
วอนช่วยเหลือเด็กชายน้ำหนัก 200 กก.เป็นผู้พิการ ออทิสติกพูดไม่ได้
วอนช่วยเหลือเด็กชายน้ำหนัก 200 กก.เป็นผู้พิการ ออทิสติกพูดไม่ได้ อาศัยอยู่กับคุณตาเพียง 2 คน
จากกรณีที่นางปวีณา หงสกุล ประธาน มูลนิธิปวีณาหงสกุลเพื่อเด็กและสตรี (องค์กรสาธารณประโยชน์) ได้นำเรื่องราวของเด็กชายวัย 13 ปี ชาว ต.บ้านแดน อ.บรรพตพิสัย จ.นครสวรรค์ ซึ่งพิการและเป็นออทิสติกพูดไม่ได้ และมีน้ำหนักตัวกว่า 200 กิโลกรัม มาเปิดเผยบนเฟซบุ๊กของมูลนิธิฯ
เกี่ยวกับเรื่องนี้ ผู้สื่อข่าวเดินทางไปที่บ้านของเด็กชาย 200 กิโลกรัม รายนี้ คือ ด.ช.อ้วน วัย 13 ปี อยู่บ้านเลขที่ 76/1 พื้นที่หมู่ 7 ต.บ้านแดน อ.บรรพตพิสัย จ.นครสวรรค์ พบว่าเจ้าตัวพักอาศัยอยู่ภายในบ้านปูนชั้นเดียวกับนายเฉลียว แจ่มประแดง อายุ 80 ปี ซึ่งเป็นคุณตาเพียง 2 คนเท่านั้น
ด.ช.อ้วน ไม่สามารถใช้ชีวิตได้ตามปกติทั่วไป นอกจากน้องจะป่วยพิการพูดไม่ได้ รวมถึงมีน้ำหนักตัวมากแล้ว เวลาจะนอนยังต้องใช้วิธีการนั่งหลับแทน เพราะหากนอนในท่าเหยียดตัวตรง จะทำให้มีปัญหากับระบบหายใจติดขัด อีกทั้ง การจะเดินไปไหนก็ไปได้ไม่ไกลมากจะทำให้เหนื่อยง่าย จึงทำให้ต้องใช้ชีวิตอยู่ในเพิงไม้เป็นส่วนใหญ่ โดยคุณตาต้องคอยนำสายยางมาฉีดน้ำรดตัวให้อยู่บ่อยครั้ง เพราะเจ้าตัวมีอาการร้อนง่าย
จากการสอบถาม นายบุญเลิศ ฉ่ำเสนาะ ซึ่งเป็นตาเขย ของ ด.ช.อ้วน และเป็นผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้านอาศัยอยู่บ้านใกล้กัน เล่าว่า ชีวิตของ ด.ช.อ้วน น่าสงสาร เพราะต้องกำพร้าแม่มาตั้งแต่วัย 3 ขวบที่เสียชีวิตจากโรคมะเร็งสมอง ส่วนผู้เป็นพ่อก็ไปมีครอบครัวใหม่ ต้องอยู่ในความดูแลของตายายมาตั้งแต่เด็ก
จนกระทั่งเริ่มเข้าสู่วัย 4 ขวบ เริ่มมีปัญหาเรื่องน้ำหนักตัวเพราะกินเยอะมาก โดยสมัยนั้นจะกินข้าวจานโตๆ 2 จานต่อ 1 มื้อ รวมถึงกินขนมและนมถึงวันละ 4-5 กล่อง ทำให้น้ำหนักเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว ซึ่งตาและยายไม่สามารถขัดใจได้ เพราะหากไม่ตามใจก็จะออกอาการเอะอะโวยวายและอาละวาดอยู่ตลอด จนกระทั่ง 3-4 ปีหลังสุดก็กลายเป็นคนที่มีน้ำหนักตัวเกินกว่า 200 กิโลกรัม และต้องใช้ชีวิตอย่างลำบาก
นายบุญเลิศ เล่าต่อว่า ด.ช.อ้วน มีปัญหาทางจิต ตากับยายต้องคอยพาไปพบแพทย์เพื่อรักษาอาการทางจิตเวช โดยใช้สิทธิบัตรทองและบัตรคนพิการ แต่ระยะหลังไม่ยอมไปรักษาเพราะเขาไม่สามารถนั่งในรถได้ตามปกติ ต้องนั่งท้ายกระบะ จึงทำให้เดินทางลำบาก
อย่างไรก็ตามเมื่อวันที่ 13 เมษายน 2564 ที่ผ่านมา ยายของ ด.ช.อ้วน ก็ได้เสียชีวิตไปอีกคน จากอาการป่วยเป็นโรคเส้นเลือดหัวใจตีบต้องเข้าออกโรงพยาบาลหลายรอบจนมาเสียชีวิต จึงทำให้ขณะนี้ ตา และด.ช.อ้วน ได้เดือดร้อนหนัก เนื่องจากเงินไม่พอใช้จ่าย และต้องไปหยิบยืมญาติพี่น้องมาใช้จ่ายในชีวิตประจำวันไปเรื่อย ๆ
จึงมองว่าหากปล่อยให้เป็นเช่นนี้ต่อไปตาของ ด.ช.อ้วนจะลำบากมากขึ้น เพราะ ด.ช.อ้วนมีมีน้ำหนักตัวมาก เกรงว่าโรคจะรุมเร้าและเป็นอันตราย จึงได้มีการการนำเรื่องของ ด.ช.อ้วน ไปแจ้งกับมูลนิธิปวีณาฯ เพื่อขอให้ช่วยเหลือ ในการนำตัว ด.ช.อ้วนไปรักษา
ผู้สื่อข่าวรายงานด้วยว่า ในวันเดียวกันนี้ได้มีเจ้าหน้าที่ของ พมจ.พม. กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ สาธารณสุขจังหวัดนครสวรรค์ ที่ได้รับประสานขอความช่วยเหลือจาก มูลนิธิปวีณาฯ ได้นำสิ่งของอุปโภคบริโภคที่จำเป็น รวมถึงเงินอีกจำนวนหนึ่งเดินทางมามอบให้กับครอบครัวของ ด.ช.อ้วนบ้างแล้ว
ส่วนผู้ใจบุญรายใด ต้องการจะช่วยเหลือ ด.ช.อ้วน สามารถประสานไปได้ยังมูลนิธิปวีณาฯ หรือบริจาคตรงเข้าบัญชี ชื่อ นายสำเริง แจ่มประแดง ธนาคารกรุงไทย สาขา สลกบาตร เลขบัญชี 627-0-50101-6
รณกฤต วรณันวรกุล ผู้สื่อข่าวจังหวัดนครสวรรค์