เปิดเงื่อนไข-รายละเอียด "เราเที่ยวด้วยกัน" เฟส 3 ปรับปรุงใหม่ป้องกันการทุจริต | คมชัดลึก

ภายหลังที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) เห็นชอบมาตรการ "เราเที่ยวด้วยกัน" ระยะที่ 3 หรือ เฟส 3 และมาตรการทัวร์เที่ยวไทยเพื่อใช้กระตุ้นเศรษฐกิจต่อเนื่องช่วงสงกรานต์ไปจนถึงครึ่งปีหลังนั้น 

 

อ่านข่าว : ด่วน ไฟเขียว "เราเที่ยวด้วยกัน" เฟส 3 ลุ้นต่อ "คนละครึ่ง"

 

ล่าสุด (24 มีนาคม 2564) นายดนุชา พิชยนันท์ เลขาธิการสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (สศช.) ได้ออกมาเปิดเผยถึงการปรับปรุงรายละเอียดใหม่ที่จะต่างจากแบบเดิมเกี่ยวกับมาตรการ "เราเที่ยวด้วยกัน" เฟส 3 ซึ่งจะมีการขยายสิทธิเพิ่มอีก 2 ล้านสิทธิด้วยกัน

 

เลขาธิการสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (สศช.) เปิดเผยว่ามาตรการ "เราเที่ยวด้วยกัน" เฟส 3 จะมีการเปลี่ยนแปลงไปจากเดิมเล็กน้อย ในวงเงินที่เหลืออยู่ประมาณ 5,700 ล้านบาท ซึ่งจะมีการขยายสิทธิเพิ่มขึ้นอีก 2 ล้านสิทธิ ในการดำเนินการต่อจากเฟส 1 และเฟส 2 ก่อนหน้านี้ ซึ่งผู้ได้สิทธิสามารถใช้ได้ตั้งแต่เดือนพฤษภาคม ไปจนถึงเดือนสิงหาคม 2564

 

นายดนุชา เปิดเผยว่า สาเหตุที่มาตรการ "เราเที่ยวด้วยกัน" เฟส 3 อาจจะมีความล่าช้าจนทำให้ไม่ทันช่วงเทศกาลสงกรานต์ 2564 นั้น เนื่องจากระบบที่ธนาคารกรุงไทยต้องเร่งดำเนินการเพื่อป้องกันไม่ให้เกิดการฉวยโอกาสหรือทุจริตจากโครงการแบบที่ผ่านมา

 

ขณะเดียวกันวิธีใช้ "เราเที่ยวด้วยกัน" สำหรับผู้ประกอบการโรงแรม จะมีขั้นตอนเพิ่มขึ้นมาคือ ต้องมีการกดให้ความยินยอมในระบบใหม่อีกครั้ง เพื่อให้การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) สามารถเข้าไปตรวจสอบได้ และจะเอาข้อมูลห้องพักต่างๆ ที่จดทะเบียนไว้กับทางมหาดไทยฯ มาดูว่าโรงแรมแต่ละแห่งมีจำนวนห้องเท่าไหร่ ซึ่งผู้ประกอบการจะต้องแจ้งจำนวนห้องพัก ราคาให้ทาง ททท. เพื่อจะได้ดำเนินการตรวจสอบต่อไปด้วย

 

ด้านฝั่งนักท่องเที่ยวต้องลงทะเบียนและจองที่พักล่วงหน้าอย่างน้อย 7 วันเพื่อที่ธนาคารกรุงไทยจะได้ส่งข้อมูลให้ ททท. และ ททท.จะได้ตรวจสอบได้ว่าการจองนั้นมีความผิดปกติหรือไม่ และผู้ใช้สิทธิต้องสแกนใบหน้าเมื่อมีการเข้าพักในโรงแรมที่จองไว้ จากนั้นจะมีข้อมูล GPS ติดไปด้วย ในส่วนนี้เป็นขั้นตอนที่เพิ่มเข้ามาเกี่ยวกับ "เราเที่ยวด้วยกัน" เพื่อการใช้งานที่โปร่งใสมากขึ้น

 

 

เรื่องของ E-Voucher จะมีการปรับปรุงใหม่เช่นกัน จากเดิมที่เคยกำหนดไว้ 900 บาทในวันธรรมดาและ 600 บาทในวันหยุด ทีนี้ในรอบนี้ E-Voucher จะปรับมูลค่าเป็น 600 บาทต่อวันราคาเดียวเท่านั้น

 

ส่วนกรอบพื้นที่ในการเดินทางท่องเที่ยวก็มีการปรับปรุง แก้ไขใหม่เช่นกัน จากเดิมที่สามารถใช้สิทธิท่องเที่ยว พักผ่อนในจังหวัดเดียวกับภูมิลำเนาที่ตัวเองอยู่ได้ แต่รอบนี้ต้องเป็นการเดินทางท่องเที่ยวข้ามจังหวัดเท่านั้น