เพื่อนๆร่วมเขียนจดหมายอาลัย หลังด.ช.วัย 8 ขวบถูกดูดเข้าท่อน้ำดับสลด
เพื่อนๆร่วมเขียนจดหมายอาลัย หลังด.ช.วัย 8 ขวบถูกดูดเข้าท่อน้ำดับสลด
จากกรณีที่ 4 เด็กชายวัย 8 ขวบ ชั้น ป.2 ที่โรงเรียนแห่งหนึ่ง ในเขตอำเภอรัตนบุรี จังหวัดสุรินทร์ ลงเล่นน้ำในคลองส่งน้ำทางการเกษตรขนาดเล็กท้ายหมู่บ้านถูกแรงน้ำปากท่อ PVC ดูดเด็กชายติดลึก 2 เมตรไม่มีใครเห็น เจ้าของนาเห็นความผิดปกติของน้ำเอาไม้แหย่ดูพบมีสิ่งอุดตันท่อ ก่อนขุดและทุบออกมาพบเป็นศพเด็ก ส่วนเพื่อนทั้ง 3 ลอยคอไหลไปตามน้ำไม่ทราบเหตุการณ์ ซึ่งเหตุการณ์นี้เกิดขึ้น เมื่อวันที่ 7 มี.ค.2564 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เวลาประมาณ 12.00 น. ที่ท้ายหมู่บ้านนางเข็ม หมู่ที่ 2 ตำบลยางสว่าง อำเภอรัตนบุรี จังหวัดสุรินทร์ ซึ่งเป็นคลองส่งน้ำเพื่อใช้ในทางการเกษตร มีความกว้าง 1 เมตรยาวกว่า 1,000 เมตร ความลึกประมาณ 1 เมตร โดยจะปล่อยน้ำมาจากแหล่งน้ำธรรมชาติ และจะมีท่อ PVC ขนาด 12 นิ้ว เชื่อมต่อจากคลองปล่อยน้ำลงสู่ทุ่งนาความยาวราว 100 เมตร เกิดเหตุเด็กชายชั้น ป.2 ถูกท่อปล่อยน้ำเข้าทุ่งนาดูดเข้าไปติดอยู่ข้างในราว 2 เมตร เสียชีวิต ซึ่งความยาวท่อที่เกิดเหตุราว 100 เมตร ทราบชื่อผู้เสียชีวิตคือเด็กชายธีระศักดิ์ (สงวนนามสกุล) หรือน้องไนท์ อายุ 8 ขวบ นักเรียนชั้น ป.2 โรงเรียนบ้านนางเข็ม
ซึ่งท่อดังกล่าวเป็นท่อปล่อยน้ำเข้าทุ่งนาของ นายธวัชชัย พันธ์งาม อายุ 46 ปี โดยก่อนหน้านี้ น้องไนท์ อายุ 8 ขวบ พร้อมพวกอีก 3 คน ได้ชักชวนกันไปเล่นน้ำในบริเวณดังกล่าว ซึ่งเพื่อนน้องไนท์ทั้ง 3 คน ต่างลอยคอไหลไปตามคลองส่งน้ำซึ่งมีความยาวราว 1 กิโลเมตร ก่อนจะเดินกลับมาที่จุดเดิม โดยในขณะนั้นคลองมีความลึกราว 80 ซม. ซึ่งในจุดที่น้องไนท์เล่นอยู่เป็นปากท่อจุดที่มีท่อ PVC ขนาด 12 นิ้ว เชื่อมต่อปล่อยลงสู่ทุ่งนาซึ่งยาวราว 100 เมตร โดยคาดว่าแรงดันน้ำในขณะนั้นมีความแรง น้องไนท์อาจเอาขาทั้ง 2 เข้าไปใกล้ จึงทำให้มวลน้ำดูดร่างน้องไนท์เข้าท่อติดอยู่ด้านในลึกราว 2 เมตร ด้านนายธวัชชัย พันธ์งาม อายุ 46 ปี (เข้าของที่นา) ซึ่งกำลังเกลี่ยพื้นที่ในทุ่งนา เห็นความผิดสังเกตของน้ำ จึงได้เอาไม้ไปแหย่ดูพบว่ามีอะไรบางอย่างอุดตันท่อ จึงได้ทุบท่อพบร่างเด็กดังกล่าว พร้อมแจ้งเจ้าหน้าที่ช่วยเหลือ โดยญาติได้นำศพตั้งบำเพ็ญกุศล ในวันที่ 8 มีนาคม 2564 ที่บ้านเลขที่ 59/1 หมู่ที่ 2 บ้านนางเข็ม-ยางเดี่ยว ตำบลยางสว่าง อำเภอรัตนบุรี จังหวัดสุรินทร์ ตามข่าวที่ได้นำเสนอไปแล้วนั้น
ซึ่งล่าสุดในวันนี้ (9 มี.ค.2564) ผู้สื่อข่าวได้ลงพื้นที่ ที่บ้านเลขที่ 59/1 หมู่ที่ 2 บ้านนางเข็ม-ยางเดี่ยว ตำบลยางสว่าง อำเภอรัตนบุรี จังหวัดสุรินทร์ ซึ่งเป็นที่ตั้งศพของน้องไนท์ อายุ 8 ขวบ ซึ่งถูกท่อปล่อยน้ำเข้าทุ่งนาดูดเข้าไปติดอยู่ข้างในจนเสียชีวิต หลังไปเล่นน้ำกับเพื่อนๆ ซึ่งจุดเกิดเหตุอยู่บริเวณท้ายหมู่บ้าน อยู่ห่างจากบ้านน้องไนท์ไปประมาณ 100 เมตร ซึ่งเป็นคลองส่งน้ำของกรมชลประทานที่มาสร้างไว้ให้เกษตรกรได้ผันน้ำเข้านาในช่วงฤดูแล้ง
