ดำเนินการไปแน่ชัด มีจำนวน61ราย ส่วนที่เหลืออีก55ราย ยังไม่ชัดเจนว่าผู้ใดมีที่ดินทำกินกี่ไร่แน่ ก็จะให้เจ้าหน้าที่ดำเนินการตรวจสอบรังวัดใหม่ ให้แน่ชัดทั้ง61ราย และอีก55ราย ก็จะได้ชัดเจนถูกต้อง
ด้านกลุ่มกะหร่างจำนวน4คนที่เดินออกจากป่าใจแผ่นดิน ได้นำจดหมายเขียนข้อความ เรียกร้องจาก นายนอแอ๊ะ มีมิ ลูกชาย ปู่คออี้ มีมิ จำนวน7ข้อ ใจความว่า ข้อเสนอการเจรจา เขียนที่บางกลอยบน
1.พวกเราชาวบ้านบางกลอย ยืนยันว่าต้องการอยู่ในพื้นที่เดิม ที่เคยอยู่มาก่อน
2.คนที่ไม่มีความประสงค์จะกลับขึ้นไป ก็คนได้รับการจัดสรรที่ดินให้สามารถทำกินได้
3.ปฎิบัติการเมื่อวันที่22กุมภาพันธ์2564 มีการกระทำของเจ้าที่ ทำให้สิ่งของบางยังเสียหาย เช่นไฟฉาย แผ่นโซล่าเซล ไฟฉาย
4.ให้เจ้าหน้าที่ หยุดปฎิบัติการต่างๆ ในขณะที่มีคณะทำงานที่ถูกส่งมาจากกระทรวงโดยตรง
5.ให้สื่อหรือเจ้าหน้าที่ หยุดชี้นำให้พวกเราชาวบ้าน และหยุดกล่าวหาว่าพวกเรา ไม่ใช่คนไทย
6.ให้มีกระบวนการพิสูจน์สิทธิ์ โดยมีทั้งหน่วยงานรัฐ และนักวิชาการมีส่วนร่วมเรื่องไร่หมุนเวียน
7.เราจะรอจนกว่าคณะทำงานที่ถูกส่งมาจากกระทรวง จะหาข้อยุติร่วมกับคนกลาง
หลังรับจดหมายข้อเรียกร้อง นายจงคล้ายก็บอก กับกลุ่มตัวแทนจะนำเรื่องดังกล่าวไปประชุมหารือกับผู้บังคับบัญชา เพื่อดูแนวทางว่า จะดำเนินการตามข้อเรียกร้อง ได้มากน้อยหรืออย่างไร
ต่อมาคณะของนายจงคล้าย ได้เดินสำรวจพื้นที่การเกษตร ว่ามีพื้นที่ตรงไหนที่ไม่สามารถทำเกษตร เนื่องจากขาดน้ำบ้าง ก็จะเร่งดำเนินการแก้เล็กๆไขโดยเร็ว รวมทั้งได้เห็นมีเด็กเล็กมาก จึงได้ปรึกษากับนายนายณัฐวุฒิ เพ็ชรพรหมศร รองผวจ.เพชรบุรี เพื่อหาทางช่วยเหลือ โดยจะส่งทีมแพทย์เข้ามาช่วยดูแลเด็กๆต่อมาเมื่อเวลา18.30น.นายสุรพล นาคนคร ประธานองค์กรอนาคตเพชรบุรี ภาคีเครือข่ายเซพแก่งกระจานป่าของโลก ได้เดินทางเข้าร้องทุกข์กล่าวโทษ ต่อพนักงานสอบสวนสภ.แก่งกระจาน ว่าได้พบเห็นกลุ่มชาติพัธุ์ชาวกะหร่าง มีนายนอแอ๊ะ มีมิ พร้อมพวกราว100คน ได้เข้าไปบุกรุกแผ้วถางป่า เป็นจำนวนกว่า100ไร่บริเวณห้วยสามแพร่ง บ้านบางกลอยบน ในแผ่นดินในพื้นที่อุทยานฯแก่งกระจาน โดยขอให้เจ้าหน้าที่ได้ดำเนินการติดตาม กลุ่มบุคคลดังกล่าวมาสอบสวน หากพบการกระทำความผิด ก็ดำเนินคดีตามความผิด ดังกล่าวโดยเร็ว
ทีมข่าวคมชัดลึกภาคตะวันตก