ข่าว

รองโฆษก ปชป. ฉะพรรคแกนนำรัฐบาลไม่จริงใจ ย้ำจุดยืนต้องแก้ รธน.

รองโฆษก ปชป. ฉะพรรคแกนนำรัฐบาลไม่จริงใจ ย้ำจุดยืนต้องแก้ รธน.

19 มี.ค. 2564

รองโฆษกพรรคประชาธิปัตย์ ย้ำจุดยืนเดิม "รธน.ควรได้รับการแก้ไข" ฉะพรรคแกนนำรัฐบาลไม่มีความจริงใจ เน้น "ขายผ้าเอาหน้ารอด" จี้พวกไม่ออกเสียงลงมติต้องตอบคำถามประชาชนให้ได้

วันที่ 19 มี.ค. 2564 นายชัยชนะ เดชเดโช ส.ส.นครศรีธรรมราช และรองโฆษกพรรคประชาธิปัตย์ (รองโฆษก ปชป.) กล่าวถึงผลการลงมติในการแก้ไขรัฐธรรมนูญ วาระ 3 ในการประชุมร่วมรัฐสภาเมื่อวันที่ 17 มีนาคมที่ผ่านมาว่า

 

ตนยืนยันว่าได้ใช้สิทธิลงคะแนนเพื่อเห็นชอบในร่างรัฐธรรมนูญ เพราะเป็นการย้ำให้เห็นว่าพรรคประชาธิปัตย์ยังยืนยันจุดเดิมที่มองว่า รัฐธรรมนูญฉบับปัจจุบันมีข้อบกพร่องหลายประการที่สมควรแก้ไข เช่น สิทธิเสรีภาพของประชาชนที่ยังมีข้อจำกัด การดำเนินการในการปราบปรามการทุจริตที่ไม่สมเหตุสมผล กระบวนการได้มาซึ่ง ส.ส. ตามวิธีการในรัฐธรรมนูญฉบับปัจจุบันก็พบว่า ได้บุคคลที่ขาดวุฒิภาวะ แต่กลับมีความใกล้ชิดผู้ที่มีอำนาจในพรรค สามารถดำรงตำแหน่ง ส.ส.ได้ ทำให้ประชาชนเกิดความเอือมระอาถึงบุคคลประเภทนี้ว่า ทำงานไม่สมกับที่ได้รับความไว้วางใจจากประชาชน

รวมทั้งบางพรรคมี ส.ส.คนเดียวเกือบ 20 พรรค เนื่องจากอานิสงส์ของรัฐธรรมนูญที่ไม่ได้กำหนดเกณฑ์ขั้นต่ำของคะแนนเสียงเอาไว้ จึงทำให้เกิดปรากฏการณ์ที่มีพรรคร่วมรัฐบาลมากกว่า 10 พรรค และยังมีปัญหาเรื่อง "ลิงกินกล้วย" ให้ประชาชนกระแหนะกระแหนอยู่เสมอ เป็นต้น

นายชัยชนะ กล่าวต่ออีกว่า ทั้งนี้ประชาชนสงสัยในท่าทีของพรรคแกนนำรัฐบาลว่า ไม่มีความจริงใจที่จะดำเนินการแก้ไขรัฐธรรมนูญมาตั้งแต่แรก ทำเหมือนกับสำนวนที่ว่า "ขายผ้าเอาหน้ารอด" เช่น บรรจุเรื่องการแก้ไขรัฐธรรมนูญไว้ในคำแถลงนโยบายของรัฐบาล เมื่อคราวการแถลงนโยบายรัฐบาลต่อรัฐสภา พอแต่ละพรรคที่ร่วมรัฐบาลเริ่มมีการทวงถาม ประกอบกับมีมวลชนมากดดันเรื่องนี้มากๆเข้า จึงไม่สามารถฝืนกระแสได้ จึงต้องตั้งคณะกรรมาธิการวิสามัญพิจารณาศึกษาปัญหาหลักเกณฑ์ และแนวทางการแก้ไขเพิ่มเติมรัฐธรรมนูญฯ ซึ่งเรื่องดูเหมือนจะจบด้วยดี เพราะมีการพิจารณาไปถึงขั้นตอนที่จะลงมติในวาระ 3 แล้ว แต่ปรากฏว่า มี ส.ส. และ ส.ว.บางคน ไปยื่นเรื่องต่อศาลรัฐธรรมนูญให้ตรวจสอบ และทำให้มีคำวินิจฉัยที่สร้างความอิหลักอิเหลื่อให้กับสมาชิกว่า จะทำอย่างไรถึงจะถูกต้องตามกฎหมายและไม่เป็นปัญหาให้กับหลายๆฝ่ายในอนาคต

 

จึงปรากฏว่า มี ส.ส.บางพรรคหลายคนเลือกที่จะนั่งอยู่เฉยๆ ไม่กล้าออกเสียงเพื่อตัดสินใจในกรณีนี้ ดังนั้นตนเคารพคำวินิจฉัยศาลรัฐธรรมนูญ แต่ในเมื่อผลการลงมติออกมาเป็นแบบนี้ ก็ถือว่ากระบวนการทั้งหมดจำเป็นจะต้องมีการกลับไปถามประชาชนตั้งแต่แรกโดยทำประชามติว่า สมควรให้มีการจัดทำรัฐธรรมนูญใหม่หรือไม่ เพราะฉะนั้นจะเห็นได้ว่าจากเหตุการณ์ต่างๆที่ผ่านมา พอจะประมวลได้ว่า พรรคแกนนำรัฐบาลไม่ปฏิบัติตามคำแถลงนโยบายของรัฐต่อสภา และยังยอมที่จะให้เกิดคำครหาว่า "รัฐธรรมนูญนี้ออกแบบมาเพื่อพวกเรา" ติดตัวกับรัฐธรรมนูญฉบับนี้ โดยที่ไม่ยอมให้เกิดการแก้ไขเพิ่มเติมใดๆทั้งสิ้น

"ผมลงมติให้ผ่านในวาระ 3 และคิดต่อไปว่า จะเอาร่างที่ผ่านการลงมติในวาระ 3 นี้ ไปให้ประชาชนทำประชามติก่อน  เพื่อยืนยันหลักการที่ว่า "ประชาชนเป็นผู้สถาปนารัฐธรรมนูญ" ซึ่งผลประชามติออกมาอย่างไร ตนก็พร้อมน้อมรับอยู่แล้ว แต่ขณะเดียวกันความจริงใจในการแก้ไขรัฐธรรมนูญให้เป็นประชาธิปไตย เพื่อประโยชน์ส่วนรวมนั้น ถือเป็นเรื่องที่ทุกพรรคการเมืองจะต้องทำให้ประชาชนเห็น ดังนั้นสิ่งที่เกิดขึ้นในการประชุมร่วมฯ เมื่อวันที่ 17 มีนาคมที่ผ่านมานั้น คนที่จะต้องตอบคำถามกับประชาชนก็คือคนที่แสดงท่าทีที่นอกเหนือจากการลงมติ เช่น การอยู่เฉยๆในห้องเมื่อถึงคราวที่ถูกเรียกชื่อ"

 

#ลาซาด้า BirthDay Sale 27-29 มีนาคม

 

รองโฆษก ปชป. ฉะพรรคแกนนำรัฐบาลไม่จริงใจ ย้ำจุดยืนต้องแก้ รธน.