พายุฤดูร้อนถล่ม จ.ศรีสะเกษ เสาไฟฟ้าโค่นล้มบ้านเรือนเสียหายกว่า 200 หลัง
ศรีสะเกษ พายุฤดูร้อนถล่ม 9 อำเภอ เสาไฟฟ้าโค่นล้มบ้านเรือนเสียหายกว่า 200 หลัง ผวจ.ศรีสะเกษ สั่งให้นายอำเภอทุกอำเภอเร่งสำรวจความเสียหายเพื่อให้การช่วยเหลือโดยด่วน
เมื่อเวลาประมาณ 17.00 น. วันที่ 21 มีนาคม 2564 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่บริเวณถนนข้างที่ว่าการ อ.ขุขันธ์ จ.ศรีสะเกษ ได้เกิดลมพายุฤดูร้อนพัดโหมกระหน่ำอย่างรุนแรง ทำให้ต้นไม้โค่นล้มลงและได้ดึงเอาเสาไฟฟ้า จำนวน 5 ต้นโค่นล้มโดนเสาไฟฟ้าได้ล้มทับตู้ยามของตำรวจ สภ.ขุขันธ์ พังเสียหายทั้งหลัง ขณะที่บริเวณถนนด้านหลัง ร.ร.อนุบาลศรีประชานุกูล ลมพายุได้พัดต้นไม้โค่นล้มหลายต้นและได้ดึงเอาเสาไฟฟ้าโค่นล้มขวางถนนจำนวน 4 ต้น โดยที่ไม่มีผู้ได้ได้รับบาดเจ็บแต่อย่างใด ขณะเดียวกัน ที่บ้านหนองม่วง ต.ทุ่ม อ.เมือง จ.ศรีสะเกษ ได้เกิดพายุพัดโหมกระหน่ำอย่างรุนแรง ทำให้บ้านเรือนของชาวบ้านโดนลมพายุพัดเอาหลังคาบ้านที่เป็นหลังคาสังกะสีปลิวลอยไปไกล บ้านบางหลังโดนลมพัดเอาหลังคาลอยปลิวไปทั้งหลัง ข้าวของเครื่องใช้ภายในบ้านได้รับความเสียหาย ต้นไม้ขนาดใหญ่โค่นล้มลง ชาวบ้านต้องพากันเดินตามหาสังกะสีหลังคาบ้านเพื่อนำเอาสังกะสีที่พอจะใช้งานได้มาทำการซ่อมหลังคา เนื่องจากเกรงว่าฝนจะตกลงมาอีกทำให้ข้าวของเสียหายมากกว่าเดิม มีชายคนหนึ่งชื่อ นายอนุรักษ์ สุนทอง อายุ 21 ปี โดนสังกะสีตกใส่ศีรษะได้รับบาดเจ็บเล็กน้อย ส่วนที่ ร.ร.บ้านหนองม่วงหนองแวง ต.ทุ่ม อ.เมือง จ.ศรีสะเกษ ลมพายุได้พัดถล่มอย่างหนัก ทำให้หลังคาอาคารเรียน ศก.02 ซึ่งก่อสร้างเมื่อปี พ.ศ.2518 ได้รับความเสียหายอย่างหนัก หลังคาอาคารเรียนพัดลอยไปไกลหลายร้อยเมตร อุปกรณ์คอมพิวเตอร์ ระบบ DLIT, DLTV จำนวน 21 เครื่อง และอุปกรณ์การเรียนการสอนต่าง ๆ ได้รับความเสียหายจำนวนมาก
นายจรัส งอมสงัด อายุ 76 ปี อยู่บ้านเลขที่ 166 ม.8 ต.ทุ่ม อ.เมือง จ.ศรีสะเกษ ซึ่งถูกลมพายุพัดบ้านพังเสียหายยับเยินทั้งหลัง กล่าวว่า ขณะเกิดเหตุตนกำลังนั่งดูทีวีอยู่ในบ้าน ปรากฏว่า ทันใดนั้นได้เกิดมีลมพายุพัดกระหน่ำเข้ามาที่บ้านของตนอย่างรุนแรง ช่วงแรกตนไม่รู้สึกอะไรแต่พอเห็นหลังคาบ้านและคอกไก่โดนลมพัดกระหน่ำปลิวลอยไปพังเสียหายยับเยิน ทำให้ตนรู้สึกตกใจมาก อีกทั้งบ้านของตนไม่สามารถที่จะใช้เป็นที่พักอาศัยได้อีกต่อไป ตนมาอยู่ที่หมู่บ้านนี้นานร่วม 20 ปี เพิ่งจะเคยพบเจอกับเหตุการณ์ที่รุนแรงแบบนี้
นายวัฒนา พุฒิชาติ ผวจ.ศรีสะเกษ เปิดเผยว่า การเกิดเหตุวาตภัยขึ้นในพื้นที่ จ.ศรีสะเกษ ครั้งนี้ ตนได้รับรายงานจาก นายบุญประสงค์ นวลสายย์ หัวหน้าสำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย จ.ศรีสะเกษ สรุปรายงานว่า ในเบื้องต้นได้รับผลกระทบจำนวน 9 อำเภอ 11 ตำบล 29 หมู่บ้าน บ้านเรือนเสียหาย 178 หลัง คอกสัตว์ 12 หลัง โรงเรียน 2 แห่ง ประกอบด้วย อ.ศรีรัตนะ อ.เมืองศรีสะเกษ อ.ไพรบึง อ.เบญจลักษ์ อ.โนนคูณ อ.ขุขันธ์ อ.วังหิน อ.ขุนหาญ และ อ.กันทรลักษ์ ซึ่งตนได้สั่งการให้นายอำเภอทุกอำเภอเร่งสำรวจความเสียหายที่เกิดขึ้นและรายงานให้ตนทราบเพื่อจะได้ดำเนินการช่วยเหลือประชาชนที่ประสบวาตภัยในครั้งนี้โดยด่วนที่สุดต่อไป
ภาพ/ข่าว ศิริเกษ หมายสุข ผู้สื่อข่าวประจำ จ.ศรีสะเกษ