สำหรับบรรยากาศในงานศพน้องไนท์เมื่อช่วงเช้ามืดวันนี้ ก็ได้มีบรรดาเพื่อนๆนักเรียนที่เรียนชั้นเดียวกัน ต่างพากันเขียนจดหมายนำมาวางไว้ที่หน้าหีบศพเพื่อเป็นการไว้อาลัยเป็นครั้งสุดท้าย ก่อนที่จะได้โรงเรียนกัน โดยพบว่าข้อความต่างๆนั้นมักจะเขียนบอกให้น้องไนท์ไปดีและเกิดใหม่เป็นคนรวย มีข้าวมีรถ มีพี่น้อง ซึ่งสะท้อนให้เห็นถึงความคิดความฝันของเด็กๆที่มีต่อกัน
โดย นางหนูพิน บุญเย็น อายุ 62 ปี ซึ่งเป็นย่าของน้องไนท์ ก็ได้พาผู้สื่อข่าวเข้าไปดูบ้านและห้องนอนที่อยู่อาศัยด้วยกันกับน้องไนท์ หลังจากที่พ่อและแม่ทิ้งไว้ให้ดูแลมาตลอด 8 ปี ซึ่งเป็นบ้านชั้นเดียวปลูกเป็นเพิง ภายในมีห้องนอน 1 ห้อง และห้องว่างไว้เก็บของอีก 1 ห้อง ซึ่งนางหนูพิน ย่าของน้องไนท์บอกกับผู้สื่อข่าวว่า ก่อนที่จะมีน้องไนท์นั้น ลูกชายของตนก็คือพ่อน้องไนท์ ได้ไปทำงานลงเรือที่ภาคใต้ และได้รู้จักกับภรรยาอยู่กินกันมาจนได้น้องไนท์ จากนั้นก็ได้พากันกลับมาหาตนที่บ้าน พร้อมกับน้องไนท์ซึ่งตอนนั้นอายุเพียงไม่กี่เดือน หลังจากกลับมาอยู่ที่บ้านได้ไม่นาน แน่น้องไนท์ก็เลิกกับพ่อและหนีหายไปอย่างไร้การติดต่อ ซึ่งพ่อน้องไนท์ต่อมาก็ได้ไปทำงานรับจ้างที่กรุงเทพฯ เพื่อหาเงินส่งเสียให้ย่ากับลูก ซึ่งน้องไนท์เป็นเด็กเลี้ยงง่าย คนในหมู่บ้านต่างรักใคร่ มีอะไรก็เอามาให้กิน จนเขาจะเรียกทุกคนในหมู่บ้านว่าพ่อและแม่กันทุกคน จนกระทั่งโตมาอายุได้ 8 ปี กระทั่งมาเกิดเหตุเศร้าสลดในครั้งนี้ ซึ่งทกุคนในหมู่บ้านต่างพากันเศร้าโศกเสียใจกันเป็นอย่างมาก เพราะน้องไนท์เป็นเด็กดี ร่าเริง และมีเพื่อนเยอะ
ด้าน นายธวัชชัย พันธ์งาม อายุ 46 ปี ผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้านหมู่ที่ 2 บ้านนางเข็ม-ยางเดี่ยว ตำบลยางสว่าง อำเภอรัตนบุรี ก็ได้กล่าวว่า สำหรับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในครั้งนี้ นับเป็นครั้งแรก เพราะที่ผ่านมาก็ไม่เคยเกิดเหตุการณ์แบบนี้มาก่อน ซึ่งตนจะได้ประสานให้หน่วยงานมาดำเนินการติดตั้งตาข่ายป้องกัน โดยเฉพาะในเขตที่อยู่ใกล้ชุมชน ซึ่งช่วงนี้เป็นช่วงฤดูแล้งด้วย เด็กๆก็จะชอบมาเล่นน้ำกัน จึงอย่างจะฝากเตือนไปถึงผู้ปกครองทุกท่านด้วยว่า ให้ช่วยกันดูแลบุตรหลานของตนให้ดีด้วย อย่าได้เกิดเหตุการณ์คล้ายๆกับเหตุการณ์นี้ขึ้นมาอีกได้ และสำหรับเหตุการณ์นี้หากทราบข่าวถึงแม่น้องน้องไนท์ ซึ่งก็ไม่ทราบว่าขณะนี้อยู่ที่ไหน ก็ขอให้ได้มาดูหน้าลูกเป็นครั้งสุดท้ายด้วย ก่อนที่จะทำการเผาในวันพรุ่งนี้ คือวันที่ 10 มีนาคม ที่วัดราชรัตนาราม บ้านนางเข็ม เวลาบ่าย 3 โมงเย็น
ส่วนทางด้าน นายอุทัย บุญเต็ม อายุ 47 ปี ซึ่งเป็นพ่อของน้องไนท์ ซึ่งภายหลังจากทราบข่าว ก็ได้รีบเดินทางกลับจากกรุงเทพฯ เพื่อมางานศพลูกตั้งแต่เมื่อวานนี้ ( 7 มี.ค.) โดยได้กล่าวกับผู้สื่อข่าวเพียงสั้นๆว่า เสียใจกับเรื่องที่เกิดขึ้น ซึ่งตนมีลูกเพียงคนเดียว ส่วนเรื่องภรรยานั้นไม่ขอพูดถึง และหลังจากเสร็จงานศพลูกแล้ว ก็จะกลับไปทำงานก่อสร้างที่กรุงเทพฯเหมือนเดิมต่อไป
ภาพ/ข่าว ชูชัย ดำรงสันติสุข ผู้สื่อข่าวภูมิภาค จังหวัดสุรินทร์